แค้นรักสามีตัวร้าย - บทที่1448 คุณอย่ามาพูดไร้สาระ
“อืม… …”
หงส์ยังไม่ทันได้ตั้งตัว เกือบจะโดนกัดถึงลิ้นเสียแล้ว แต่จณัตว์ไม่ยอมให้เธอต่อต้านเลย ดึงเธอเข้ามาอย่างถือวิสาสะ
กว่าจะรอให้เธอตอบสนองเธอก็โดนกินไม่เหลือเสียแล้ว
หงส์ผลักเขาออก ก่อนจะพูดอย่างเคืองๆ ว่า “ไม่ดูสภาพของตัวเลยเหรอคะ? หมอละ? มาปฏิบัติแบบนี้กับคนเฝ้าไข้อย่างนี้”
พูดจบเธอก็เดินออกไปอย่างหัวเสีย แต่ก็ดูเหมือนเธอจะตระหนกตกใจ
จณัตว์มองดูแผ่นหลังของเธอที่วิ่งออกไป มุมปากอดไม่ได้ที่จะแย้มยิ้มขึ้น
เขาทำอะไร?
เขาแค่มองจูบแบบดูดดื่มให้เธอ แล้วมันยังไง?
จณัตว์ขยับเล็กน้อย ก่อนจะรู้สึกว่ามันเจ็บ แต่ก็ฝืนทนต่อไป
หลังจากหงส์ออกมาจากห้องเธอก็หอบหายใจแรงออกมายกใหญ่
หงส์ถูกจณัตว์จูบเพียงในเวลาไม่กี่วัน ถึงแม้เขาสองคนจะเป็นสามีภรรยากันแล้ว แต่เธอก็รับไม่ได้นิดหน่อย
ปากเธอเจ็บไปหมด กลัวว่ามันจะบวม
ไอ้ทหารใจอำมหิตคนนั้น!
หงส์สาปแช่งเขา ก่อนจะรีบกลับไปห้องของตัวเอง และส่องกระจก ปากบวมจริงด้วย
ไร้ยางอาย!
ครั้งนี้หงส์ด่าออกมา
เธอจะออกไปเจอใครได้ยังไง
แต่ทางฝั่งจณัตว์กลับร่าเริงมาก เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาธรรศและคริชณะ อธิบายถึงสถานการณ์และขอลาหยุด
“ตอนนี้นายจะขอลาหยุด? จณัตว์ นายจะไปทำอะไร?”
ธรรศค่อนข้างแปลกใจ และไม่เข้าใจ
จณัตว์กลับยิ้มและพูดว่า “อาสามครับ ผมได้รับบาดเจ็บ”
“หนักไหม? เจ็บตรงไหน? นายรีบกลับมาเลย ฉันจะส่งนายกลับไปพักฟื้นที่ประเทศ”
ตอนแรกธรรศไม่รู้ว่าจณัตว์ได้รับบาดเจ็บ เมื่อได้ยินมือของเขาก็ตึงไปหมด
จณัตว์อึดอัดเล็กน้อย ก่อนรีบพูดว่า “ญาณินมาที่นี่”
“เธอเกี่ยวอะไรกับที่นายจะกลับมารักษา? ส่งที่อยู่มาให้ฉัน!”
จณัตว์กลัดกลุ้มอีกครั้ง
เอาละ ในที่สุดเขาก็รู้เสียทีว่าทำไมอาสามยังโสดมาจนถึงตอนนี้
อีคิวนี่… …
โถเอย!
“อาสามครับ ผมมีภรรยาที่ต้องดูแลครับ ไม่ต้องห่วง ถ้าอาว่างมากก็ลองมองหาสาวๆรอบตัวดูนะครับ”
จณัตว์พูดกล่อมไม่หยุด
ธรรศขมวดคิ้ว
“มองหาสาวอะไร? ฉันมีเวลามองหาสาวเสียที่ไหน? หลังจากเรื่องของทางประเทศFจบแล้วฉันต้องไปรายงานผลปฏิบัติ
การฟื้นฟูเมืองหลวงของที่นั่น แล้วตกลงนายจะให้ที่อยู่ฉันไหม?”
“ไม่ครับ”
จณัตว์พูดจบก็ตัดสายไป
เขาเป็นทุกข์เล็กน้อย นิสัยของอาสามชาตินี้จะหาเมียได้ไหมนี่? ตะเกียงและธูปของตระกูลทวีทรัพย์ธาดา ไม่ควรขึ้นอยู่กับเขาที่จะส่งต่อหรือไม่?
เฮ้อ!
คิดแล้วก็เศร้าใจ
เดิมทีตระกูลทวีทรัพย์ธาดาลูกหลานรุ่งโรจน์มาก ตอนนี้กลับเหลือชายสูงอายุสองคน แต่กลับไม่รีบร้อนรีบเร่งอะไร มันจะดียังไงละนี่?
จณัตว์อดไม่ได้ที่จะกังวล
หลังจากอธิบายการทำงานจบลง หัวใจของจณัตว์ก็ผ่อนคลายลงอย่างมาก
ตอนนี้เขาเพียงแต่ต้องปกป้องตระกูลแหลมวิไลและเนกษ์ให้ดี และดูแลงานศพของบิดาก็พอแล้ว
ก็เหมือนกับที่หงส์พูด ราเชนต้องการนั่งตำแหน่งนั้น ก็ต้องเคี่ยวกรำอยู่เสมอ ตอนนี้พอดีกับที่เขาต้องเคี่ยวกรำ
เมื่อคิดถึงท่าทางที่หงส์ออกไปข้างนอก จณัตว์ก็ยิ้มออกมาอีกครั้ง
หญิงสาวคนนั้นดูเหมือนจะสนใจร่างกายท่อนบนของเขา?
จณัตว์มองร่างกายส่วนบนของตนที่เต็มไปด้วยผ้าก๊อซ
ไม่รู้ว่าร่างกายเนื้อหนังนี้หงส์จะชอบหรือไม่ เมื่อเทียบกับปีก่อน ตอนนั้นเขาอ่อนปวกเปียกมาก แต่ตอนนี้เขามั่นใจมากว่า
เขาจะไม่แพ้หงส์บนเตียงแน่นอน
ว่ากันว่าหงส์ไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ ทว่าเขาไม่เชื่อ มีเขาอยู่นับประสาอะไรกับโรคร้ายที่รักษาไม่หาย แม้จะป่วยระยะสุดท้ายเขาก็ต้องลองดู
หงส์ไม่รู้ว่าจณัตว์กำลังคิดอะไรอยู่ เธอเก็บตัวอยู่แต่ในห้อง ตัดสินใจว่าเมื่อปากตัวเองไม่หายบวมจะไม่ออกไปเด็ดขาด
เมื่อนภดลได้รับข้อความว่านรมนต้องการให้เขากลับไป เขาก็ตกตะลึงเล็กน้อย แต่เขาก็รีบเก็บสัมภาระ เมื่อเขาจะออกไปก็
พบว่าปาณีเก็บสัมภาระเรียบร้อยแล้วเหมือนกัน เตรียมจะกลับไปเมืองชลธีด้วยกันกับเขา
ช่วงครึ่งเดือนที่ผ่านมา ทั้งสองคนฝึกฝนเป็นพิเศษทุกวัน
เขาเห็นกับตาตัวเองว่า จากเด็กสาวอ่อนแอคนหนึ่งอย่างปาณีได้ฝึกฝนจนกลายมาเป็นนักสู้หญิงที่มีความสามารถในการปกป้อง เขาก็ไม่พูดอะไรไม่ออกเลย
ใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นผิวสีข้าวสาลีที่ดูแข็งแรง ดวงตาของเธอก็เฉียบแหลม แต่ทันทีที่เธอเห็นนภดล เธอก็ยังหัวเราะขึ้นมา
“คุณก็จะกลับไปด้วยกันเหรอ?”
“อืม”
นภดลยังคงไม่พูดมาก หัวใจของปาณีเต้นรัวจากดวงตาสีฟ้าที่สวยงามคู่นั้น
ผู้ชายคนนี้ไม่ว่าจะเจอมรสุมอะไรมาบ้างเขาก็ยังสบายๆ มาก เธอเฉยเมยเหมือนเขาไม่ได้
“คุณนายกลับมาแล้ว ชัยยศให้ฉันกลับไปดูแล”
“อืม”
นภดลยังคงไม่พูดเยอะ
ปาณีรู้สึกประหม่าเล็กน้อย
เวลาที่ใช้อยู่กับเขามันไม่ได้สั้น แต่นภดลก็ยังคงประหยัดคำพูด นอกจากทะเลาะกับพ่อแม่ของฉัตรยาเมื่อคราวนั้น ก็เหมือนกับเขาจะไม่ได้พูดอะไรกับตัวเธอเองเกินยี่สิบประโยค
ปาณีรู้สึกหาเรื่องใส่ตัวเองเล็กน้อย
ผู้ชายตั้งมากมาย แต่กลับมาชอบคนที่ปากแข็งเช่นนี้
เธอก้มหัวลง แต่กลับเห็นมือเรียวยาวคู่หนึ่งยื่นมา ปาณียังไม่ทันได้ตอบสนองอะไร กระเป๋าเดินทางของเธอก็ถูกลากไปเสียแล้ว
“ตามมา”
เสียงของนภดลเบา เขาเดินนำออกไปแล้ว
ปาณีมองมือที่ว่างเปล่าของตัวเองอย่างตะลึง จากนั้นจึงเดินตามไป
เธอสูงไม่เท่านภดล ขายาวของก้าวทีเดียวก็เหมือนเธอเดินสองก้าวแล้ว เธอทำได้เพียงวิ่งเหยาะๆตามไป แต่มีการบ่นในใจเล็กน้อย
ไอ้คนโง่ไม่รู้ความรู้สึกของตัวเอง
จู่ๆ นภดลก็หยุดฝีเท้า ปาณีไม่ทันระวัง เลยทำให้สะดุดกับแผ่นหลังกว้างของเขา จมูกของเธอแสบไปหมด และรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย
“เกิดอะไรขึ้นคะ? จะหยุดก็บอกหน่อยสิ ฉันก็ไม่สวยอยู่แล้วนะ ถ้าจมูกเบี้ยวขึ้นมา คุณจะชดใช้ให้ไหม?”
นภดลมองหน้าของปาณีที่ขมวดคิ้วมุ่น จมูกแดงๆ ของเธอราวกับว่ามันเจ็บมากจริงๆ อดไม่ได้ที่จะนิ่งไปนิด ก่อนที่เขาจะนั่งยองๆ หน้าปาณี และพูดออกมาว่า “ขึ้นมา”
“ฮะ?”
ปาณีไม่เข้าใจ
ขึ้นมา?
ไปไหน?
ข้างหน้ามีเพียงหลังของนภดล ความกว้างและหนาของแผ่นหลังทำให้คนรู้สึกปลอดภัย
ก่อนที่เธอจะคิดถึงความหมายขึ้นมาได้ว่า
“คุณจะแบกฉัน?”
“เร็วเข้า”
เสียงของนภดลต่ำมาก แต่การคาดเดาของปาณีก็ถูกพิสูจน์ได้แล้ว เธอแย้มยิ้ม ก่อนจะขึ้นไปบนหลังของนภดลอย่างลังเล
สำหรับนภดล น้ำหนักของปาณีก็ไม่ได้ส่งผลกับเขาอยู่แล้ว เมื่อปาณีขึ้นมาอยู่บนแผ่นหลัง มือข้างหนึ่งของเขาลากกระเป๋า ส่วนอีกข้างคอยระวังปาณี ก่อนเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคง
ปาณีรู้สึกร้อนไปหมด ราวกับแค่เสื้อผ้าชิดติดกันก็สามารถทำให้เธอเขินอาย หนน้าเห่อร้อนแดงแจ๋ไปหมด
แต่ร่างกายของนภดลก็หอมสะอาดมาก เป็นกลิ่นเจลอาบน้ำ แต่บอกกลิ่นเฉพาะไม่ได้
เธอเอาหน้าของตัวเองแนบแผ่นหลังของนภดลไว้เบาๆ อุณหภูมิที่แผดเผาทำให้นภดลนิ่งไปชั่วขณะ ร่างกายที่ตึงเล็กน้อย ก็ค่อยๆ ผ่อนคลายลงในทันที
ลมหายใจอุ่นร้อนของปาณีเป่าผ่านมาถึงแผ่นหลังของเขา ดวงตาของนภดลค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นร่องรอยของความอบอุ่น
เขาจับมือของปาณีเบาๆอย่างใช้แรงเล็กน้อย เมื่อได้ยินเสียงอุทานของปาณี จากนั้นจึงเอามือปิดปาก ใบหน้าเห่อร้อนไม่ยอมหยุด มุมปากของนภดลยกขึ้นเล็กน้อย ดวงตาเป็นประกายวาบวับ
เขาไม่ได้ตั้งใจใช่ไหม?
เสียงหัวใจเต้นของปาณีชัดมาก คนที่แข็งทื่อและประหยัดคำพูดอย่างเขา ไม่ทำอะไรแบบนั้นแน่ ดังนั้นมันคงเป็นแค่อุบัติเหตุ
นภดลกลับไม่สนใจว่าปาณีจะคิดอะไร หัวใจที่สงบนิ่งอยู่นานก็สับสนเล็กน้อย
แม้ว่าการฝึกของปาณีในช่วงเวลานี้จะทำให้ผิวของเธอเข้มขึ้นเล็กน้อย แต่ความยืดหยุ่นของผิวก็ดูดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก และผู้หญิงคนนี้ไม่ชอบตัวเองหรือ? แตะนิดหน่อยก็ร้องกรี๊ด แต่งงานไปแล้วจะทำยังไง?
เมื่อคิดถึงคำว่าแต่งงาน นภดลก็ชะงักไป ดวงตาของเขามีอารมณ์สับสน
ต่อให้มีความรู้สึกลึกซึ้งแค่ไหน แต่ก็ยังไม่ถึงเวลา
เขารู้ว่าเขาเก็บฉัตรยาไว้ตรงซอกมุมหนึ่งของหัวใจ แต่เขาก็ตระหนักได้ชัดเจนว่าหัวใจของเขาก็ถูกผู้หญิงคนอื่นก้าวเข้ามาแล้ว
คนตายไปแล้ว คนเป็นต้องมองไปข้างหน้า
นี่คือสิ่งที่นรมนพูดกับเขาก่อนจะจากไป
เขาคิดว่าคงจะใช้เวลานานถึงจะสามารถเดินไปข้างหน้าได้ ไม่คิดว่าข้างกายจะมีคนคนหนึ่ง เหมือนอากาศค่อยๆ ที่เข้ามาในหัวใจของเขา
เฮลิคอปเตอร์อยู่ตรงหน้าเขา และปาณีรู้สึกตึงเครียดเล็กน้อยเมื่อเห็นนักบิน
“คุณวางฉันลงเถอะค่ะ”
ปาณีดิ้นรน แต่กลับได้ยินนภดลพูดว่า “อย่าดิ้นสิ”
“ไม่ใช่ เราจะถูกคนอื่นมองไม่ดีนะถ้าอยู่ในสภาพนี้”
ปาณียังคงดิ้นรนจะลงต่อไป ก็ได้ยินเสียงที่แววเปลี่ยนไปเล็กน้อยของนภดล
“นี่คุณไม่เห็นว่าผมเป็นผู้ชายใช่ไหม? เสียดสีต่อไปแบบนี้ไม่กลัวว่าจะปลุกอะไรให้ตื่นเหรอ?”
ปาณีชะงักทันที
พระเจ้าช่วย!
นี่เธอได้ยินคำเจ้าเล่ห์อะไรกันนี่?
เธอทำอะไร? จะไปปลุกอะไรเขานะ?
ราวกับรู้ว่าปาณีกำลังคิดอะไร นภดลพูดออกมาทีละคำว่า “ถึงแม้หน้าอกคุณจะไม่ใหญ่มากก็ตาม แต่ก็ไม่ใช่สนามบิน แปะติดกับหลังผมแล้วถูไปถูมานี่ คุณคิดจะทำอะไร?”
“ฉันไม่ได้คิดจะทำอะไร อย่ามาพูดจาเหลวไหลนะ”
“ถ้าอย่างนั้นก็ทำตัวดีๆหน่อย”
นภดลพูดจบก็รีบเร่งฝีเท้าตรงไปยังเฮลิคอปเตอร์ ทำให้ปาณีจะลงก็ลงไม่ได้ แต่ว่าคำพูดเมื่อกี้ของเขามันอะไรกันนะ?
นี่เธอไม่มียางอายที่ไหนกัน?
เมื่อนักบินเห็นพวกเขาเดินมา ถึงแม้ท่าทางของพวกเขาจะทำให้ประหลาดใจ แต่ก็ยังทำความเคารพนภดลอย่างเรียบร้อย ก่อนพูดว่า “หัวหน้านภดล คุณนายให้ผมมารับพวกคุณกลับเมืองชลธีครับ”
“ลำบากหน่อยนะ”
นภดลแบกปาณีที่บาดเจ็บขึ้นเครื่องบิน
ปาณีรีบกระโดดลงมา รู้สึกว่าตื่นตัว ขึ้นมาทั้งตัว
นภดลไม่ได้สัญญาอะไร ถึงแม้จะมาเป็นเพื่อนเขาฝึกที่เกาะ แต่เขาไม่เคยพูดอะไรกับเธอหรือเพื่อยืนยันความสัมพันธ์ จนกระทั่งเขาพูดคำเมื่อตะกี้ออกมา มันทำให้ปาณีนิ่งงันไปจริงๆ
เมื่อเห็นว่าปาณีพยายามจะหลบให้ห่างจากเขา นภดลก็ขมวดคิ้ว เขานำกระเป๋าสัมภาระวางไว้บนชั้นข้างๆ ก่อนจะหมุนกายนั่งลงข้างปาณี กลิ่นอายที่เย็นฉ่ำอบอวลอยู่ในโพรงจมูกของปาณี
เธอชะงักไปนิด
ซ้ายขวาก็มีที่ให้นั่ง แต่ทำไมนภดลต้องมานั่งข้างเธอด้วย?
แต่ปาณีไม่กล้าถาม ทำได้เพียงหันหน้าไปอีกทาง มองวิวทิวทัศน์ข้างนอก แต่ภายในใจกลับวุ่นวายไปหมด
ทันใด ศีรษะอันอบอุ่นได้เอนลงมาบนไหล่ของเธอ และเสียงแผ่วเบาก็ดังขึ้นในทันที
“ง่วงแล้ว ซบหน่อย”