แดนนิรมิตเทพ - บทที่ 1426
“ตอนนี้ผมรู้สึกว่าผมได้รับประโยชน์อย่างมาก หลังจากที่ผมกลับไปในครั้งนี้ ผมจะสามารถตีฝ่าไปสู่ปรมาจารย์แดนคุ้มกายอย่างแน่นอน เป็นอย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด ไม่เสียทีที่เป็นผู้แข็งแกร่งแดนเทพ ทุกท่วงท่าทุกลีลาล้วนสอดคล้องกับหลักการแห่งฟ้าดิน ทำให้คนอดไม่ได้ที่จะชื่นชม!” หนุ่มนักบู๊เฝ้าดูอย่างหลงใหล
พวกเขาต่อสู้กันจากพื้นขึ้นไปสู่บนท้องฟ้า แล้วสู้จากท้องฟ้ากลับลงมาที่พื้น กองหิมะที่อยู่โดยรอบถูกกวาดไปจนหมด เผยให้เห็นท้องพื้นสีดำ
“เฉินไต้ซือ เก่งสมกับค่ำร่ำลือจริงๆ!”ลู่เจี้ยนอู่ฟันกระบี่ลง แล้วพูดอย่างเสียงดัง
“นายอย่าพึ่งไปชื่นชมความเก่งเขาเลย ไอ้หนุ่มคนนี้รับมือยากมาก เราสี่คนร่วมมือกันยังไม่สามารถชนะเขาได้ ขอเพียงเขาไปจากที่นี่ ก็จะเป็นหายนะของโลกบู๊โบราณทั้งโลก ”หนานเฮ่อหยู่พูดอย่างโกรธเคือง
“มันก็ไม่สามารถที่จะปล่อยให้เขามีชีวิตไปจากที่นี่ได้อยู่แล้ว แต่ในโลกฝึกบู๊คนที่คู่ควรต่อสู้กับการร่วมมือของเราทั้งสี่คน นอกจากผู้อาวุโสหัวคนที่เล่าขานกันในตำนานแล้ว” ก็มีเพียงเฉินไต้ซือคนนี้แล้วล่ะ” ลู่เจี้ยนอู่ถอนหายใจเล็กน้อย
“นั่นมันเป็นความอัปยศของโลกบู๊โบราณ นายยังมีหน้าพูดมันออกมาอีก อย่ามัวพูดไร้สาระอยู่เลย พวกคุณก็ไม่ต้องกักฝีมือกันแล้ว ทุกคนแสดงพลังทั้งหมดออกมา ฆ่าไอ้หนุ่มนี้เสีย มันจะเป็นคุณงามความดีประการแรกของการปรากฏตัวขึ้นของโลกบู๊โบราณ!”หนานเฮ่อหยู่พูดและหัวเราะเสียงดัง
“ได้!” นักพรตชิงซงคำรามไปหนึ่งที เห็นด้วยกับคำพูดของหนานเฮ่อหยู่อย่างมาก
“เฉินไต้ซือ จงรับกระบี่ฟ้าโลกันตร์นี้ของฉัน!” นักพรตชิงซงพูดคำราม กระบี่ในมือก็ม้วนขึ้นไปทันที แล้วผ่าไปยังท้องฟ้าโดยตรง
“กระบี่ทะลวงหัวใจ”ในขณะที่นักพรตชิงซงลงมือ ลู่เจี้ยนอู่ก็ได้ออกกระบี่ที่ทรงพลังตาม
หนานเฮ่อหยู่ก็ไม่ชักช้าอยู่แล้ว คำรามเสียงดัง “ฝ่ามือทลวงจิต!”
ฝ่ามือได้จู่โจมไปทางเฉินโม่
เทพธิดาหลิงซวงแอบถอนหายใจไปหนึ่งที ก็ชักกระบี่ออกมา เคลื่อนไหวอย่างไร้ร่องรอย ด้วยท่วงท่ากระบี่ที่แปลกประหลาด
จู่ๆร่างของเฉินโม่ก็ลอยขึ้นไปในอากาศ จากบนลงล่าง และต่อยหมัดไปยังพวกเขา
ท่าที่สามของหมัดเทพเทียนเสวียน ปรับฟ้าดิน!
โครม!
เกิดเสียงที่ดังสนั่นโครมครามจนสะท้านฟ้าดิน เหมือนกับการระเบิดของระเบิดปรมาณู และ ลู่เจี้ยนอู่ทั้งสี่คนถูกสั่นสะเทือนจนกระเด็นไปข้างหลัง และร่างของเฉินโม่ก็ถอยกลับไปอย่างกะทันหันเช่นกัน
หนึ่งในสี่คน หนานเฮ่อหยู่ตะโกนอย่างตกใจ “เห็นหรือยัง ไอ้หนุ่มคนนี้ยังคงไม่ได้ใช้พลังทั้งหมด พวกคุณยังคิดที่จะกักพลังเอาไว้อีกมั้ย?”
“สู้สุดชีวิตเถอะ!” หนานเฮ่อหยู่ตะโกนอย่างเฉียบขาด
“จะเก็บไอ้หนุ่มคนนี้ไว้ไม่ได้!” ลู่เจี้ยนอู่พูดอย่างจริงจัง เดิมคิดว่าพวกเขาสี่คนร่วมมือกัน ก็จะสามารถฆ่าเฉินโม่ได้อย่างง่ายดาย คิดไม่ถึงเฉินโม่กลับซ่อนพลังเอาไว้
ครั้นให้เฉินโม่ไปจากที่นี่ พวกเขาไม่กล้าที่จะคิดถึงผลที่จะตามมาเลย
“เรามาปล่อยพลังโจมตีที่แรงที่สุดกันเถอะ หากให้ไอ้หนุ่มคนนี้ไปจากที่นี่ เรายังจะมีหน้ากลับไปที่โลกบู๊โบราณอีกเหรอ!” หนานเฮ่อหยู่คำรามอย่างโกรธเคือง
“ได้!” นักพรตชิงซงที่สีหน้าเคร่งขรึม และค่อยๆชูกระบี่ขึ้นอย่างจริงจัง พลังทิพย์ที่อยู่โดยรอบก็วุ่นวายขึ้นในทันที เหมือนกำลังเตือนให้ทราบถึงพลังอานุภาพของกระบี่เล่มนี้
เมื่อมองท่วงท่าที่เตรียมไว้ของทั้งสี่คน ใบหน้าของเฉินโม่ก็จริงจัง และไม่กล้าที่จะละเลยมัน
ด้วยเสียงที่ลากยาว กระบี่สับสวรรค์ก็เปล่งแสงสีทอง ได้หมุนไปที่รอบตัวของเฉินโม่
เฉินโม่เงยหน้าขึ้น มองไปบนท้องฟ้า ร่างกายปะทุไปด้วยพลังคร่ำครวญที่ทำให้คนสงสาร
“เก้ากระบวนกระบี่มหาธรรม ท่ากลบสวรรค์!”
จู่ๆร่างของเฉินโม่ก็หายไป ท้องฟ้าและโลกก็มืดลงทันใด และดูเหมือนจะมีเสียงหนึ่งดังขึ้น…
“ถ้าสวรรค์ไม่ยุติธรรม แล้วไยจึงเป็นสวรรค์ วันนี้ ฉันขอกลบสวรรค์ไว้ตรงนี้!”
ลู่เจี้ยนอู่ทั้งสี่คนก็ตระหนักในทันที พวกเขาสูญเสียการควบคุมฟ้าดินที่อยู่โดยรอบไปแล้ว
“นี่มันเรื่องอะไรกัน!”
จุดที่แข็งแกร่งที่สุดของแดนเทพก็คือสามารถควบคุมพลังฟ้าดินโดยรอบได้ แต่ตอนนี้ลู่เจี้ยนอู่ทั้งสี่คนพบว่า พวกเขาไม่สามารถควบคุมพลังฟ้าดินโดยรอบได้เลย
ฟ้าไม่อยู่แล้ว พวกเขาจะควบคุมพลังฟ้าดินได้อย่างไร?
ทันใดนั้น ท้องฟ้ารอบตัวพวกเขาตกอยู่ในความมืดมิด และรอยแตกของอากาศปรากฏขึ้นรอบตัวพวกเขาทั้งสี่ และกลืนกินพวกเขาโดยตรง
“แย่แล้ว!”
ท้องฟ้าที่อยู่ข้างบนมาโดยตลอด ที่ที่สายตามองเห็น ทั้งหมดก็คือท้องฟ้า
ถามว่ากลบท้องฟ้าได้อย่างไร?
มีเพียงการเปิดช่องว่าง และเปิดโลกใหม่ ถึงจะสามารถกลบท้องฟ้าเก่า และเปลี่ยนท้องฟ้าใหม่
นี่ถึงจะเป็นความหมายของท่ากระบี่กลบท้องฟ้า