แดนนิรมิตเทพ - บทที่ 1547
ทุกคนที่มองเฉินโม่อยู่ ไม่เข้าใจว่าเฉินโม่จะทำอะไร“ฉันทำไมรู้สึกว่าใต้ฝ่าเท้าของเขามีสิ่งของ?”
“ฉันก็เหมือนกัน! อย่างไรก็ตามฉันรู้สึกว่าใต้ฝ่าเท้าของเขาไม่ใช่สิ่งของ แต่เป็นฟ้าดิน!”
ถูกต้อง ใต้ฝ่าเท้าของเฉินโม่ไม่ได้มีสิ่งของ แต่เป็นผืนฟ้าดิน
เจ็ดก้าวพิชิตฟ้า เหยียบฟ้าทุกก้าว พิชิตขึ้นไปบนฟ้า เมื่อพิชิตก้าวได้แล้ว ก็ปล่อยพลังพิชิตฟ้าออกมา
เมื่อเฉินโม่เดินครบเจ็ดก้าว แม้ว่าความสูงของเขาไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก แต่ทุกคนกลับรู้สึกว่าจู่ๆเขาก็เหนือกว่าสิ่งมีชีวิตทั้งหมด
แววตาของผู้หญิงในชุดดำมีความตกตะลึง ในขณะที่เหล่านักบู๊กำลังอึ้งกันอยู่ เธอก็แอบถอยกลับไปอย่างเงียบๆ และเฝ้ามองจากที่ไกลๆ
ตอนนี้ผมของเฉินโม่หงอกทั้งหัวแล้ว เหมือนคนแก่ที่กำลังจะตาย
เขาเงยหน้ามองไปบนท้องฟ้า ร่างกายแผ่กระจายไปด้วยพลังที่ไม่พอใจต่อโชคชะตา สวรรค์ไม่สามารถขัดขวางได้ ดินไม่สามารถฝังได้ เทพขวางสังหารเทพ มารปีศาจขวางก็สังหารมารปีศาจ
“สงบระงับ!”
เฉินโม่มองไปยังนักบู๊ ทันใดนั้นก็ชี้นิ้วที่สั่นไปทางพวกเขา พูดสี่คำนี้ด้วยสีหน้าที่ไร้ความรู้สึก
เจ็ดก้าวพิชิตฟ้า บวกกับพลังหมาเทพสงบระงับ ได้ปรากฏขึ้นบนโลกอีกครั้ง!
“เฉินไต้ซือโง่ไปแล้วหรือเปล่า? เขาคงไม่ใช่ว่าอยากจะโจมตีพวกเราในระยะไกลขนาดนั้นนะ?”
“ฉันรู้สึกว่าจู่ๆเขาก็เปลี่ยนไปจนน่าสะพรึงกลัว ร่างกายละจิตวิญญาณของฉันกำลังสั่น!”
“ฉันก็เหมือนกัน เขานั้นทำอะไรกันแน่!”
“ฉันว่าเราถอยกันก่อนเถอะ เฉินไต้ซือคนนี้ชั่วร้ายเกินไปแล้ว”
ผู้อาวุโสหยางและพวกยังคงตั้งท่าของค่ายกลดวงดาวอยู่ เมื่อเห็นนักบู๊อยากจะหนี ทันใดนั้นก็ตะโกนขึ้น “ไม่ต้องกลัว เขาก็แค่ข่มขวัญให้เรากลัวเท่านั้น เขาถูกค่ายกลเก้าดวงดาวทำร้าย ตอนนี้พลังของได้ถดถอยไปแล้ว ทุกคนอย่าโดนเขาหลอกตา!”
อย่างไรก็ตาม ขณะที่ผู้อาวุโสหยางพูดจบ นักบู๊หกคนที่ยืนอยู่ด้านหน้า ทันใดนั้นก็เหมือนกับหิน ยืนนิ่งอยู่ที่เดิม
จากนั้นร่างกายของพวกเขาก็ลอยอยู่กลางอากาศเสียแบบนั้น และกลายเป็นขี้เถ้ากระจายลอยไปตามสายลม
“ห๊า!”
ผู้อาวุโสและพวกตกใจจนเบิกตากว้าง ต่อให้พวกเขาจะเป็นแดนเทพแปรร่าง แต่กลับไม่เคยเห็นเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน
จากนั้นนักบู๊ที่อยู่ด้านหลังของพวกเขา ก็เริ่มประสบกับสถานการณ์เดียวกัน กลายเป็นขี้เถ้าโดยไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า และลอยหายไปกับสายลม
“หนี!” ผู้อาวุโสสวีรู้สึกตัวเป็นคนแรก เขารู้ว่าเฉินไต้ซือต้องใช้เคล็ดวิชาอะไรสักอย่าง ไม่เช่นนั้นผมของเฉินไต้ซือก็คงไม่เปลี่ยนเป็นสีขาว
เมื่อได้ยินคำพูดของผู้อาวุโสสวี คนทั้งหมดก็เริ่มหลบหนี แต่พวกเขาก็ต้องตกใจเมื่อ พบว่าตอนนี้พวกเขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เลย ราวกับว่ามีใครบางคนร่ายมนตร์สะกดพวกเขา
แม้แต่หญิงชุดดำที่หลบซ่อนตัวอยู่ด้านหลังของผู้คน ตอนนี้ก็ดิ้นรนอย่างหวาดกลัว เธอพบกว่าแม้แต่ตัวเธอเองก็ขยับตัวไม่ได้
นักบู๊สลายกลายเป็นขี้เถ้าทีละคน กระจายลอยไปยังท้องฟ้าและพื้นดิน ราวกับว่าไม่เคยมีตัวตนในผืนแผ่นดินนี้มาก่อน
ความรู้สึกสยองที่ผิดปกติ แม้แต่ผู้แข็งแกร่งแดนเทพ ก็หวาดกลัวอย่างมากจนแทบล้มทั้งยืน
เมื่อเห็นคนทั้งหมดได้สูญสลายไปแล้ว เหลือเพียงผู้อาวุโสที่ควบคุมค่ายกลดวงดาว หญิงชุดดำได้กัดลิ้นตัวเองในทันที และคลายเลือดออกมา ลูกปัดสีดำเม็ดหนึ่งเปื้อนเลือดก็ได้ปรากฏขึ้นตรงหน้าเธอ
แสงสีแดงเข้มปะทุออกมาจากลูกปัดสีดำ และมีร่างหนึ่งโผล่ออกมาจากลูกปัดสีดำและแนบชิดกับผู้หญิงในชุดดำ
จากนั้นหญิงชุดดำก็สามารถดิ้นหลุดจากพันธนาการ และได้หนีไปในทันที
เฉินโม่มองไปยังทิศทางที่หญิงชุดดำหนีไป แววตามีความประหลาดใจ เขาเคยเห็นลูกปัดสีดำนั้น
“ มีลูกปัดสองวิญญาณจริงๆด้วย คนผู้นั้นเป็นใครกันแน่?”