แค้นรักสามีตัวร้าย - บทที่ 1831 นี่ผู้ช่วยของฉัน
“คุณชายรองล่ะ?”
“ไม่รู้ เราก็เฝ้าอยู่ที่นี่ตลอดไม่ใช่เหรอ?”
ทั้งสองคนมองกันไป มองกันมา หน้าตาอยากจะร้องไห้
หลังจากกานต์ออกมาแล้วก็หาทางลัดเส้นหนึ่งเจออย่างรวดเร็ว ไม่นึกเลยว่าที่นี่จะอยู่บนเขา จึงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
พี่ใหญ่นี่ชอบใช้ชีวิตแบบนี้จริงๆเลยนะ
หลังจากที่กานต์รีบออกมา ไม่นึกว่าจะเจอณิตาที่ตีนเขา
วินาทีนั้นที่ได้เจอณิตา กานต์ตะลึงเล็กน้อย ก็ไม่รู้ว่าเธอมาหากิจจาหรือเปล่า จึงอดไม่ได้ที่จะหยุดฝีเท้าลง
แต่ณิตาที่ได้เจอกานต์กลับไม่ได้แปลกใจเลยสักนิด เธอยิ้มสดใสพูดขึ้น “กิจจาอยู่ไหม?”
“ไม่อยู่”
กานต์จนปัญญาที่จะบอกณิตาว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน แต่แววตาของเขากลับเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ถามขึ้น “พี่ณิตา ช่วยอะไรอย่างสิ”
น้อยมากที่คุณชายรองของตระกูลโตเล็กจะเอ่ยปากขอความช่วยเหลือ นี่เป็นเรื่องที่ทุกคนรู้กันทั้งนั้น แต่ตอนนี้กลับขอความช่วยเหลือจากเธอ ณิตาจึงประหลาดใจอย่างบอกไม่ถูก
“เรื่องอะไรเหรอ?”
ณิตาพูดอย่างอ่อนโยน กานต์จึงพูดขึ้นด้วยความเคอะเขิน “ผมอยากไปเจอไอรา แต่ว่าผมไม่สามารถไปอย่างโจ่งแจ้งได้ ก็เลยอยากให้พี่ช่วยหน่อย”
“ได้สิ”
ณิตายิ้มขึ้นมาทันที
กานต์ยอมรับเลยว่าณิตาเป็นคนที่สวยจริงๆ ก็เหมือนกับชื่อของเธอ มาพร้อมกับกลิ่นอายและอุปนิสัยที่เป็นแบบฉบับ เหมือนลูกสาวของตระกูลร่ำรวยที่สุขุมอ่อนโยน ทำให้คนที่ได้เจอรู้สึกสบายใจ
ถ้าเธอได้อยู่กับกิจจา นั่นต้องเป็นเรื่องราวที่สวยงามแน่ๆ
กานต์กำลังครุ่นคิดอยู่ในใจ แล้วกล่าวขอบคุณณิตา ก่อนจะขึ้นรถของเธอไป
รถขับไปทางโรงพยาบาลทหาร
ระหว่างทางกานต์เล่าเรื่องที่ไอราบริจาคไตให้ฟังคร่าวๆไปรอบหนึ่ง แล้วพูดถึงเรื่องที่กำลังจะผ่าตัดอีกครั้งขึ้นมา
ณิตาจึงค่อนข้างตกใจ
คนๆหนึ่งถึงมีไตแค่ข้างเดียวก็สามารถมีชีวิตอยู่ได้ แต่ความเด็ดเดี่ยวอย่างนี้ไม่ได้มีกันทุกคน
เธอเอียงหัวมองกานต์ ผู้ชายของตระกูลโตเล็กนี่ทำให้ผู้หญิงยินยอมที่จะใช้ชีวิตอย่างไม่กลัวความลำบากและอันตรายกันทั้งนั้นเลยนะ
รู้สึกได้ถึงสายตาของณิตาที่มองมา กานต์ค่อนข้างทำตัวไม่ถูก เขาจึงรีบเปลี่ยนเรื่องคุย
“เมื่อไหร่พี่กับพี่ผมจะแต่งงานกันล่ะ?”
คำถามนี้ทำให้ใบหน้าของณิตาแดงขึ้นมาทันที
“เรื่องที่ยังไม่มีเค้าโครงอะไรเลย นายจะถามฉันทำไม?”
“พี่ชายผมค่อนข้างเก็บตัว บางเรื่องก็ไม่จำเป็นต้องให้ฝ่ายชายเอ่ยปากก่อนหรอก พี่ณิตาคิดว่าจริงไหมล่ะ?”
คำพูดนี้ของกานต์ทำให้ณิตาพยักหน้าหน่อยๆ
กิจจาน่าเบื่อเกินไปจริงๆแหละ พูดตรงๆก็บื้อสุดๆเลย
ความรู้สึกที่เธอมีให้เขาแม้แต่กานต์ก็ยังมองออก เธอไม่เชื่อหรอกว่ากิจจาจะไม่รู้สึก ไม่นึกเลยว่ายังคิดจะแต่งงานกับลูกสาวของผู้หญิงที่เป็นเมียน้อยคนนั้นอีก ช่างทำให้เธอพูดไม่ออกจริงๆ
“ถ้าพี่นายเชี่ยวชาญเหมือนนายก็คงดี”
แต่กานต์กลับยิ้มพูดขึ้น “ไม่แน่เสมอไปหรอก บางครั้งที่พี่ผมดูบื้อๆน่ะก็แสร้งทำออกมานะ พี่อย่าโดนเขาหลอกเอาล่ะ”
นี่เป็นน้องชายแท้ๆจริงๆใช่ไหม?
ณิตามองกานต์อีกครั้ง แต่ไม่ได้พูดอะไรอีก
ตอนที่รถใกล้จะถึงโรงพยาบาล ณิตาจึงจอดรถอยู่ในซอยเล็กๆ
กานต์ประหลาดใจเล็กน้อย ก็ได้ยินณิตาพูดขึ้นเบาๆ “เปลี่ยนมาใส่ชุดนี้ ฉันจะช่วยนายเตรียมของอย่างอื่นหน่อย”
ตอนที่กานต์เห็นของในมือของเธอ ก็กลุ้มใจ
“ทำไม? ไม่อยากเจอไอราแล้วเหรอ?”
“อยาก”
คราวนี้กานต์ไม่ได้พูดอะไรอีก ทั้งยังหยิบเสื้อผ้าพวกนั้นไปเปลี่ยน
ไม่นาน ณิตาก็พากานต์เข้ามาในโรงพยาบาลทหาร
เทียบกับเมื่อก่อน โรงพยาบาลทหารเข้มงวดขึ้นเยอะเลย แทบทุกคนที่เข้ามาต้องโดนซักถามกันทั้งนั้น
กานต์ค่อนข้างเป็นกังวล ณิตาจึงส่งแววตาที่สงบนิ่งให้แก่เขา แล้วพาเขาเดินเข้าไป
ตอนที่หยิบหนังสือรับรองออกมา ณิตาก็ชี้กานต์ที่อยู่ข้างกายแล้วพูดขึ้น “นี่ผู้ช่วยของฉัน”
อีกฝ่ายมองกานต์ครั้งหนึ่ง
กานต์เป็นกังวลขึ้นมาทันที สองคนตรงหน้านี้เขาก็รู้จัก แทบจะได้เจอกันบ่อยๆด้วยซ้ำ แต่อีกฝ่ายกลับจำกานต์ไม่ได้ แค่มองแล้วพูดขึ้น “เข้าไป”
ณิตารีบพากานต์เดินเข้าไป
กานต์หน้าตาประหลาดใจ แต่ณิตากลับเม้มปากยิ้มๆ “บอกฉันมาก่อนว่าไอราอยู่ห้องไหน? เราเข้าไปเยี่ยมกันก่อนเถอะ”
“307”
กานต์รีบบอกเลขห้องของไอรา
ณิตาพากานต์มาถึงห้องของไอรา สิงหราชก็อยู่ ตอนที่พวกเขาเห็นณิตา ไอราก็คึกคักขึ้นมาทันที
“ณิตา เธอมาแล้วเหรอ? เธอรู้ได้ไงว่าฉันอยู่ที่นี่?”
ไอรากระโจนเข้าไปกอดณิตาด้วยความดีใจ
ณิตาโดนแรงของเธอกระโจนเข้าใส่จนเกือบจะล้ม ฝืนยิ้มพูดขึ้น “ไม่ได้บอกกันว่าตอนนี้เธออ่อนแอมากหรอกเหรอ? ทำไมแรงยังเยอะอยู่เลย?”
“ฉันอ่อนแอตรงไหน? เธอไปฟังใครพูดจาเหลวไหลมาอีกล่ะ?”
ไอราร่าเริงสุดๆ
อยู่ที่นี่แม่กับน้องชายคอยดูแลเธออยู่ตลอด ราวกับเธอเป็นตุ๊กตาที่เปราะบางอย่างนั้นแหละ เธออยากมีอากาศที่ได้หายใจอย่างอิสระสักหน่อยจริงๆ ดีที่ณิตามาแล้ว
จะเป็นไปได้ยังไงที่ณิตาจะไม่รู้ว่าไอรารู้สึกยังไง เธอปล่อยไอราออก ยิ้มพูดขึ้น “เธอน่ะ ก็ลิงป่าดีๆนี่เอง ตอนแรกที่บริจาคไตให้กานต์ทำไมไม่คิดๆบ้างว่าตัวเองจะมีวันนี้?”
“เธอก็รู้เหรอ?”
ไอรากลุ้มใจจะแย่แล้ว
เธอ “เฮ้อ” ออกมาแล้วนั่งลงไปบนเตียง บ่นๆ “เขาใกล้จะตายอยู่แล้ว ฉันจะเอาไตข้างหนึ่งไปทำอะไรล่ะ? อีกอย่างนะ คนเรามีไตข้างเดียวก็ใช้ชีวิตอยู่ได้นี่นา”
“ใช่จ้า มีชีวิตอยู่ได้ มีชีวิตที่เหมือนตายไปแล้วครึ่งหนึ่งน่ะ เธอดูเธอสิแต่ก่อนมีชีวิตชีวาขนาดไหน แล้วดูเธอตอนนี้ หญิงเปราะบางชัดๆ ”
“หญิงเปราะบางไม่ดีเหรอ? กลับกันท่าทางของฉันเมื่อก่อนอาจจะมีคนชอบไม่กี่คนก็ได้”
ไอรานึกถึงคุณหญิงพวกนั้นที่สรรเสริญเยินยอต่อหน้าเธอสุดๆ แต่ลับหลังกลับรังเกียจเธอ ท่าทีที่รังเกียจจนทนไม่ไหวทำให้เธออึดอัดใจมาก
ณิตายังไม่ได้พูดอะไร ก็ได้ยินกานต์พูดขึ้นมา “เธอจะสนใจคนอื่นทำไม? ทำตัวเองให้ดีก็พอ ใช้ชีวิตให้มีความสุขสิถึงจะสำคัญที่สุด ถึงยังไงชีวิตก็เป็นของเธอเอง จะมีหรือไม่มีความสุขมีแค่เธอเท่านั้นแหละที่รู้”
เสียงที่คุ้นเคยลอยเข้ามา ไอราจึงตะลึงงันไปเลย เธอค่อยๆยืนขึ้นมาจากบนเตียง ถึงได้สังเกตเห็นกานต์ที่อยู่ข้างหลังของณิตา อดไม่ได้ที่จะอ้าปากค้าง
“กานต์?”
ตอนนี้กานต์สวมชุดเดรสเจ้าหญิง พร้อมกับผมยาวสีน้ำตาล บนใบหน้าก็แต่งหน้าด้วย ถ้าเขาไม่พูดออกมา ไอรามองไม่ออกจริงๆว่าเขาคือกานต์
เธอรู้อยู่ตลอดว่ากานต์หน้าตาดี แค่คิดไม่ถึงว่าพอแต่งตัวเป็นผู้หญิงแล้วจะสวยขนาดนี้ เพียงแต่รูปร่างสูงไปหน่อยก็เท่านั้น
ไอรากำลังโอบกานต์ที่แต่งตัวเป็นผู้หญิงเอาไว้ หลังจากมองไปมองมาได้สามรอบแล้วจู่ๆก็ยิ้มออกมา
“ไม่นึกว่าจะเป็นนายจริงๆ! ใครทำให้นายเป็นอย่างนี้? พระเจ้า ทำไมถึงมีสาวสวยโผล่ออกมาที่นี่ล่ะ มาให้พี่สาวดูให้เต็มตาหน่อยเร็ว”
ขณะที่พูดไอราก็เขย่งปลายเท้ายื่นปลายนิ้วไปจับคางของกานต์ ใบหน้าหยอกเย้าและยั่วยวน
จู่ๆช่วงเอวของเธอก็รู้สึกแน่นๆ ทั้งร่างกายโดนกานต์กอดอยู่ในอ้อมอกอย่างแนบชิด เสียงที่ทั้งแหบพร่าทั้งทุ้มต่ำจึงระเบิดอยู่ที่ข้างหูในทันที