แดนนิรมิตเทพ - บทที่ 1343
ยากิวยิโตะถึงขั้นมีความเสียดาย
“ถ้าหากเขายกไม่สำเร็จ ถ้าอย่างนั้นสามวันหลังจากนี้ความสามารถก็จะถดถอย ฉันก็จะชนะโดยไม่ต้องใช้กำลังเลย!”
“หวังว่าเขาจะสามารถผ่านด่านนี้ไปได้!”
ในสายตาของยากิวยิโตะ บางทีเฉินโม่อาจจะยกไม่สำเร็จ แต่เขากลับไม่รู้เลย การยกของเฉินโม่เพิ่งจะเริ่มเอง
ชั้นแปดแดนรวมพลัง มันเกือบจะใกล้ๆแดนยาทอง พลังทิพย์ที่ต้องการในเวลานี้ เทียบแล้วแข็งแกร่งกว่าแดนเทพร้อยคน
อีกอย่างชี่ทิพย์บนโลกเบาบาง ต่อให้เฉินโม่ได้ตั้งค่ายกลรวมพลังเอาไว้ และยังมีหินทิพย์ช่วยเสริม เวลาที่ต้องใช้ก็ไม่น้อยเลย นอกเสียว่าเฉินโม่นั้นมีความพร้อมทุกด้าน ถ้าอยากจะฝืนฝ่าฟันพลังบำเพ็ญ เวลาที่ใช้ก็ต้องนานขึ้นไปอีก
ฟ้าสว่างแล้ว
บนดาดฟ้าของโรงแรมที่เฉินโม่พักอยู่ ยังคงลอยไปด้วยเมฆดำ และเสียงฟ้าร้อง ราวกับภาพวันสิ้นโลก
ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศต้าเหอ เริ่มมองบนท้องฟ้าที่อยู่เหนือดาดฟ้าของโรงแรมแล้วถกกันแล้ว
“นี่คือฝนจะตกเหรอ?”
“ไม่น่าใช่นะ ถ้าหากฝนตกทำไม่เมฆดำถึงลอยอยู่ตรงดาดฟ้าของโรงแรมเท่านั้น?”
“เมื่อหลายวันก่อนฉันเห็นในโซเชียลคนของหัวเซี่ยพยายามผ่านทัณฑ์ ฉันยังหัวเราะว่าคนของหัวเซี่ยปัญญาอ่อนอยู่เลย คลิปนั้นมันคงจะไม่ใช่เรื่องจริงนะ?”
“ฉันว่าใช่แปดสิบเปอร์เซ็นต์ นายดูภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้าสิ ก็แค่ขาดคนเท่านั้น?”
ผู้คนรวมตัวกัน แล้วก็คาดเดากับภาพที่เกิดขึ้นตรงดาดฟ้าของโรงแรมในรูปแบบต่างๆนาๆ ความอยากรู้อยากเห็นของคนในตอนนี้ไม่ได้แบ่งแยกเชื้อชาติ
ยากิวยิโตะทนความสงสัยไม่ได้อีกต่อไป ได้มายังโรงแรมที่เฉินโม่พักอยู่ด้วยตัวเอง มองเมฆดำที่ลอยวนอยู่บนท้องฟ้า แววตามีความสงสัย
“ดูจากภาพเหตุการณ์แล้ว เขาไม่เหมือนคนที่ล้มเหลวในการยก แต่ทำไมถึงได้นานขนาดนี้ล่ะ?”
ยากิวยิโตะนั้นไม่เข้าใจเลย
ประชาชนของประเทศต้าเหอแม้จะสงสัย แต่เขาไม่เห็นคนที่ผ่านทัณฑ์อยู่บนก้อนเมฆ รอไปสักพัก ก็แยกย้ายกันไปแล้ว
อย่างไรเสียภาพธรรมชาติ ที่แปลกประหลาดมากมาย ที่พวกเขาไม่เคยเห็นก็มีมากอยู่เหมือนกัน
ดังคำกล่าวที่ว่าไม่มีอะไรน่าแปลก ดูไปสักพักความแปลกใหม่นั้นก็ผ่านไปแล้ว
จนกระทั่งบ่าย เมฆที่ลอยเหนือดาดฟ้าของโรงแรมจึงค่อยๆจางหายไป ท้องฟ้าก็กลับสู่ความสงบ
ในที่สุดการรวมพลังทิพย์ก็เสร็จสิ้นแล้ว สิ่งที่เหลือก็คือยกมันให้ได้
ถ้าพูดถึงการยกทั้งหมด ตอนนี้เขาดำเนินการมาได้แค่ครึ่งทางเท่านั้น
ยากิวยิโตะที่นั่งอยู่ในลานบ้าน รู้สึกถึงชี่ฟ้าดินที่เริ่มสงบลงแล้ว และพูดในใจ “ในที่สุดเฉินไต้ซือก็ยกสำเร็จแล้ว”
ในโรงแรม ไม่ว่าเล่หรูหั่วจะเรียกเฉินโม่ยังไง เฉินโม่ก็ไม่ได้สนใจเธอ แต่ว่าเล่หรูหั่วรู้ว่าเฉินโม่นั้นอยู่ห้องด้านข้าง คิดถึงความเก่งที่ไม่สามารถจะคาดเดาได้ของเฉินโม่ ดังนั้นเขาจึงไปทำทุกอย่างคนเดียว
สองวันนี้ ข่าวที่ยากิวยิโตะจะสู้กับเฉินไต้ซือ ได้แพร่กระจายไปทั่วประเทศต้าเหอ และโลกฝึกบู๊ของประเทศต้าเหอก็เดือดพล่านเช่นกัน
อย่างไรเสีย ยากิวยิโตะซึ่งดำรงอยู่ในฐานะยอดฝีมือของโลกฝึกบู๊ในประเทศต้าเหอ เกือบจะเป็นความศรัทธาของประเทศต้าเหอในโลกฝึกบู๊
เขาที่ไม่ลงมือต่อสู้มาหลายสิบปี ครั้งนี้มีนัดต่อสู้กับยอดฝีมือของหัวเซี่ย ไม่ว่าจะสนับสนุนเพราะความรักชาติหรือความศรัทธา นักบู๊ของประเทศต้าเหอไม่มีทางที่จะพลาดชมการต่อสู้ในครั้งนี้
ดังนั้น ผู้คนจำนวนมากได้มายังเขาฟู่ถุก่อนการต่อสู้หนึ่งวัน เพื่อจองที่นั่ง รอชมการต่อสู้
ร้านน้ำชาที่อยู่ใจกลางเมืองร้านหนึ่งที่เปิดโดยคนหัวเซี่ย เผยซื่อหาวที่สวมชุดดำนั่งดื่มชาอย่างเงียบๆ
แต่ว่าผู้คนที่อยู่โดยรอบต่างก็กำลังสนทนากันอยู่
“ได้ยินกันหรือยัง? ครั้งนี้ยากิวยิโตะจะไปต่อสู้กับเฉินไต้ซือที่มาจากหัวเซี่ยบนเขาฟู่ถุ!”
“เฉินไต้ซือคือใคร? เขาคู่ควรที่จะต่อสู้กับยากิวยิโตะเหรอ?”
“ ได้ยินมาว่าเฉินไต้ซือคนนี้เก่งมาก ศึกครั้งนี้สะเทือนฟ้าอย่างแน่นอน เราไปดูกันมั้ย!”