แค้นรักสามีตัวร้าย - บทที่1489 เจตจำนงของสวรรค์เป็นเช่นนี้
“คุณชายกานต์ ฉัน… …”
ปาณีไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไร กานต์ปล่อยเธอ ก่อนจะรีบไปยังห้องทำงาน เพื่อโทรหาบุริศร์
“คุณบุริศร์ ปาณีบอกว่าคุณอานภดลฆ่าคุณอาจณัตว์ ใช่เรื่องจริงไหมครับ?”
เป็นเวลานานที่อีกฝ่ายไม่ได้ตอบลับมา ถ้าหากไม่มีเสียงหายใจ กานต์คงคิดว่าบุริศร์วางสายไปแล้วเป็นแน่
“พูดมาสักคำสิ! แด๊ดดี้!”
กานต์น้ำตารื้น
เขารู้ดีกว่าใครๆ ว่าแม่ของเขาเฝ้าปรารถนาที่จะพบและห่วงใยญาติๆ ของเธอมากแค่ไหน ถึงแม้เขาจะไม่เคยเจอคุณอาจณัตว์มาก่อน แต่ก็ได้ยินมาว่าเขาเป็นลูกชายของคุณอารอง คุณอารองและคุณปู่หน้าตาเหมือนกันทุกประการ ดังนั้นสำหรับหม่ามี้ ลุงจณัตว์จึงแตกต่าง
ว่าทำไมหม่ามี้ถึงหมดสติไป
คำพูดของกานต์ทำให้บุริศร์ไม่รู้ว่าควรตอบอย่างไรถึงจะดี
“กานต์ ฟังพ่อนะ ดูแลหม่ามี้ให้ดี อย่าให้เธอออกมาเด็ดขาด เข้าใจไหม?”
“ในเวลานี้พ่อคุณว่าผมจะห้ามใครได้ไหม? จะห้ามหม่ามี้ได้ไหม? จะสามารถห้ามคุณน้าปาณีได้หรือเปล่า?”
กานต์ร้องให้โฮ
“ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้? คุณอานภดลเป็นอะไรไป? ทำไมเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นครับ?”
คำถามนี้ไม่มีใครให้คำตอบได้
บุริศร์แปลกใจ เห็นได้ชัดว่าเขาวางแผนไว้อย่างดี ทุกองค์ประกอบเขาจัดวางไว้อย่างเหมาะสม แม้กระทั่งในสถาบันวิจัยการทหารเขายังจัดคนของเขาเอาไว้ภายใน ก็เลยกล้าให้จณัตว์ไปติดต่อกับนภดล และการบ้าคลั่งของนภดลก็ไม่ใช่ตอนนี้ แล้วมันเกิดปัญหาขึ้นตอนไหนกัน?
“กานต์ ตอนนี้พ่อยุ่งนิดหน่อย กลับไปเราค่อยคุยกันนะ เชื่อฟังพ่อ ลูกเป็นเด็กชายที่กล้าหาญ ลูกสามารถปกป้องหม่ามี้ได้ใช่ไหม?”
“ครับ”
กานต์วางสาย เขามองไปทางห้องของนรมน ทันใดก็รู้สึกว่าไม่รู้จะต้องทำยังไงดี
ทางฝั่งบุริศร์ที่วางสายไป ลูกน้องของเขาก็รายงานว่า
“ประธานบุริศร์ ในสถานพักฟื้นไม่มีคนครับ”
“พูดอะไรนะ?”
เขาลากร่างบอบช้ำของเขาไปยังสถานพักฟื้น แต่ก็ต้องตกใจเมื่อได้ยินรายงานจากลูกน้องของเขา ก่อนที่เขาจะเข้าไปด้วยซ้ำ
“ดร.ฐานทัตไม่อยู่แล้วครับ ไม่กี่นาทีก่อนเขานั่งเฮลิคอปเตอร์ไปแล้วครับ”
“ไปไหน?”
“ไม่แน่ชัดครับ คนของเรากำลังตามไป”
คำพูดของลูกน้องทำให้บุริศร์เข้าใจว่าดร.ฐานทัตอยู่ในสถานพักฟื้นมาโดยตลอด ดังนั้นความคลั่งของนภดลจึงไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับดร.ฐานทัต หรือว่าฉัตรพลติดต่อกับดร.ฐานทัตก่อนตายกันนะ?
แต่ว่าคนของเขาอยู่ที่สถาบันวิจัยการทหาร ถ้าหากว่าคนของฉัตรพลลงมือกับนภดล เป็นไปไม่ได้เลยที่คนของเขาจะไม่ส่งข่าวกลับมา
คนคนนั้นอาจจะเป็นสมจิต!
ถึงแม้ว่าสมจิตจะเป็นคนของคุณท่านตนุวร แต่แท้จริงแล้วเธอคือบัณฑิตศึกษาที่เป็นนักศึกษาปริญญาโทและปริญญาเอก ดังนั้นไม่ว่าดร.ฐานทัต และฉัตรพลจะทำอะไรกับนภดลอย่างลับๆ ก็ตาม เป็นไปไม่ได้ที่สมจิตจะไม่รู้
ตอนนี้สมจิตตัดขาดข่าวคราว ไม่รู้ว่าเป็นตายรายดีอย่างไร แต่อย่างไรบุริศร์ก็ยังเชื่อว่าเธอยังมีชีวิตอยู่
ถ้าสมจิตยังมีชีวิตอยู่ ถ้าอย่างนั้นนภดลเกิดบ้าคลั่งขึ้นมาได้อย่างไร?
แต่ถ้าหากนภดลไม่คลั่ง จะเกิดอะไรขึ้นกับจณัตว์?
คำถามมากมายผุดขึ้นมาในหัวของบุริศร์ แต่อย่างไรเขาก็ยังแก้ไม่ตก
“เข้าไปดูหน่อย”
บุริศร์สาวเท้าเข้าไปยังสถานพักฟื้น
มีฐานการวิจัยอยู่ในสถานพักฟื้นจริงๆ ดูท่าจะมีอายุไม่น้อยแล้ว ไม่น่าจะเพิ่งสร้างขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ กล่าวอีกนัยหนึ่งเทย่าได้ทำอะไรบางอย่างอย่างลับๆ เมื่อเธอยังมีชีวิตอยู่ สถานพักฟื้นนี่เป็นฐานทัพของเธอ หรือพูดอีกอย่างคือเป็นฐานทัพของคนที่อยู่เบื้องหลังของเธอก็ว่าได้
บุริศร์อดไม่ได้ที่จะรู้สึกปวดหัวเมื่อเขาคิดว่า เทย่าไม่ได้บอกว่าใครเป็นบิดาผู้ให้กำเนิดของเขา
เรณุกาตายแล้ว เทย่าก็ตายไปแล้ว ตอนนี้ดร.ฐานทัต เป็นเพียงเบาะแสเดียวสำหรับคนที่อยู่เบื้องหลังคนนั้น
ทันใดบุริศร์ก็นึกอะไรขึ้นมาได้
“บอกคนของเราว่าต้องปกป้องความปลอดภัยของดร.ฐานทัต”
เมื่อสิ้นเสียงบุริศร์ พลันได้เกิดเสียงดังขึ้นที่นั่น จากนั้นการสื่อสารก็หยุดชะงัก
“เกิดอะไรขึ้น? รีบไปดูเร็วเข้า!”
บุริศร์รีบสั่งการให้ลูกน้องไล่ตามเฮลิคอปเตอร์ไป
“ประธานบุริศร์ครับ เฮลิคอปเตอร์ของเราถูกโจมตีและถูกยิงตก คนข้างบนไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นอย่างไรครับ”
“ดร.ฐานทัตละ?”
บุริศร์กังวลขึ้นมา
“ถูกยิงตกลงมาเช่นกันครับ ผมจะส่งคนไปตรวจดู”
ลูกน้องรีบหมุนกายออกไป
สิ่งที่น่ากังวลที่สุดมาถึงแล้ว
ถ้าหากคนที่อยู่เบื้องหลังฆ่าดร.ฐานทัต ถ้าอย่างนั้นเบาะแสทุกอย่างก็จะหายไปในอากาศ
แต่ดร.ฐานทัตเป็นคนที่ศึกษาวิจัยนภดลไม่ใช่เหรอ? ถ้าอีกฝ่ายฆ่าดร.ฐานทัต ใครบ้างที่คุ้นเคยกับโครงสร้างร่างกายของ นภดล?
คนเบื้องหลังคนนั้นคงไม่น่าจะทำเรื่องนี้
แต่ถ้าดร.ฐานทัตตายแล้วละก็ นภดลก็ไม่สามารถกลับมาได้ แล้วที่นี้เขาจะไม่กลายเป็นสุดยอดเครื่องจักรสังหารที่แข็งแกร่งที่สุดเลยเหรอ?
แต่ไหนแต่ไรมาบุริศร์ไม่เคยคิดว่าความจุของหัวสมองของเขาจะเล็กมาก แต่เขาก็คิดเรื่องนี้ไม่ออกจริงๆ
มีข้อมูลหลงเหลืออยู่ที่นี่บ้างเล็กน้อย ดูเหมือนว่าดร.ฐานทัตจะรีบเร่งและไม่มีเวลาทำความสะอาด หรือได้ยินมาว่านภดลคลั่งขึ้นมากันนะก็เลยรีบร้อนเช่นนี้?
ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่าดร.ฐานทัตไม่คาดคิดว่านภดลจะบ้าคลั่งขึ้นมา? ดังนั้นอาการของนภดลก็ไม่น่าจะเกิดจากน้ำมือของดร.ฐานทัต แต่นอกจากดร.ฐานทัตแล้วยังมีใครอีกที่ลงมือกับนภดลได้อีก?
สมองของบุริศร์ใกล้จะระเบิดแล้ว
เขาออกมาจากสถานพักฟื้น ก่อนจะให้คนของคริชณะมารับช่วงต่อที่สถานพักฟื้น บางทีทหารคงจะหาอะไรบางอย่างได้
เมื่อนรมนตื่นมาก็พบว่าลูกชายของเธอและปาณียืนเฝ้าอยู่ข้างกาย ด้วยใบหน้าที่เป็นกังวล
เธอมีปฏิกิริยากลับมาเล็กน้อย
“เป็นอะไรไป? ทำไมมายืนข้างเตียงกันละ?”
การตั้งครรภ์ทำให้เฉื่อยชา
กานต์และปาณีไม่ได้พูดอะไร ทันใดนรมนหัวสมองของนรมนก็ค่อยๆ ปรากฏเหตุการณ์ก่อนหน้าที่เธอจะหมดสติได้
พี่ชาย!
นรมนรีบยันกายนั่ง แต่กลับมึนศีรษะไปหมด พลันปาณีก็ประคองเธอเอาไว้
“คุณนาย ไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ?”
เธอมองไปที่นรมนด้วยความรู้สึกผิด
กานต์ก็ก้าวเข้ามาหนึ่งก้าว ก่อนจะพูด “หม่ามี้ครับ เรื่องก็เกิดขึ้นแล้ว หม่ามี้จะรีบร้อนอย่างไรก็ไม่มีประโยชน์ ตอนนี้สุขภาพของหม่ามี้ก็ไม่ค่อยแข็งแรง ต้องดูแลตัวเองให้ดีนะครับ ผมคิดว่าคุณอาจณัตว์ก็คงไม่อยากให้เรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับหม่ามี้”
เขาไม่เก่งในเรื่องการปลอบโยนใคร ยิ่งกว่านั้นคนนี้คือหม่ามี้ที่เขารักมากที่สุด
นรมนมองไปยังลูกชายที่โตเกินวัยอย่างเศร้าใจ ก่อนพูดว่า “ทำให้ลูกแม่ต้องกังวลซะแล้ว”
“หม่ามี้”
กานต์จับมือของนรมน และพูดว่า “คุณบุริศร์ออกไปแล้ว น่าจะออกไปหาสาเหตุที่คุณอานภดลเกิดคลั่งขึ้นมา ดังนั้นไม่ต้องกังวลใจนะครับ มีคุณบุริศร์อยู่ ต้องตรวจสอบได้ชัดเจนแน่”
เมื่อปาณีได้ยิน ดวงตาของเธอก็หลุบต่ำลง
เธอลังเล ก่อนจะพูดขึ้นมา “คุณนายคะ ฉันต้องการไปที่ประเทศF”
นรมนรู้ความรู้สึกระหว่างปาณีและนภดล ตอนนี้เกิดเรื่องนี้ขึ้นกับนภดล ปาณีก็ต้องอยากจะไปที่นั่นอยู่ทุกนาที ถ้าไม่ใช่เพราะตัวเองหมดสติไป เกรงว่าเธอคงไปนานแล้วใช่ไหม?
“ปาณี ฉันรู้ว่าเธอทุกข์ใจ แต่เธอต้องเข้าใจด้วยนะ ว่าตอนนี้นภดลไม่มีสติกับตัวเอง ถ้าเธอไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร รักษาไว้ไม่ได้แล้วยังจะพาตัวเองเข้าไปที่นั่นอีก”
“ฉันไม่สนค่ะ ไม่ว่าเขาจะเปลี่ยนไปเป็นอะไร ฉันก็อยากจะพบเขา ตอนนี้ฉันคงเป็นคนที่นภดลอยากพบมากที่สุด แม้ว่าเขาจะจำอะไรไม่ได้ และไม่รู้อะไรเลยก็ตาม ร่างกายของเขามีการตอบสนอง ฉันเชื่อว่าใจของเขาก็ต้องตอบสนองแน่ค่ะ กระทั่งเรื่องที่นภดลทำ ฉันจะรับผลที่ตามมา คุณนายจะทำอะไรฉันก็ได้ แต่ขอให้ฉันได้พบกับนภดลก่อนได้ไหมคะ? ”
ในที่สุดปาณีก็ไม่สามารถห้ามน้ำตาไม่ให้ไหลลงมาได้
ผู้ชายคนนี้เป็นคนเลว!
เขาไม่ใช่บอกเองเหรอว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น?
เขายังบอกด้วยว่าเขาจะใช้เวลาทั้งชีวิตกับเธอ
ตอนนี้มันกลายเป็นอย่างนี้ได้ยังไง?
เวลาทั้งชีวิตมันสั้นแค่นี้เองเหรอ?
หัวใจของปาณีโศกเศร้าสุดระทม
เมื่อนรมนได้เห็นท่าทางของปาณีเธอก็รู้ว่าตัวเองพูดอะไรไปก็คงไม่มีประโยชน์
“เธออยากจะทำอะไรก็ไปทำเถอะ ฉันจะให้ชัยยศเตรียมเฮลิคอปเตอร์ไว้ให้เธอ อีกอย่าง ฉันก็อยากจะไปด้วย”
“หม่ามี้”
กานต์พลันกังวลใจ
“หม่ามี้ไปไม่ได้นะครับ ร่างกายของหม่ามี้… …”
“พี่ชายของฉันเกิดเรื่องแล้ว สำหรับเด็กคนนี้ อย่าให้ฉันต้องทุกข์ใจเลย อะไรก็ทำไม่ได้ เรื่องของนภดลควรเป็นฉันที่ไป ไม่ใช่ให้พี่ชายของฉันรับช่วงต่อ ตอนนี้พี่ชายของฉันเกิดเรื่องขึ้น พี่สะใภ้ของฉันก็อยู่ที่นั่นคนเดียว พวกเธอจะให้ฉันอยู่ในบ้านดูแลครรภ์อย่างสงบได้ยังไงกัน? บางทีอาจจะเป็นความผิดฉัน ฉันไม่น่าดื้อรั้นที่จะมีเด็กคนนี้ ก่อนที่เรื่องทุกอย่างจะยังไม่จบ บางทีการมาของเด็กพวกนี้อาจเป็นความผิดพลาด”
ดวงตาของนรมนคลอไปด้วยน้ำตา
“หม่ามี้ อย่าพูดอย่างนี้สิครับ น้องชายน้องสาวไม่ใช่ความผิดพลาด พวกเขาเป็นสมบัติล้ำค่าของเรา”
กานต์ก็ร้องให้
เกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น ใครต่างก็ทุกข์ใจ
นรมนกอดกานต์ไว้แน่น ก่อนจะสะอื้นให้ “ลูกชายของแม่ ลูกไม่รู้หรอกว่าตอนนี้หม่ามี้ทุกข์ใจขนาดไหน โทษตัวเองแค่ไหน ถ้าหากเป็นแม่ที่ออกหน้าไปด้วยตัวเอง บางทีคุณอาจณัตว์ก็คงไม่ตาย”
“แต่จะเป็นหม่ามี้ที่ตาย ถ้าถึงตอนนั้นผมแด๊ดดี้กับพวกพี่ๆน้องๆ จะทำยังไงครับ? หม่ามี้ เรื่องนี้ไม่ว่าใครต้องออกหน้าไปก็ไม่มีประโยชน์ อาการคลั่งที่รุนแรงในกายของคุณอานภดลนั้นเป็นภัยที่ซ่อนเร้น ถ้าต้องโทษก็ต้องโทษดร.ฐานทัต เป็นความผิดของเขา หม่ามี้ อย่าโทษตัวเองเลยครับ”
กานต์โน้มตัวเข้าใกล้ในอ้อมกอดของนรมน เขาไม่รู้ว่าตัวเองจะปลอบหม่ามี้อย่างไรให้หม่ามี้ให้รู้สึกดีขึ้น
ปาณียิ่งเศร้าใจมากยิ่งขึ้น
เมื่อตอนที่ผู้คนต่างเศร้าสร้อย บุริศร์ก็กลับมา
“ตื่นแล้วเหรอ? รู้สึกยังไงบ้าง?”
นรมนส่ายศีรษะพลางพูด “ฉันไม่เป็นไร เมื่อตอนที่ฉันเพิ่งได้ยินข่าวก็รู้สึกรับไม่ได้เล็กน้อย ตอนนี้ดีขึ้นแล้วค่ะ”
“ผมจะให้มิลินเข้ามาดู แล้วตามคุณไป ตอนนี้ชัยยศกำลังเตรียมเฮลิคอปเตอร์อยู่ อีกเดี๋ยวพวกเราก็ได้ไปแล้ว”
คำพูดของบุริศร์ทำให้กานต์กังวล
“คุณบุริศร์ แต่ว่าร่างกายของหม่ามี้… …”
“เหลือเธอไว้ที่บ้านคนเดียวก็ไม่มีประโยชน์ เธอจะยิ่งเพิ่มความกังวลใจ และความรู้สึกผิด ซึ่งไม่เอื้อต่อการเจริญเติบโตของเด็ก ในเมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว ก็ไปเถอะ ฉันเชื่อว่าหากพวกพวกเขาเป็นสมบัติที่พระเจ้ามอบให้เราจริงๆ ในเวลานี้แด๊ดดี้ของหม่ามี้พวกเขาจะยอมรับมันด้วยกัน หากรักษาไว้ไม่ได้ นั่นก็เป็นพระประสงค์ของพระเจ้าเช่นกัน”
หัวใจของบุริศร์อึดอัดมาก แต่เขารู้ว่านรมนจะรู้สึกไม่สบายใจมากขึ้น แทนที่จะรอข่าวที่บ้าน ไปประเทศF เลยจะยังดีกว่า
ตอนนี้ทั้งฉัตรพลและสมชัยต่างก็ลาโลกไปแล้ว ราเชนเป็นคนคุมประเทศF อย่างน้อยก็สามารถรับประกันความปลอดภัยของพวกเขาได้ อีกอย่างหงส์อยู่ทางนั้นหาจณัตว์คนเดียวก็ไม่ปลอดภัย เดิมทีเรื่องนี้เป็นเพราะเขาที่ไม่จัดการให้ดีทำให้เกิดเรื่องกับจณัตว์ เขามีความรับผิดชอบ พวกเขายังต้องให้คำอธิบายแก่ผู้ที่เสียชีวิตด้วย!