แค้นรักสามีตัวร้าย - บทที่1484 นี่คุณไม่อยากเจอผมขนาดนั้น
ฉัตรพลหลุดจากม่านผืนใหญ่ในข้อหาแสวงหาอำนาจแย่งชิงบัลลังก์ และราเชนซึ่งเป็นลูกชายคนเดียวที่รอดตายของตระกูลจันทรวงศ์ได้ขึ้นเป็นพระราชา ตั้งแต่นั้นมา สงครามกลางเมืองในประเทศF ก็ได้ยุติลงอย่างสมบูรณ์
หงส์ตกใจที่ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่จณัตว์กลับไม่ได้พูดอะไรหลังจากกลับมา เขาลูบหัวเธอ ก่อนจะนำเลือดของ นภดลไปที่ห้องปฏิบัติการเพื่อเริ่มการวิจัย
สำหรับเขา ตอนนี้ประเทศFไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเขาแล้ว
สมชัยถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต ในฐานะที่หงส์เป็นญาติเธอได้ไปเยี่ยมเขา
เธอคิดไม่ถึงเลยว่าคนที่มีอำนาจคับฟ้าจะอยู่ในจุดที่มันน่าเศร้าขนาดนี้ แม้กระทั่งเข้าห้องน้ำก็ต้องการคนดูแล แต่ก็เห็นได้ชัดว่าคนที่ดูแลเขาก็ไม่ได้เต็มใจ สมชัยถูกปฏิบัติอย่างโหดร้าย แต่ยังไม่เพียงพอที่จะตาย
นี่ควรถือเป็นโทษที่หนักที่สุด การมีชีวิตอยู่เพื่อสำนึกผิด เพื่อไถ่ถอน
หงส์รู้สึกว่าตัวเองอาจจะเลือดเย็น นึกไม่ถึงว่าจะไม่มีความปั่นป่วนในใจของเธอ บางทีในตอนที่สมชัยออกคำสั่งให้ฆ่าแม่ของตัวเธอเองในครานั้น เลือดของเธอก็แข็งตัวและเย็นจัดไปเสียแล้ว
ขณะที่เธอเดินออกจากคุก เธอเห็นร่างสีขาวที่ยืนอยู่ข้างรถรอเธออยู่ไกลๆ
ความอบอุ่นห่อหุ้มเธอไว้อย่างกะทันหัน ความทรงจำที่เลวร้ายในอดีต อารมณ์เศร้าเหล่านั้นดูเหมือนจะเหือดหายไปพร้อมกับร่างกายสีขาว
“จณัตว์!”
จู่ๆ หงส์ก็ตะโกน ดวงตาของเธอเป็นประกายด้วยความสุขและคลอไปด้วยน้ำตา
ทันใดจณัตว์ก็กางแขนออก และมองดูหงส์กระโจนเข้าไปในอ้อมแขนของเขาราวกับเด็กน้อยด้วยความรัก เขากอดเธอแน่นและพูดเบาๆ ว่า “กลับบ้านกันเถอะ”
“โอเค กลับบ้านกันนะ”
หงส์ไม่เคยรู้มาก่อนว่าวันหนึ่งเธอจะรู้สึกอบอุ่นและมีความสุขกับคำว่า “บ้าน” เธอคิดเสมอว่ามันเป็นสถานที่ที่เหน็บหนาว แต่ตอนนี้เพราะจณัตว์ทุกอย่างมันเปลี่ยนไป
หลังจากที่ทั้งสองกลับมายังตระกูลแหลมวิไลแล้ว เนกษ์ก็ได้เริ่มรับช่วงต่อธุรกิจของตระกูลแหลมวิไลแล้ว เนื่องจากความสัมพันธ์พิเศษกับราเชน ตระกูลแหลมวิไลจึงใช้ทรัพย์สินของครอบครัวครึ่งหนึ่งในครั้งนี้ สนับสนุนการเปิดตัวข้อตกลงใหม่ของราเชน ให้ประชาชนได้พักฟื้น
ราเชนยังทำให้ตระกูลแหลมวิไลเป็นตระกูลใหญ่สี่ตระกูลตามที่ได้ตกลงเอาไว้
จณัตว์ได้เจอกับราเชน ก็เป็นวันที่สามแล้วหลังจากสงครามกลางเมืองสิ้นสุดลง
เขามาเยี่ยมกะทันหันในตอนกลางคืน ราเชนก็เหมือนจะรู้แล้ว พลางไล่องครักษ์ทั้งหมดออกไป
“มาแล้ว?”
ราเชนมองไปยังชายตรงหน้า ชายผู้นี้มีสายเลือดเดียวกันกับเขา เขารู้ว่าทุกอย่างที่เขาได้รับคือความร่วมมือของจณัตว์ และแม้แต่การสนับสนุนจากบุริศร์อีกด้วย
เขารู้สึกขอบคุณเขามาก แต่เขาไม่ต้องการเผชิญหน้ากับเขามากนัก หัวใจที่พัวพันยุ่งเหยิงทำให้ราเชนไม่สบายใจ
จณัตว์ไม่สนว่าใจเขากำลังคิดอะไร เขาตรงดิ่งไปยังตู้เก็บไวน์ ก่อนจะหยิบไวน์มารินให้ตัวเอง
“เฮ้ย นั่นเป็นขวดสุดท้ายที่ฉันเก็บเอาไว้”
ราเชนขมวดคิ้ว รู้สึกปวดใจ
ผู้ชายคนนี้ช่างน่ารังเกียจ
คว้าสิ่งที่สำคัญของเขาที่สุดไปทุกครั้ง
แต่จณัตว์กลับหัวเราะอย่างชั่วร้ายเล็กน้อย
“ไม่ใช่ขวดสุดท้าย ฉันยังไม่ดื่ม”
“ไอ้นี่ แก… …”
“แล้วทำไม?”
จณัตว์ยักคิ้ว ลักษณะท่าทางนั่นเหมือนนงลักษณ์มาก
ในความทรงจำที่มีอยู่อย่างจำกัดของราเชน สิ่งที่เขาจำได้มากที่สุดคือการยักคิ้วและรอยยิ้มของนงลักษณ์
บางทีแม่ก็คงชอบเขาเถอะ?
ราเชนคิดในใจเงียบๆ ด้วยดวงตาที่ลึกเล็กน้อย
เมื่อจณัตว์เห็นท่าทางเขา ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ “นายยังนึกไม่ออกเหรอ?”
“นายนึกไม่ออก ฉันก็จะมีชีวิตที่ดี อายุยืนร้อยปี อายุยืนกว่าพวกนายด้วย”
คำนี่ค่อนข้างเหมือนเด็กโกรธ แต่จณัตว์ยิ้ม
“โอเค โอเค นายอายุยืนร้อยปี นายอายุยืนยาวที่สุด พอถึงตอนนั้นแล้วรบกวนจัดงานศพของฉันให้ยิ่งใหญ่หน่อย ตกลงไหม?”
“หุบปากน่า พูดงานศพอะไรกัน?”
ทันใดราเชนก็พลันหงุดหงิด
เขาอยู่คนเดียวมาตลอดชีวิต ทำไมท้ายที่สุดต้องมาส่งญาติไปก่อนเล่า
นี่ไม่ใช่การกลั่นแกล้งเหรอ?
“ไม่ได้ นายต้องตายหลังฉัน อย่างนี้ฉันจะได้ไม่ต้องดูญาติของฉันจากไปทีละคน”
คำพูดของราเชน ทำให้จณัตว์รู้สึกปวดใจ
ถึงแม้อายุของทั้งสองจะไม่น้อยแล้ว แต่จณัตว์รู้ว่าพวกเขาขาดการพบปะกันมากมายระหว่างพี่น้องทั้งสอง
จณัตว์ก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ก่อนจะโอบกอดราเชนไว้แน่น แต่ราเชนรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย
“นายทำอะไร? ปล่อย”
“กอดกันหน่อย ตั้งแต่เล็กจนโตพี่คนนี้ไม่มีโอกาสได้กอดนาย หรือแกล้งนายเลย รู้สึกเหมือนมีอะไรขาดหายไป”
ประโยคครึ่งแรกของจณัตว์ทำให้ราเชนซาบซึ้ง แต่ครึ่งหลังกลับทำให้อารมณ์เหล่านั้นหายไป
“แกล้งฉัน? นายกำลังคิดอะไรอยู่?”
เขาผละออกจากอ้อมกอดของจณัตว์ ก่อนจะตบแขนด้วยความรังเกียจ
ท่าทางรังเกียจ ทำให้จณัตว์รู้สึกขบขัน
“น้องรัก ได้ยินว่านายชอบผู้ชาย?”
จณัตว์ทำให้ราเชนตกใจจนก้าวถอยหลังไปสองก้าว
“นายคิดจะทำอะไร?”
ท่าทางหวงเนื้อหวงตัวทำให้จณัตว์รู้สึกเพลิดเพลิน
“ให้พี่คนนี้ปลอบใจไหม? อยู่เป็นเพื่อนนายสักพัก”
“ถอยไป!”
ราเชนเหมือนกระต่ายที่ตื่นตกใจ และมีท่าทางแบบว่าถ้านายก้าวมาอีกก้าวเดียวฉันจะฆ่านายอย่างไรอย่างนั้น
จณัตว์หัวเราะคิกคัก
“ตอบสนองอะไรขนาดนั้น? ล้อเล่นไม่ได้เหรอ?”
ราเชนรู้สึกว่าหัวใจเขาจะวายตายได้ ถ้าหากได้อยู่ด้วยกันกับจณัตว์อีกครั้ง เขารีบพูดว่า “มีเรื่องอะไรก็พูดมา ไม่มีอะไรก็รีบไป”
“นี่ไม่อยากเห็นฉันขนาดนี้เลย?”
จณัตว์พูดพลางก้าวไปข้างหน้า ราเชนตกใจจนเกือบจะกระโจนหนีออกไปทางหน้าต่าง
“อย่าเข้ามานะ!”
เขากลัวพี่ชายคนนี้จริงๆ
ทำอะไร?
ไม่ว่ายังไงเขาก็เป็นผู้นำของประเทศFอยู่นะ ใครไม่กลัวเขาบ้าง? นี่คือถูกพี่ชายในไส้บีบบังคับจนเกือบกระโดดลงหน้าต่าง
เมื่อจณัตว์เห็นราเชนตกใจ เขาก็ไม่หยอกล้อแล้ว และหยิบแก้วไวน์ขึ้นมาจิบแทน
“อืม ไวน์นี่รสชาติดีนะ”
ราเชนปวดใจ
“ดื่มให้น้อยหน่อยสิ”
เขารีบเดินไปข้างหน้าจณัตว์ ก่อนจะนำไวน์ที่เหลือกลับคืนมา ไอ้ท่าทางขี้งกมันทำให้จณัตว์อยากหัวเราะร่าออกมา
“ฉันว่าอย่างไรตอนนี้นายก็เป็นผู้นำประเทศนี้ แค่ไวน์ขวดเดียว ต้องขนาดนี้เลย?”
“สงครามกลางเมืองในประเทศF ใช้กำลังคนและทรัพย์สินมากเกินไป อย่างน้อยภายในสามปีนี้มันจะไม่เจริญรุ่งเรืองขึ้นมา ท้องพระคลังว่างเปล่า ฉันที่โดนบังคับให้นั่งตำแหน่งนี้ จะเอาอะไรมาสุรุ่ยสุร่าย?”
ราเชนละปวดหัว
คนนอกมองว่าในที่สุดเขาก็ได้เป็นผู้นำประเทศ แต่มีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นที่รู้ว่า ความยุ่งเหยิงนี้แก้ไขได้ยาก ก่อนหน้านี้ ฉัตรพลและสมชัยได้ล้างคลังสมบัติเพื่อวิจัยทางการทหาร มิฉะนั้น เขาคงไม่อยากได้สายแร่ของประเทศZ หรอก
ตอนนี้มีหลายอย่างที่ต้องทำ ทั่วทุกหนแห่งต้องการเงิน เขารู้สึกทุกข์อย่างมาก
แต่จณัตว์กลับยิ้มและพูดว่า “นายนี่ทึ่มนัก นี่ยังไม่เชื่อหรือ ข้างกายนายมีนักลงทุนแต่ไม่หา นี่โง่หรือเปล่า?”
“ที่ไหนมีนักลงทุน? ถึงแม้ตอนนี้นายจะแขวนป้ายตระกูลแหลมวิไล แต่ตระกูลแหลมวิไลยังได้มอบทรัพย์สินของครอบครัวครึ่งหนึ่งเลี้ยงดู อะไรกัน? นี่อยากจะขุดทั้งหมดของตระกูลแหลมวิไล?”
ราเชนมองไปยังจณัตว์อย่างดูแคลน ความอึดอัดก่อนหน้าไม่รู้หายไปไหนแล้ว
จณัตว์วางมือบนไหล่ของราเชน เป็นผลให้ราเชนตัวแข็งทื่อ
“พูดก็พูดไป มือไม่ต้อง”
“นายไม่เข้าใจ นี่เรียกว่าความสัมพันธ์ของพี่น้อง”
“ไอ้บ้า ถอยไป”
ครั้งนี้ราเชนไม่สมหวัง แขนของจณัตว์รัดไหล่เอาไว้แน่น ก่อนจะหัวเราะคิกคัก “คนภายนอกบอกว่านายชอบผู้ชาย ฉันดูอย่างก็ไม่เหมือนนี่?”
“ฉันเป็นสมภารไม่กินไก่วัด อีกอย่างนายเป็นพี่ชายฉัน เหมือนกันยังไง?”
เดิมทีคิดว่าคำว่าพี่ชายคงไม่ออกจากปาก ใครจะไปรู้ว่าจะเรียกออกมาได้ธรรมชาติขนาดนี้
พูดจบราเชนก็เพิ่งมานึกออกว่าพูดอะไรออกไป ใบหน้าของเขาแดงเป็นลูกเชอรี่
ท่าทางนี้มันน่ารัก
จณัตว์อยากจะเอื้อมมือไปลูบหูของเขามาก
เดิมทีเขารู้สึกผิดเล็กน้อยกับน้องชายคนนี้ ตอนนี้เขาขี้อายและมีท่าทางเคอะเขิน เขาอยากจะเอาน้องชายคนนี้ห่อใส่ถุงแล้วเอากลับไปเล่นที่บ้านเสียจริง
“ซินดี้ไม่ใช่หญ้าข้างโพรงเหรอ? พูดอะไรไปตอนนี้ก็เปล่าประโยชน์ ฉันเป็นหมอ ฉันรู้ดีกว่านาย รสนิยมทางเพศของนายไม่มีปัญหา แต่เพราะพวกนายพึ่งพากันและกันมากเกินไป เลยอยากประคับประคองกันมา ซินดี้ก็มีน้องสาว ถ้านายรู้สึกติดหนี้เขา ก็ดูแลน้องสาวของเขาให้ดี”
ราเชนชะงัก ก่อนจะพยักหน้า
“อืม ใช่ แล้วก็ ข้างล่างบ้านของฉัตรพลมีห้องวิจัย นภดลอยู่ข้างใน ไม่กี่วันมานี้ฉันให้คนไปดู ตอนนี้ทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว นายให้คนกลับมาหาฉัน ร่างกายของเขาต้องการ การปรับสภาพเป็นเวลานาน”
จณัตว์เพิ่งจะนึกออกถึงจุดประสงค์ที่มา
ราเชนชะงัก ก่อนจะพูดเสียงต่ำ “นายให้คนไปดู?”
“อืม เฝ้าดูตลอดเวลา ทำไม?”
ทันใดจณัตว์ก็รู้สึกตกใจ
“คงไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับนภดลใช่ไหม?”
“ไม่เจอเขาแล้ว”
คำพูดของราเชนทำให้สีหน้าของจณัตว์แย่ลงถนัดตา
“เป็นไปได้ยังไง? คนของฉันเฝ้างออกทุกทาง ไม่มีทางเกิดเรื่องผิดพลาดแน่นอน”
ราเชนรินไวน์ให้ตัวเอง ก่อนจะพูดว่า “ตอนแรกที่เริ่มแผนของนายคนของฉันได้ควบคุมสถาบันวิจัยการทหารหมดแล้ว ตอนนั้นนภดลยังหลับอยู่ ฉันคิดว่าคนข้างในจะถูกคุมไว้หมดแล้ว น่าจะไม่มีปัญหาอะไร ดังนั้นฉันเลยเริ่มแผนก่อนหน้าของเรา รอหลังจากฉันลอบสังหารฉัตรพล และจัดการความยุ่งเหยิงในวัง ฉันวางแผนไว้ว่าจะไปนำนภดลกลับมา ใครจะรู้ว่าตอนนั้นเขาไม่อยู่แล้ว พวกนายก็กำลังยุ่งอยู่ ฉันเลยไม่ได้บอก แต่ฉันได้ส่งให้คนไปหาเขาแล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่ได้รับการติดต่ออะไรเลย”
ใบหน้าของจณัตว์เริ่มเคร่งขรึม
“แผนของเรานับได้ไร้ข้อบกพร่อง และประเทศF ก็อยู่ภายใต้กฎอัยการศึก เป็นไปไม่ได้ที่บุคคลภายนอกจะเข้ามา นอกเสียจากมีคนในประเทศติดต่อกับคนเบื้องหลัง ถึงจะสามารถเข้ามาได้ แต่ด้วยฝีมือของนภดล คนธรรมดาพาเขาไปไม่ได้แน่ ดังนั้นเป็นไปได้มากที่เขาจะโดนวางยา”
“ถ้าอย่างนั้นจะทำยังไง?”
ราเชนก็เสียใจ
นภดลเป็นเพื่อนที่นรมนห่วงใย และเป็นคนที่บุริศร์กำชับให้ดูแลอย่างดี ตอนนี้เขาหายตัวไปกะทันหัน เขาจะอธิบายกับพวกเขาว่าอย่างไร?
จณัตว์ไม่คิดว่าเรื่องจะเกิดขึ้นอย่างนี้ เขาพูดเสียงต่ำ “ตอนนี้ประเทศF จำเป็นต้องลดหย่อนภาระของประชาชนและฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ ตระกูลโตเล็กและตระกูลทวีทรัพย์ธาดาไม่ขาดแคลนเงิน นายสามารถให้เขามาลงทุนได้ ในกรณีนี้ เป็นเรื่องที่เข้าใจได้สำหรับผู้รับผิดชอบในการมาตรวจสอบ แต่ถ้ามีคนจากตระกูลโตเล็กและตระกูลทวีทรัพย์ธาดาเพิ่มมากขึ้น โอกาสในการค้นหานภดลก็จะมากขึ้นเท่านั้น คนที่อยู่เบื้องหลังก็จะหวาดกลัวบ้าง”
ราเชนชะงักงัน เขารู้สึกว่านี่เป็นวิธีที่ดี
“อืม ฉันจะทำ”
ก่อนที่เขาจะออกคำสั่ง องครักษ์คนหนึ่งก็วิ่งมาจากข้างนอก ก่อนพูด “พระราชา เกิดเรื่องแล้ว”