แดนนิรมิตเทพ - บทที่ 1228
อแมนดัสเยาะเย้ย แล้วชี้เกียร์ที่ล้มอยู่บนพื้น และกล่าวว่า “คอบร้า คนของผมตายไปแล้ว มันควรจะถึงคิวที่พวกคุณต้องออกไปต่อสู้แล้วไม่ใช่เหรอ?”
“หรือว่าพวกคุณกลัวเจ้าเด็กนั่น!” อแมนดัสกล่าวด้วยความเหยียดหยาม
ชายหนุ่มจากประเทศอินคนนั้นกล่าวเย้ยหยัน “ไร้สาระ นักรบของพวกเราไม่เคยกลัวอะไร!”
“แต่พวกเราจะไม่เป็นเครื่องมือให้คุณหลอกใช้หรอก ถ้าหากจะต่อสู้ ทุกคนก็ต้องต่อสู้พร้อมกัน!”
ชายวัยกลางคนจากประเทศฟากล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า “พวกเราส่งคนออกไปต่อสู้ฝ่ายล่ะหนึ่งคน คุณคิดว่าไง?” น้ำเสียงของเขาไพเราะมาก แหบเล็กน้อย มีเสน่ห์มาก
พอล หัวหน้าทีมของประเทศรัสกล่าวว่า “ผมเห็นด้วยกับข้อเสนอของอาเธอร์ พวกเราส่งคนออกไปจัดการเจ้าเด็กคนนั้นฝ่ายละหนึ่งคน! จากนั้นพวกเราค่อยบีบบังคับถามเขาว่าได้แกนอสูรจำนวนมากได้อย่างไร?”
อแมนดัสครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกล่าวว่า “ตกลง แต่ฝ่ายของผมได้ส่งเกียร์ออกไปแล้ว คราวนี้ถึงคิวพวกคุณสามฝ่ายส่งคนออกไปแล้ว”
“อแมนดัส คุณกำลังทำผิดกฎ!” อาเธอร์กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา
อแมนดัสกล่าวเย้ยหยัน “ทำผิดกฎเหรอ? คนที่นอนอยู่บนพื้น ไม่ใช่นักรบที่ยิ่งใหญ่ของประเทศอเมของพวกเราหรอกเหรอ?”
อาเธอร์พูดไม่ออก มองคอบร้าและพอล แล้วถามว่า “คราวนี้อแมนดัสไม่ส่งคนออกไปต่อสู้ ผมอยากฟังความคิดเห็นของพวกคุณ?”
คอบร้ากล่าวว่า “เพราะตอนนี้คนของเขาเหลือไม่มากแล้ว คราวนี้พวกเราสามฝ่ายส่งคนออกไปต่อสู้เถอะ!”
คนประเทศอเมถูกเฉินโม่ฆ่าไปสองคน เมื่อสักครู่เกียร์ก็ถูกฆ่าตายด้วยเช่นกัน ตอนนี้รวมอแมนดัสแล้ว เหลือทั้งหมดสี่คน ไม่แปลกใจที่อแมนดัสจะตระหนี่ขนาดนั้น
พอลกล่าวว่า “คราวนี้ยกเว้นเขาเป็นพิเศษ ฮิตเลอร์ คุณออกไป!”
ฮิตเลอร์คือมนุษย์หมาป่าที่ได้เคยรับความช่วยเหลือจากเฉินโม่
เมื่อได้ยินว่าพอลเรียกตนเอง ฮิตเลอร์แสดงสีหน้าไม่เต็มใจทันที และเมื่อเห็นดวงตาของเฉินโม่กำลังมองตนเอง ฮิตเลอร์ก็ก้มหน้าด้วยความละอายใจ
“ไม่! ผมจะไม่ฆ่าผู้มีพระคุณของตนเองหรอก หัวหน้า คุณฆ่าผมเถอะ!” ฮิตเลอร์เชิดคอขึ้น หลับตาและรอความตาย
สีหน้าของพอลแย่มาก มีความน่าละอายใจประกายผ่านดวงตา แต่ผลประโยชน์ของประเทศชาติอยู่ตรงหน้า เขาจึงทำได้เพียงทรยศมโนธรรมของตนเองเท่านั้น
“ฮิตเลอร์ คุณคิดผิดแล้ว ถ้าคราวนี้พวกเราได้ที่หนึ่ง หลังออกไปจากที่นี่แล้ว ผมจะฆ่าตัวตายทันที เพื่อมอบชีวิตคืนให้พวกเขา แต่ตอนนี้พวกเรายังคงต้องต่อสู้เพื่อประเทศชาติ ส่วนชื่อเสียงส่วนตัวนั้นปล่อยวางชั่วคราวก่อน!”
หลังจากกล่าวจบ พอลโค้งคำนับไปทางเฉินโม่และคนอื่น ๆ “ขออภัยด้วย เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ พวกเราไม่มีทางเลือก!”
เฉินโม่กล่าวเบา ๆ “พวกคุณไม่จำเป็นต้องโทษตนเอง ที่นี่ไม่มีกฎ มีเพียงชัยชนะหรือแพ้เท่านั้น พวกคุณไม่จำเป็นต้องถือว่าผมเป็นผู้มีพระคุณ อีกสักครู่ผมก็จะไม่ยั้งมือไว้ไมตรี จะเป็นหรือตายขึ้นอยู่กับโชคชะตา!”
“ฮิตเลอร์ ไสหัวออกไป ไลก้า คุณออกไปต่อสู้!” พอลตะโกน แล้วใช้เท้าเตะตูดของฮิตเลอร์ ทำให้ฮิตเลอร์โซเซ
ไลก้าเป็นมนุษย์หมาป่าเช่นกัน ผมของเขาเป็นสีแดง ร่างกายของเขาแผ่ซ่านจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ที่แข็งแกร่ง
คอบร้าเรียกสมาชิกของทีมออกมาหนึ่งคนเช่นกัน ซึ่งก็คืออัศวินศักดิ์สิทธิ์ที่สะพายกระบี่ใหญ่ไว้บนหลัง
อัศวินศักดิ์สิทธิ์คนนั้นขมวดคิ้ว พูดอะไรบางอย่างกับคอบร้า แล้วคอบร้าก็เริ่มขมวดคิ้วเช่นกัน หลังจากพอลและอาเธอร์ปรึกษาหารือกันพักหนึ่ง
จีอู๋หยาแปลให้ทุกคนฟัง “อัศวินศักดิ์สิทธิ์ของประเทศอินบอกว่าเขาเคยต่อสู้กับเฉินโม่แล้ว และรู้ว่าเฉินโม่คนเดียวสามารถต่อสู้กับเขาและไคลอร์ดได้ ไคลอร์ดก็คือนักพรตคนนั้น ตอนนั้นยังมีคนประเทศอเมอยู่อีกสองคน พวกเขาสี่คนยังไม่สามารถต้านหมัดเดียวของเฉินโม่ได้!”
เมื่อได้ยินคำแปลจากจีอู๋หยาแล้ว จางเจิ้นและเหลยจ้านมองตากันปริบ ๆ อีกครั้ง เมื่อสักครู่เฉินโม่ฆ่าเกียร์ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว ถึงแม้ว่ามันจะน่าตกใจ แต่ก็พิสูจน์ได้ว่าเฉินโม่แข็งแกร่งกว่าเกียร์
แต่ทุกคนไม่รู้ว่าเฉินโม่แข็งแกร่งแค่ไหน แต่หลังจากได้ยินคำอธิบายของอัศวินศักดิ์สิทธิ์คนนั้นแล้ว พวกเขาถึงได้รู้ว่าเฉินโม่ใช้เพียงแค่หมัดเดียว ก็สามารถทำให้พวกเขาสี่คนตกใจกลัวจนหนีไป และหนึ่งในนั้นยังมีนักพรตที่สร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าให้กับทุกประเทศอยู่อีกด้วย!