แดนนิรมิตเทพ - บทที่ 1241
อแมนดัสป้อนแกนอสูรเข้าเครื่องนับจำนวน มองดูอันดับของตัวเองทะยานขึ้นสู่อันดับหนึ่ง เขายิ้มเยาะอย่างพึงพอใจ “อาร์เธอ นายคิดไม่ถึงสินะ! ก็เหมือนคำพูดประโยคนั้นของหัวเซี่ยที่ว่ามัวแต่มองผลประโยชน์ข้างหน้า โดยไม่รู้ว่ามีภัยอยู่ข้างหลัง ฮ่าฮ่า!”
จีอู๋หยาและคนอื่นๆ ก็เพิ่งจะล่าสัตว์อสูรได้ตัวหนึ่ง แต่ตอนที่กำลังจะป้อนเข้าเครื่องนับจำนวน ทันใดนั้นพบว่า ประเทศฟาและประเทศอเมที่เดิมทีล้าหลังพวกเขาอยู่เยอะมาก จู่ๆ ก็แซงพวกเขาไปอย่างได้เปรียบ
เหลยจ้าหน้าตากลัดกลุ้มใจ “ทำไมถึงเป็นเช่นนี้? หรือว่าพวกเขาก็ได้รับสิ่งมหัศจรรย์เช่นเดียวกับเฉินโม่?”
จีอู๋หยาขมวดคิ้ว เขาแอบรู้สึกว่าอันดับของประเทศอเมและประเทศฟาที่พุ่งทะยานขึ้น เหมือนกับเกี่ยวข้องกับการจากไปของเฉินโม่
เพียงแต่จีอู๋หยาไม่เชื่อว่าเฉินโม่จะทำเรื่องที่ไม่ดีต่อประเทศ ในเมื่อเมื่อครู่ภายใต้สถานการณ์เยี่ยงนั้น เฉินโม่ไม่ได้ทอดทิ้งพวกเขา ตอนนี้ไม่มีเหตุผลที่จะทรยศประเทศชาติ
“พวกเราก็หาดูทั่วๆ ดูว่าจะสามารถพบกับสิ่งมหัศจรรย์ได้หรือไม่”
จีอู๋หยาและคนอื่นๆ ค้นหาต่อ เฉินโม่ก็คนหาเป้าหมายต่อไป
แต่พอลคนประเทศรัสเหล่านั้นไม่มีหินพลังงาน เฉินโม่ผิดหวังเล็กน้อย หันหลังกลับทันที จากนั้นไปตามหาคนประเทศอินเหล่านั้น
คอบร้าพวกเขากำลังพักผ่อนอยู่ริมแม่น้ำสายเล็กๆ และพูดคุยสนทนาถุงคนประเทศฟาและประเทศอเมที่แกนอสูรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ราวกับเศรษฐีใหม่
“ท่านสังฆราช ท่านว่าอาเธอร์กับอแมนดัสพวกเขาสองคนก็ได้รับสิ่งมหัศจรรย์ดั่งเช่นเฉินโม่หรือไม่?”
อาร์คบิชอปชุดแดงพูด “แปดสิบถึงเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ ไม่เช่นนั้นจำนวนแกนอสูรของพวกเขาไม่มีทางเพิ่มขึ้นเร็วขนาดนี้!”
“เฮ้อ ดูท่าพวกเราทำได้เพียงคว้าที่สี่แล้ว!” คอบร้ารู้สึกไม่ยินยอมเล็กน้อย “มิเช่นนั้นฉันใช้รูปปั้นซะ เช่นนี้พวกเราก็สามารถล่าสัตว์อสูรได้มากยิ่งขึ้น ยังมีโอกาสแซงพวกเขา”
อาร์คบิชอปชุดแดงส่ายหน้า ตอนนี้ห่างจากการจบการแข่งขันยังอีกสามชั่วโมง ต่อให้นายใช้พลังของรูปปั้น ก็ไร้ซึ่งประโยชน์ พวกเรารับชะตากรรมเถอะ!”
คอบร้ากำหมัดแน่น “คิดไม่ถึงว่าพวกเราเตรียมพร้อมเต็มที่ขนาดนั้น กลับพ่ายแพ้ย่อยยับ!”
จู่ๆ คอบร้าเงยหน้ามองไปด้านหน้า เฉินโม่ยืนอยู่ตรงอีกฝั่งของแม่น้ำ
“นายอยากทำอะไร?” คอบร้ามองเฉินโม่ ขมวดคิ้วเล็กน้อย
เฉินโม่พูดเรียบเฉย “ไม่ต้องกังวล ฉันแค่อยากมาทำธุรกิจกับนาย!”
มือของคอบร้าโอบรูปปั้นองค์เล็กๆ นั้นไว้ในอ้อมกอด มองไปทางเฉินโม่อย่างระมัดระวังแล้วถามขึ้น “นายอยากจะทำธุรกิจอะไรกับฉัน?”
เฉินโม่ยิ้มบาง “ในนั้นผนึกกำลังของผู้อื่นไว้อยู่ พลังของคนคนนั้นอาจจะแข็งแกร่งมาก แต่อยากจะจัดการฉันยังด้อยอยู่เยอะ นายไม่จำเป็นต้องเปลืองแรงคิดแผนแล้ว!”
คอบร้าขมวดคิ้วอีกครั้ง สายตาที่มองไปทางเฉินโม่มีความตกตะลึงมากมาย แต่มือของเขาก็ยังไม่ปล่อยรูปปั้นองค์นั้น
“นายอยากทำอะไรกันแน่?”
เฉินโม่ยิ้มอย่างกับจิ้งจอกแก่ “อยากเป็นที่หนึ่งไหม?”
พูดจบ เฉินโม่ก็ทำตามสูตรอีกครั้ง ส่วบ! แกนอสูรกองใหญ่ปรากฏขึ้นบนพื้น
“แลกกับหินพลังงานในมือของนาย!”
เฉินโม่ใช้ราคาแกนอสูรหนึ่งชิ้นต่อหินพลังงานยี่สิบชิ้น รีดไถหินพลังงานในมือของคอบร้าพระบุตรศักดิ์สิทธิ์และอาร์คบิชอปชุดแดงจนหมดเกลี้ยง
จากนั้น อันดับของทีมประเทศอินพุ่งทะยานขึ้นอันดับหนึ่ง
ขณะเดียวกัน อาเธอร์และอแมนดัสที่ยังคงทุ่มเทพลังล่าสัตว์อสรูหน้าเสียกะทันหัน แล้วด่าอย่างสาดเสียเทเสีย “ชายแก่ประเทศอินที่สมควรตาย นึกไม่ถึงว่าจะทำธุรกิจกับเฉินโม่ปีศาจร้ายคนนั้น!
จากนั้น ทั้งสองก็สาปแช่งเฉินโม่พร้อมกันอีก เลวทรามต่ำช้า ไร้ยางอาย พ่อค้าหน้าเลือด และคำทักทายของชนชาติร่ำรวยและรูปแบบต่างถิ่นต่างๆ มากมาย
ส่วนเฉินโม่หาเนินเขาแห่งหนึ่ง มองดูหินพลังงานที่กองเป็นภูเขาในแหวนเก็บของ เขาถอนหายใจยาวๆ
ในตอนนี้เฉินโม่รู้สึกว่าท้องฟ้าที่มืดมิดดูสดใสขึ้นเล็กน้อย และยังมีผืนดินสีน้ำตาล ดูอย่างไรก็เพลินตา