แดนนิรมิตเทพ - บทที่ 1446
เฉินเยว่มองออก การที่เฉินกั๋วเหลียงจะชนะมันอยู่ที่เวลาเท่านั้น และเธอยังพบกว่า พลังของเฉินกั๋วเหลียงแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆเมื่อเขาต่อสู้
ในใจของเฉินเยว่ยิ่งอยู่ยิ่งหวาดหวั่น ความเกรงกลัวต่อเฉินโม่ยิ่งเพิ่มมากขึ้น
“ฮ่า!”
เสียงหัวเราะเบาๆดังขึ้น เฉินกั๋วเหลียงที่ใช้หมัดหนัก ชกจนนักบู๊แดนในทั้งสามคนลอยออกไป แล้วตกลงสู่พื้น
เฉินกั๋วเหลียงที่จิตใจฮึกเหิม มองทั้งสามคน แล้วพูดอย่างเย็นชา “เอาสำนักที่พวกแกสามคนแย่งชิงไป คืนให้กับหลานสาวของฉัน ไม่อย่างนั้นวันนี้พวกนายเจอดีแน่!”
สีหน้าของนักบู๊ทั้งสามคนจมลง หนึ่งคนในนั้นตะโกนด่าเฉินกั๋วเหลียงอย่างโกรธเคือง “ไอ้แก่ อย่าเพิ่งลำพองใจ พวกเรานั้นเป็นคนตระกูลหยู!”
ตระกูลหยูอยู่ในโลกบู๊โบราณก็ถือว่ามีชื่อเสียงในระดับหนึ่ง แต่ความสามารถนั้นไม่เท่าไหร่ แต่ว่าลูกสาวของผู้นำในรุ่นนี้ ได้แต่งงานกับผู้อาวุโสของตระกูลตู๋กูหนึ่งในแปดตระกูลใหญ่ของโลกบู๊โบราณในฐานะอนุ มีแปดตระกูลใหญ่อย่างตระกูลตู๋กูคุ้มกะลาหัว ตระกูลหยูหลายปีมานี้ยิ่งอยู่ยิ่งกำแหงและใช้อำนาจบาตรใหญ่
ถ้าหากเฉินกั๋วเหลียงกับเฉินเยว่เป็นคนของโลกบู๊โบราณ ก็ต้องเคยได้ยินชื่อของตระกูลหยู แต่พวกเขานั้นยังไม่ถือเป็นคนของโลกฝึกบู๊ด้วยซ้ำ มากสุดก็เป็นแค่ผู้ฝึกทั่วไป ย่อมไม่เคยได้ยินชื่อของตระกูลหยูมาก่อน
โดยธรรมชาติ เฉินกั๋วเหลียงก็ไม่มีทางไว้หน้าตระกูลหยูอยู่แล้ว
“ฉันไม่สนหรอกว่าตระกูลหยูหรือว่าอะไร พวกแกแย่งสำนักของคนอื่น ฆ่าคนเป็นว่าเล่น ก็ต้องยอมรับการลงโทษตามกฎหมายของหัวเซี่ย!” เฉินกั๋วเหลียงตะโกนพูดอย่างชอบธรรม
“ไอ้แก่ ดูเหมือนแกเบื่อที่จะมีชีวิตอยู่ต่อแล้ว เรื่องของตระกูลหยูแกก็กล้ามายุ่ง!” นักบู๊หนุ่มที่มีแผลเป็นที่หน้าจ้องมองเฉินกั๋วเหลียงอย่างขุ่นมัว หันหน้าไปกระซิบกับนักบู๊ที่อยู่ด้านข้าง “นายรีบไปเรียนคุณ บอกว่าสำนักซานเหอมีพลังร้ายหลงเหลืออยู่!”
“ครับ!”
ชายหนุ่มคนนั้นก็รีบหันวิ่งออกไปจากสำนัก
เฉินกั๋วเหลียงไม่ได้ไล่ตาม ก็เพราะต้องการให้คนพวกนี้ไปรายงานคนที่อยู่เบื้องหลัง แม้ว่าความสามารถของเขาจะถึงแดนปรมาจารย์แล้ว แต่ว่าความคิดยังคงอยู่ในระดับของมนุมย์
แม้ว่าคนพวกนี้ฆ่าคนและแย่งสำนัก มีโทษหนักหนาสาหัส เฉินกั๋วเหลียงก็ไม่ได้ฆ่าพวกเขาง่ายๆ เขาหวังว่าจะสามารถใช้กฎหมายของหัวเซี่ยมาลงโทษคนเหล่านี้
ในไม่ช้า ชายหนุ่มชุดขาวก็มาพร้อมกับคนสิบกว่าคน
ชายหนุ่มสองคนเห็นตัวช่วยมาแล้ว ก็มองเฉินกั๋วเหลียงแล้วยิ้มอย่างโหดเหี้ยม “ไอ้แก่ คุณชายของฉันมาถึงแล้ว พวกแกตายแน่!”
เฉินกั๋วเหลียงยิ้มเยาะ “ฉันก็อยากจะเจออยู่เขาอยู่พอดีเลย!”
เฉินเยว่กระซิบอย่างเป็นห่วง “คุณปู่รอง คุณชายของตระกูลหยูคนนี้ความสามารถไม่ธรรมดา ปู่ต้องระวังตัวด้วยนะ”
เฉินกั๋วเหลียงพูดอย่างยิ้มๆ “วางใจเถอะ ถ้าหากสู้ไม่ไหวก็จะให้เสี่ยวโม่กลับมาช่วยทันที!”
เฉินเยว่ขมวดิคิ้ว ความคิดของเฉินกั๋วเหลียงช่างไร้เดียงสาเหลือเกิน ถ้าหากสู้ไม่ไหว เกรงว่าพวกมันคงไม่ให้โอกาสเราหนีเลย
อย่างไรก็ตามเมื่อคิดถึงที่เฉินกั๋วเหลียงเป็นปรมาจารย์ผู้แข็งแกร่ง ต่อให้สู้ไม่ไหว ถ้าจะถอยอย่างปลอดภัยก็คงไม่ใช่เรื่องยาก
“พวกแกก็คือพลังร้ายของสำนักซานเหอ?” พวกชายหนุ่มชุดขาวเมื่อมาถึง ก็มายืนอยู่ตรงหน้าเฉินกั๋วเหลียงทั้งสองคน จ้องมองเฉินกั๋วเหลียงอย่างเย็นชาแล้วถาม
เฉินกั๋วเหลียงรู้ว่าสำนักของเฉินเยว่ชื่อสำนักซานเหอจึงพยักหน้า “ใช่ พวกแกแย่งสำนักของคนอื่น แถมยังฆ่าคนไปตั้งมากมาย ไม่เห็นกฎหมายของหัวเซี่ยอยู่ในสายตาเลยหรือไง?”
“กฎหมายของหัวเซี่ย? ฮ่าๆๆ……..” ชายหนุ่มชุดขาวหัวเราะอย่างแปลกประหลาด ลูกน้องที่อยู่ด้านหลังของเขาก็หัวเราะตาม มองเฉินกั๋วเหลียงเหมือนคนปัญญาอ่อน
“ไอ้แก่ ดูเหมือนแกจะแก่จนเลอะเลือนไปแล้วมั้ง เราเป็นคนของโลกบู๊โบราณนะ ทำไมต้องมาเคารพกฎหมายบ้าบอของพวกแกด้วย?” ชายหนุ่มชุดขาวพูดด้วยท่าทางเหยียดหยาม
เฉินกั๋วเหลียงสีหน้าจริงจัง พูดอย่างโกรธเคือง “ขอเพียงพวกแกยืนอยู่บนแผ่นดินของหัวเซี่ย ก็คือคนของหัวเซี่ย ก็ต้องเคารพกฎหมายของหัวเซี่ย!”
เฉินเยว่กระซิบห้าม “คุณปู่รองคะ คนของโลกบู๊โบราณไม่เคยยอมรับรัฐบาลของหัวเซี่ยเลย ถึงขั้นที่อยากจะมาแทนที่รัฐบาล ปู่พูดเรื่องพวกนี้กับเขามันไม่มีประโยชน์หรอก!”