แดนนิรมิตเทพ - บทที่ 122
บทที่ 122
เวลาตี4 15นาที เฉินโม่ลืมตาขึ้นอย่างรวดเร็ว มีแสงสีทองลากผ่านดวงตาของเขาไปเป็นทางยาว ไม่กี่นาทีก็หายไป
เฉินโม่อ้าปากคายออกมา ก็มีกระบี่ชี่ที่เปลี่ยนมาจากพลังทิพย์ ฟันเข้าไปที่โต๊ะด้านหน้าอย่างแรง
โครม!
โต๊ะตัวนั้นแหลกละเอียดจนกลายเป็นขี้เลื่อยกระเด็นเต็มพื้น ฟุ้งกระจายไปเต็มห้อง
เฉินโม่นั่งอยู่ท่ามกลางฝุ่นผง แต่ก็ไม่ได้สะทกสะท้าน ต่อให้เป็นผงที่เล็กแค่ไหน ก็ไม่มีทางหล่นมาติดตัวของเขาได้
“ชั้นสองแดนรวมพลัง พลังทิพย์เปลี่ยนเป็นกระบี่!”
จุดสังเกตของชั้นสองแดนรวมพลังก็คือ การปล่อยพลังทิพย์ออกมาด้านนอก สามารถเปลี่ยนเป็นกระบี่ได้ โจมตีศัตรูได้ ระยะที่พลังทิพย์จะปล่อยไปได้ ขึ้นอยู่กับผลการฝึกของตนเอง พลังของเฉินโม่ในตอนนี้ พลังทิพย์สามารถปล่อยออกมาได้3เมตร ถ้าพลังทิพย์เปลี่ยนเป็นกระบี่ ก็จะสามารถโจมตีศัตรูได้ไกล10เมตร
“ในที่สุดเราก็เข้าสู่ชั้นสองแดนรวมพลัง สามารถเลือกวิชากลั่นร่างสักอย่างมาฝึกเสริมได้แล้ว เพื่อแก้ปัญหาจุดอ่อนของผู้บำเพ็ญ!”
“แต่ว่า จะเลือกวิชากลั่นร่างแบบไหนดีล่ะ?” เฉินโม่ครุ่นคิด
ชาติที่แล้ว เขาฝึกวิชาร่างทองแข็งหมุนเก้าของสำนักเสวียนเต๋า ถึงแม้จะรุนแรง แต่ว่าฝึกยาก ทรัพยากรที่ต้องใช้ก็มีจำนวนมากจนน่ากลัว ต่อให้เป็นการรวบรวมของสำนักเสวียนเต๋า แต่ก็ต้องให้เฉินโม่ออกไปค้นหาเองด้วย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงดาวโลกที่มีทรัพยากรขาดแคลนแบบนี้เลย
“จากสถานการณ์ของโลกไอกาในตอนนี้ จำเป็นต้องเลือกวิชากลั่นร่างที่ใช้ทรัพยากรน้อยที่สุดมาฝึก แล้วจะเลือกวิชาไหนดี?”
จากการพิจารณา สุดท้ายเฉินโม่ก็เลือกวิชาร่างไม่สิ้นสูญหุนหยวนของสำนักหุนหยวน
วิชาร่างไม่สิ้นสูญหุนหยวนเป็นวิชาสุดยอดของสำนักหุนหยวน พอฝึกถึงขั้นสูงแล้ว สามารถทำให้ร่างเต๋าไม่ดับสลาย แต่ว่าวิชาแขนงนี้มีข้อเสียอย่างหนึ่ง ฝึกได้แต่กับร่างกาย แต่พละกำลังไม่มีอะไรเพิ่มขึ้นเลย ดังนั้นต่อให้เป็นลูกศิษย์ของสำนักหุนหยวนก็มีคนฝึกน้อยมาก
วิชาร่างทองแข็งหมุนเก้าที่เฉินโม่ฝึกในชาติก่อน ฝึกได้อย่างลึกซึ้ง แต่ไม่ถึงขั้นร่างเต๋าไม่แตกสลาย ก็เพิ่มพละกำลังให้แข็งแกร่งขึ้นมาก เป็นวิชากลั่นร่างระดับต้นๆ เหมือนกัน แต่เมื่อเทียบกันแล้ว คนส่วนใหญ่ก็จะเลือกฝึกวิชาร่างทองแข็งหมุนเก้ามากกว่า
แต่ว่า ตอนนี้สถานที่ที่ขาดแคลนทรัพยากรและชี่ทิพย์แบบโลก เฉินโม่ก็เลยต้องเลือกวิชาร่างไม่สิ้นสูญหุนหยวนที่ไม่ต้องการทรัพยากรอะไรมาก
“เลือกวิชาร่างไม่สิ้นสูญหุนหยวนแล้วกัน ดีที่วิชานี้เข้ากับอย่างอื่นได้ง่าย ต่อไปถ้าออกไปจากโลกไอกานี้ ไปเจอดาวบำเพ็ญที่มีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ แล้วค่อยเลือกวิชากลั่นร่างอื่นๆ มาเสริมเอาแล้วกัน”
วิชาร่างไม่สิ้นสูญหุนหยวนแบ่งเป็น3ชั้น ชั้นแรกคือร่างห้าธาตุ ชั้นที่สองคือร่างหยินหยาง ชั้นที่สามคือร่างหุนหยวน เมื่อสำเร็จทั้งสามชั้น ก็จะมีร่างไม่สิ้นสูญหุนหยวน
พอตัดสินใจแล้ว เฉินโม่ก็เริ่มฝึกร่างธาตุทอง ของชั้นที่1ร่างห้าธาตุ!
ธาตุทองเน้นเข่นฆ่า ให้ความสำคัญกับอาวุธ ถ้าอยากจะฝึกร่างธาตุทอง จำเป็นต้องมีชี่ทิพย์ธาตุทองจำนวนมาก หรือไม่ก็เป็นพลังชะตาธาตุทอง เช่นแก้วหินทองบนตัวของเฉินโม่
พอฝึกร่างธาตุทองสำเร็จ ร่างกายของเฉินโม่ก็จะแข็งแกร่งดั่งหินดั่งเหล็ก ไม่ต้องใช้พละกำลัง ก็สามารถต้านทานกระสุนได้ ฟันแทงไม่เข้า ต่อให้เผชิญหน้าสู้กัน ก็ไม่มีอะไรต้องกลัว
“เพิ่งทะลวงมาถึงชั้นสองแดนรวมพลัง ควบคุมพละกำลังให้มั่นคงก่อนดีกว่า จากนั้นค่อยฝึกร่างธาตุทอง”
เฉินโม่ฝึกต่อไป จนกระทั่งเที่ยงของอีกวันถึงจะหยุด
ซังซังทำอาหารกลางวันเสร็จแล้ว ก็ให้เฉินซงจื่อไปเรียกเฉินโม่มากินข้าว
บนโต๊ะอาหาร อยู่ดีๆ เอียนชิงเฉิงก็ทำดีกับเฉินโม่ขึ้นมาอย่างมาก ทั้งคีบกับข้าวให้ทั้งไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบ เล่นเอาเฉินโม่งงไปเหมือนกัน
ซังซังที่นั่งข้างๆ ก็ทำหน้าไม่ถูก จนอยากจะมุดดินหนี
“เฉินโม่ ขอยืมเพชรเลือดดูหน่อยได้ไหม?” เอียนชิงเฉิงยิ้มกว้างใส่เฉินโม่ ถ้าเป็นชายอื่น พอเห็นแบบนี้ไม่ต้องพูดถึงเพชรเลือดหรอก แม้แต่ชีวิตก็ให้ได้อย่างไม่ลังเล
หัวของซังซังก้มลงไปหนักกว่าเดิม จนแทบจะถึงถ้วยข้าวอยู่แล้ว
เฉินซงจื่อมีสายตามองต่ำลงไปอย่างสงบนิ่ง มีมาดของนักพรต!
เฉินโม่ก็รู้จนได้ว่าเธอคิดจะทำอะไร เลยมองบนใส่เธอ แล้วก็ไม่สนใจ