แดนนิรมิตเทพ - บทที่ 1104
เมื่อเห็นว่าไม่มีใครกล้าคิดจะเอายาวิเศษอีก เฉินโม่จึงละสายตาออกมา มองกล้วยไม้หัวใจม่วงเก้าใบที่โตเต็มที่แล้ว เขาใช้พลังทิพย์ปกคลุมฝ่ามือเอาไว้ จากนั้นสอดฝ่ามือเข้าไปในหินสีดำทันที
“กล้วยไม้หัวใจม่วงเก้าใบต้องดึงขึ้นมาพร้อมราก ไม่งั้นจะทำลายประสิทธิภาพของยาได้” เหมือนเฉินโม่กำลังอธิบายให้พวกนักบู๊ฟัง แล้วก็เหมือนกำลังพูดกับตัวเอง
ระหว่างที่พูด กล้วยไม้หัวใจม่วงเก้าใบอยู่ในมือเฉินโม่แล้ว
เมื่อออกจากหินสีดำที่เจริญเติบโตอยู่ กล้วยไม้หัวใจม่วงเก้าใบเหี่ยวลงอย่างรวดเร็ว สุดท้ายเหลือเพียงดอกที่มีเก้ากลีบ ส่องแสงสีฟ้าลอยอยู่กลางอากาศ
“มหัศจรรย์มาก!”
พวกนักบู๊ที่อยู่รอบๆ เห็นแล้วงงไปหมด พวกเขาไม่เคยเห็นยาวิเศษชนิดนี้มาก่อน
ความพึงพอใจผุดขึ้นบนใบหน้าเฉินโม่ มีกล้วยไม้หัวใจม่วงเก้าใบต้นนี้ มีผลดีกับการฝึกฝนของเขามาก
เฉินโม่เขย่งปลายเท้า เตรียมกลับไปที่ริมบึง
แต่ทว่าลางสังหรณ์ไม่ดีผุดขึ้นในใจ เขาระเบิดความเร็วทั้งหมด พุ่งมาที่ริมบึงอย่างรวดเร็ว
แต่มันสายไปแล้ว
จู่ๆ บึงที่เงียบสงบ มีเกลียวคลื่นขึ้นมา กลายเป็นม่านน้ำขนาดใหญ่ ปกคลุมเฉินโม่อยู่ข้างใน
หุบเขาที่เงียบสงบ มีลมพัดอย่างรุนแรงขึ้นทันที จู่ๆ ฟ้ามืดลง เหมือนวันสิ้นโลกอย่างไรอย่างนั้น
“เกิดอะไรขึ้น”
พวกนักบู๊ตกใจจนหน้าเปลี่ยนสี มองปรากฏการณ์ประหลาดบนฟ้าอย่างตกใจกลัว ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
จู่ๆ ร่างบางที่ถูกปกคลุมด้วยชุดสีดำทั้งตัว เหาะมาจากไกลๆ ชี้ไปยังม่านน้ำที่ขังเฉินโม่อยู่
“เปิด!”
ผู้หญิงคนนั้นแผดเสียงอ่อนหวานออกมา ทั้งหุบเขาเริ่มสั่นสะเทือนอย่างแรง ชี่ฟ้าดินเริ่มเปลี่ยนไปอย่างรุนแรง ม่านน้ำนับไม่ถ้วนม้วนตัวสูงขึ้นมา กลายเป็นมังกรน้ำ แยกเขี้ยวยิงฟันกระโจนเข้าไปหาเฉินโม่
เฉินโม่ตกใจ สีหน้าจริงจังอย่างที่ไม่ค่อยได้เห็น เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมไม่มีสัตว์ทิพย์คุ้มครองกล้วยไม้หัวใจม่วงเก้าใบต้นนี้
นี่เป็นกับดักที่จะเล่นงานเขาชัดๆ!
อีกทั้งนี่ไม่ใช่ค่ายกลธรรมดา แต่เหมือนค่ายกลแสงดาวที่เจอที่เขายู่หลง ต้องเป็นผู้บำเพ็ญถึงจะวางค่ายกลนี้ได้
แต่ค่ายกลนี้ไม่ได้หลงเหลือมาจากสมัยโบราณ แต่เป็นค่ายกลที่คนวางไว้ คนที่วางค่ายกลนี้ ต้องเป็นผู้บำเพ็ญแน่ๆ
“คิดไม่ถึงว่าบนโลกนี้ ยังมีผู้บำเพ็ญที่แท้จริงอยู่ ฉันรู้จักโลกนี้น้อยเกินไปจริงๆ”
มองมังกรน้ำที่เลื้อยมาบนท้องฟ้า เฉินโม่ซัดหมัดออกไป “ทำลาย!”
พลังหมัดสีทองกลายเป็นมังกรทองขนาดเล็ก พุ่งเข้าไปหามังกรน้ำขนาดใหญ่
พลั่ก!
แม้มังกรทองจะตัวเล็ก แต่ขยี้มังกรน้ำจนแหลกเป็นผุยผงทันที แต่เฉินโม่ไม่ชะล่าใจแม้แต่น้อย เพราะนี่เป็นเพียงการหยั่งเชิงที่เพิ่งเริ่มต้นของค่ายกล
เฉินโม่ย้ายสายตาไปบนฟ้า ถามอย่างเย็นชาว่า “เธอเป็นใคร”
ผู้หญิงที่ปกคลุมด้วยเสื้อผ้าสีดำทั้งตัว ลอยอยู่กลางอากาศ มองเฉินโม่ที่โดนม่านน้ำขังไว้ด้านล่าง จากนั้นหัวเราะอย่างเย็นชา “ไม่ได้เจอกันนานเลยนะเฉินไต้ซือ!”
เฉินโม่พูดหน้านิ่ง “ดูเหมือนเรารู้จักกันสินะ”
ผู้หญิงชุดดำพยักหน้า มีความสะใจที่ได้แก้แค้นแฝงอยู่ในน้ำเสียง “ใช่ เรารู้จักกันมานานแล้ว ฉันต้องใช้กล้วยไม้หัวใจม่วงเก้าใบ กว่าจะหลอกนายมาที่นี่ได้ สิ่งที่ต้องแลกไม่น้อยเลยนะ!”
“ขนาดกล้วยไม้หัวใจม่วงเก้าใบยังยอมเสียได้ สิ่งที่ต้องแลกไม่น้อยจริงๆ” เสียงเฉินโม่ยังคงราบเรียบ
นักบู๊พวกนั้นพากันงงไปหมด รู้สึกว่ากล้วยไม้หัวใจม่วงเก้าใบต้นนี้ คงไม่ได้งอกขึ้นมาตามธรรมชาติ แต่มีคนจงใจวางไว้ที่นี่
ผู้หญิงลึกลับคนนี้เป็นใครกันแน่ คิดไม่ถึงว่าจะมีความสามารถแบบนี้!
อีกอย่างเมื่อกี้เธอเรียกเด็กนั่นว่าเฉินไต้ซือ คงไม่ใช่เฉินไต้ซือที่ฮ่านหยางคนนั้นใช่ไหม!
ผู้หญิงชุดดำกวาดตามองนักบู๊ด้านล่างอย่างเย็นชา แผดเสียงเย็นชาออกมาว่า “ไม่อยากตายก็รีบไสหัวไปซะ ค่ายกลมังกรฟ้าปกคลุมวารีเปิดออกแล้ว พลังกำลังอย่างพวกนาย เหมือนกับมดเมื่ออยู่ต่อหน้าค่ายกล”
พวกนักบู๊อายจนหน้าแดง แต่พวกเขารู้ว่าอีกฝ่ายพูดความจริง ขนาดปรมาจารย์แดนคุ้มกายยังต้านทานหมัดเฉินโม่ไม่ได้ พวกเขามีพละกำลังแค่แดนใน อวดดีต่อหน้าคนธรรมดาทั่วไปพอได้ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้ายอดฝีมือลึกลับพวกนี้ ยังสู้มดไม่ได้เลย!