แดนนิรมิตเทพ - บทที่ 1113
หลินเสวี่ยนพูดอีกว่า “อ้อ เจ้านาย คนรับผิดชอบที่นั่นชื่ออู๋หวา ถ้าคุณไม่มีเวลาไปเอง สามารถเอาสิ่งมงคลของคุณให้อู๋หวาได้ เห็นสิ่งมงคลของคุณ ก็เหมือนคุณมาด้วยตัวเอง”
เฉินโม่พยักหน้า “เข้าใจแล้ว”
หลินเสวี่ยก้มตัวคำนับแล้วพูดว่า “เจ้านายยังมีอะไรจะสั่งอีกหรือเปล่าคะ”
“ตอนนี้ไม่มีแล้ว อย่าลืมว่าตอนฉลองปีใหม่ ให้พักงานในมือเอาไว้ก่อน ไปตระกูลเฉินที่หนานซูกับฉัน” ความขบขันฉายออกมาทางแววตาเฉินโม่ แม้ตระกูลเฉินเป็นตระกูลของเขา แต่ชาติก่อนคนตระกูลเฉินไม่เป็นมิตรกับเขาเลย เชื่อว่าครั้งนี้คงเหมือนกัน มีคนจำนวนมากรอดูเขาเป็นตัวตลกในการประชุมประจำปี
“ในเมื่อพวกเขาอยากเห็นฉันเป็นตัวตลก งั้นฉันจะทำเซอร์ไพรส์พวกเขาเอง!”
หลินเสวี่ยก้มตัวคำนับอีกครั้ง “ค่ะ หลังกลับไปฉันจะรีบจัดการค่ะ”
“อืม ไม่มีอะไรแล้ว เธอตามสบายเถอะ!” เฉินโม่พูดจบก็หันหลังออกไป
มองรถที่เคลื่อนตัวอย่างต่อเนื่องด้านนอก เฉินโม่เดินตรงผ่านกลาง คนจำนวนมากสังเกตเห็นภาพนี้ แต่กลับไม่มีใครตกใจสักคน ราวกับว่าเฉินโม่ควรทำแบบนั้น
แดนเทพประสานฟ้าดิน ทุกการเคลื่อนไหวแฝงด้วยวิถีของกฎต้าเต๋า ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ระดับแดนของเฉินโม่ เหนือกว่าแดนเทพแล้ว
ตอนนี้เหม่ยหวา กรุ๊ป ต้อนรับแขกอีกกลุ่มหนึ่ง แต่แขกกลุ่มนี้กลับดูพิเศษเล็กน้อย
มองชายวัยกลางคนที่ทั้งคุ้นเคยและแปลกหน้าข้างหน้า อารมณ์มากมายผุดขึ้นมาในแววตาหลี่ซู่เฟิน
คนที่มาไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นหลี่ลี่เหวิน ลูกชายคนโตของตระกูลหลี่ พี่ชายคนโตของหลี่ซู่เฟิน ลุงใหญ่ของเฉินโม่
ปัจจุบันหลี่ลี่เหวินเป็นผู้ว่าการใหญ่ได้นานแล้ว คิดไม่ถึงว่าครั้งนี้เขาจะมาด้วยตัวเอง เห็นถึงความมุ่งมั่นของตระกูลหลี่ ที่จะทำลายเหม่ยหวา กรุ๊ป
“น้องสี่ ไม่ได้เจอกันนาน!” ในน้ำเสียงของหลี่ลี่เหวินดูปลงเล็กน้อย
เวินฉิงมองหลี่ซู่เฟิน แล้วพูดอย่างราบเรียบว่า “ประธาน ฉันขอตัวออกไปก่อนนะคะ!”
ทว่าหลี่ซู่เฟินพูดด้วยใบหน้าแน่วแน่ว่า “ไม่ต้อง เสี่ยวฉิง เธออยู่นี่แหละ!”
เวินฉิงมองหลี่ซู่เฟินอย่างประหลาดใจ แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ “ค่ะ”
หลี่ลี่เหวินขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่ค่อยชอบการกระทำของหลี่ซู่เฟินเท่าไรนัก
หลี่ซู่เฟินเชิดหน้าเล็กน้อย พูดด้วยเสียงเย็นชาว่า “เสี่ยวฉิงอยู่กับฉันตั้งแต่แปดขวบ ฉันเห็นเธอเป็นคนสนิทตั้งนานแล้ว นายมีอะไรก็พูดมาตรงๆ ไม่ต้องอ้อมค้อม!”
หลี่ลี่เหวินมองเวินฉิงที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความซาบซึ้ง ถอนหายใจแล้วพูดว่า “ได้!”
หลี่ลี่เหวินสะบัดมือให้พวกลูกน้องด้านหลัง บอกให้พวกเขาออกไป
ลูกน้องพวกนั้นไม่ค่อยเต็มใจ มองหลี่ซู่เฟินกับเวินฉิงอย่างหวาดระแวง หัวหน้าบอดี้การ์ดของหลี่ลี่เหวินพูดเสียงขรึมว่า “หลี่……”
แต่เขาเพิ่งพูดออกมา ก็โดนหลี่ลี่เหวินพูดขัดด้วยเสียงเย็นชาว่า “ออกไป พวกนายคิดว่าเธอสองคนทำร้ายฉันได้เหรอ”
จู่ๆ พวกลูกน้องก้มหน้าอย่างนอบน้อม แล้วถอยออกไปข้างนอก
หลี่ลี่เหวินมองหลี่ซู่เฟิน สีหน้าผ่อนคลายลงเยอะ น้ำเสียงเหมือนมีอะไรอยู่ในใจ “น้องสี่ มาถึงขั้นนี้แล้ว ฉันก็จนปัญญาเหมือนกัน หวังว่าเธอจะให้อภัย!”
หลี่ซู่เฟินยิ้มเย็นชา แล้วพูดว่า “ประธานหลี่ไม่จำเป็นต้องอธิบายหรอก ชนะเป็นเจ้า แพ้เป็นโจร เป็นกฎของการทำธุรกิจมาโดยตลอด ในเมื่อฉันเดินมาได้ถึงทุกวันนี้ ฉันยอมรับความพ่ายแพ้ได้อยู่แล้ว!”
หลี่ลี่เหวินขมวดคิ้ว “น้องสี่ จนถึงวันนี้ เธอก็ไม่ยอมเรียกฉันว่าพี่อีกเหรอ”
หลี่ซู่เฟินยิ้มเย็นชา “พี่เหรอ พี่ที่ทำให้เหม่ยหวา กรุ๊ปที่ฉันสร้างมาอย่างยากลำบาก อยู่ในสภาพอับจนหนทางงั้นเหรอ หรือพี่ที่เอาแต่จะฆ่าแกงลูกชายฉัน!”
เสียงของหลี่ซู่เฟินสูงขึ้นทันที คำถามแต่ละอย่างเหมือนกระบี่คม จี้อยู่ที่คอหลี่ลี่เหวิน
หลี่ลี่เหวินเถียงไม่ออก