แดนนิรมิตเทพ - บทที่ 1469
ห้องรับรองตระกูลเอียน ตอนที่เอียนชิงเฉิงก้าวผ่านประตูไป ก็เห็นชายชราที่อายุสูงคนหนึ่ง กำลังนั่งวางท่าอยู่ข้างปู่ของเธอแม้แต่พ่อของเธอยังนั่งถัดลงมา
ชายชราคนนั้นหน้าตาน่าเกรงขาม ผมสีขาวโพลน แต่ใบหนากลับแดงก่ำ เห็นแล้วให้ความรู้สึกเหมือนคนที่มีราศีที่ไม่ธรรมดา
แต่สิ่งที่ทำให้เอียนชิงเฉิงตกใจที่สุดคือ หน้าตาของชายชราคนนี้ กลับให้ความรู้สึกที่คุ้นเคยกับเอียนชิงเฉิงมาก
เอียนชิงเฉิงกำลังจ้องมองชายชราคนนั้น ชายชราก็จ้องมองมาที่เอียนชิงเฉิงเหมือนกัน
ชายชรามองดูเอียนชิงเฉิงแล้วพยักหน้า พร้อมทำห้าพอใจ “ใช้ได้ เยี่ยมมาก เฉินไต้ซือนั่นสมคำร่ำลือจริงๆ ในเวลาสั้นๆ ก็สามารถสร้างผู้แข็งแกร่งแดนเทพให้ตระกูลหานของเราได้คนหนึ่งแล้ว!”
ตระกูลหาน!
ทันใดนั้นเอียนชิงเฉิงก็เหมือนจะนึกอะไรได้ ถึงว่าทำไมหน้าตาของชายชราคนนี้ถึงทำให้เธอรู้สึกคุ้นเคยมาก เพราะชายชราคนนี้หน้าตาเหมือนแม่ที่เสียไปของเธอมาก
แถมแม่ของเธอยังแซ่หานด้วย หรือชายชราคนนี้จะเป็นคุณตาของเธอ?
เอียนอานฉงมองดูเอียนชิงเฉิง แล้วพูดพร้อมรอยยิ้มว่า “ชิงเฉิง มัวยืนอึ้งอยู่ทำไม ยังไม่รีบมาทักทายคุณตาอีก!”
เอียนชิงเฉิงรู้สึกตกใจ เป็นแบบนั้นจริงๆ ด้วย นี่เป็นคุณตาของเธอจริงๆ
แม่ของเอียนชิงเฉิงเสียไปค่อนข้างเร็ว ไม่เคยพูดถึงแม่ของเอียนชิงเฉิงให้เธอฟังมาก่อน ตั้งแต่ที่เอียนชิงเฉิงจำความได้ ก็ไม่เคยพาเอียนชิงเฉิงกลับบ้านแม่มาก่อน
เอียนชิงเฉิงนึกว่าคนของบ้านแม่คงไม่มาอีกแล้ว ที่แท้มันไม่ได้เป็นแบบนั้น ดูเหมือนว่ามันยังมีอะไรซับซ่อนอยู่ในนั้นแน่
ในเมื่อปู่พูดออกมาแล้ว ต่อให้เอียนชิงเฉิงไม่เชื่อ ก็ยังต้องทำความเคารพไปตามมารยาทอยู่ดี เธอจึงเรียกไปว่า “คุณตา!”
ชายชราคนนั้นพยักหน้า แล้วพูดมาว่า “ฉันรู้ว่าในใจขอแกมีความถามมากมาย ตอนนี้ฉันจะบอกแกเอง”
“ฉันเป็นคนจากโลกบู๊โบราณ แม่ของแกก็เป็นคนของโลกบู๊โบราณเหมือนกัน ตอนนั้นแม่ของแกไม่ชอบวัฒนธรรมของตระกูลจึงหนีออกจากตระกูล สุดท้ายก็ถูกคนลอบสังหาร บาดเจ็บสาหัส จากนั้นก็ไม่มีเบาะแสอีกเลย”
“ตอนแรกฉันคิดว่าเธอตายแล้ว แต่หลังจากครั้งก่อนที่ได้เจอแกในทะเลสาบกลับคืนรังโดยบังเอิญ ฉันก็เริ่มสงสัยในตัวแก จึงทำการสืบหาข้อมูล ปรากฏว่าตอนนั้นแม่ของแกไม่ได้ตาย แต่กลับถูกพ่อของแกช่วยไว้ ด้วยความที่ร่างกายเจ็บหนัก จึงไม่ได้กลับโลกบู๊โบราณอีก”
ทะเลสาบกลับคืนรัง คาดว่าคงเป็นการต่อสู้เป็นตายครั้งก่อนแน่
ไม่พูดถึงเรื่องนี้ยังดี พอพูดถึงเอียนชิงเฉิงก็รู้สึกดมโหขึ้นมาทันที คนจากโลกบู๊โบราณมากมายขนาดนั้นรุมเล่นงานเธอ และไม่เคยเห็นคุณตาคนนี้ของเธอออกมาช่วยเธอบ้างเลย
ตอนนี้กลับวกกลับมานับญาติ มันก็แค่เห็นแก่ฝีมือของเธอไม่ใช่รึไง?
พอเอียนชิงเฉิงเข้าใจ ความตื่นเต้นที่เพิ่งได้เจอญาติ ก็สลายหายไปทันที
“คุณตาคะ มีเรื่องหนึ่งที่หนูไม่เข้าใจ พลังบำเพ็ญของตาน่าจะเป็นแดนเทพสินะ ตอนที่หนูถูกผู้แข็งแกร่งแดนเทพทั้งหมดถูกอาจารย์ของหนูฆ่าที่ทะเลเสาบกลับคืนรัง หนูไม่เคยเห็นคุณตาเลย! แล้วคุณตาไปจำหนูได้ยังไงคะ?”
คำพูดโของเอียนชิงเฉิงแอบมีการประชดเล็กน้อย
หานหนานเทียนหรี่ตาลงเล็กน้อย จ้องมองเอียนชิงเฉิงแล้วเผยรอยยิ้มที่ประหลาดออกมา หลานสาวคนนี้น่าสนใจ พอเจอหน้ากันก็แสดงอำนาจกับตาอย่างแล้ว
เอียนอานฉงกับเอียนหม่านชวนแสดงสายตาที่ประหลาดออกมา สายตามองไปทางอื่นแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจที่เอียนชิงเฉิงพูด
หานหนานเทียนพูดพร้อมรอยยิ้มว่า “นี่หลานสาว การต่อสู้ที่เกิดขึ้นวันก่อน ฉันไม่ได้เข้าร่วม แต่พี่ชายของแกไปเข้าร่วม โชคดีที่เขายังรอดมาได้”
ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง! ดูท่าจะโทษคุณตาที่ไม่ได้ออกหน้าช่วยเธอไม่ได้แล้ว
“หลังจากที่พี่ชายของแกกลับไป แค่บอกว่าหน้าตาของแกค่อนข้างคล้ายกับแม่ แต่ก็แน่ใจ แต่ว่า ฉันแค่รู้สึกสงสัยในใจ เลยส่งคนออกไปสืบดู นึกไม่ถึงว่าจะเป็นหลานสาวของฉันจริงๆ!” พูดถึงตรงนี้ น้ำเสียงของหานหนานเทียนก็ตื่นเต้นขึ้นมา