แดนนิรมิตเทพ - บทที่ 19 สัญญาสามปี(1)
บทที่ 19 สัญญาสามปี(1)
“กล้ามาก!”
“บังอาจ!”
คนตระกูลหลี่พากันส่งเสียงดัง มองเฉินโม่อย่างโมโห
หลี่ลี่เอี๋ยนตกใจจนหน้าซีด รีบพูดว่า “รีบปล่อยมือเร็วๆ!”
คนที่เป็นผู้บัญชาการทหารอย่างหลี่ลี่อู่ เอามือวางไว้ตรงเอว ตรงนั้นมีปืนพกอัตโนมัติ รุ่นใหม่ล่าสุด ที่กองทัพจัดสรรให้ แค่เฉินโม่ตุกติกเพียงเล็กน้อย คนเป็นลุงรองอย่างเขา จะฆ่าแบบไม่ลังเลอย่างแน่นอน
ความน่าเกรงขามของผู้นำตระกูลหลี่ ไม่ได้ท้าทายได้ง่ายๆ!
ถึงหลี่ซู่เฟินกล้าแตกหักกับตระกูลหลี่ ก็มีสีหน้าตกตะลึงเช่นกัน ตะโกนออกมาว่า “เสี่ยวโม่ รีบปล่อยมือ!”
ในบรรดาพวกคนอายุน้อย ที่เป็นสายเลือดทางตรงของตระกูลหลี่ จู่ๆ ชายหนุ่มหน้าตาเคร่งขรึมคนหนึ่ง ก้าวออกมาข้างหน้าสองก้าว ระยะห่างนี้ เป็นระยะที่เขาควบคุมได้
ในห้องโถงด้านหลังหลี่ตงหยาง มีผู้อาวุโสหน้าตาธรรมดา ปรากฏตัวออกมาสองคน ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาโผล่มาตอนไหน อีกทั้งยังไม่มีใครรู้ถึงการมีอยู่ของพวกเขา เหมือนวิญญาณอย่างไรอย่างนั้น!
เฉินโม่สัมผัสได้ถึงพลังทิพย์สามพลัง เคลื่อนไหวและหายไป หนึ่งพลังพอๆ กับเขา ส่วนอีกสองพลังกลับแข็งแกร่งกว่าเขาเป็นอย่างมาก ถ้าเขาเข้าสู่ชั้นสามแดนรวมพลัง สามารถจัดการความกดดันนี้ได้อย่างง่ายดาย แต่ตอนนี้ ลมปราณนั้นเพียงพอที่จะข่มขู่เขาได้
เฉินโม่ตกใจเล็กน้อย ดูเหมือนว่าตระกูลหลี่ ไม่ธรรมดาอย่างที่เห็น ชาติก่อนเขายังประสบการณ์น้อยเกินไป
แต่ความน่าเกรงขามของผู้บำเพ็ญแดนดั่งเทพ ก็ไม่สามารถล่วงเกินได้ง่ายๆ เหมือนกัน!
ชาติก่อน เขาเห็นพ่อแม่ตายไปพร้อมกัน โดยไม่สามารถทำอะไรได้ ชาตินี้ ถ้ายังให้แม่โดนดูหมิ่นต่อหน้าเขาแบบนี้อีก เฉินโม่คงมีชีวิตอยู่อย่างเสียเปล่า ไม่ได้ทำหน้าที่ของลูก!
เฉินโม่มองหลี่ตงหยางอย่างเย็นชา “แม่โดนนายไล่ออกจากตระกูลแล้ว ไม่ได้เป็นคนของตระกูลหลี่อีกต่อไป นายไม่มีสิทธิ์แตะต้องแม่!”
“ฉันเป็นคนทำร้ายเขา ถ้าไม่ยอม ให้มาเล่นงานฉัน วันนี้มีฉันอยู่ ใครก็อย่าได้แตะต้องแม่ฉันแม้แต่เส้นผม ฉันไม่สนใจหรอกนะ ที่จะทำให้ตระกูลหลี่ของพวกนาย เปลี่ยนผู้นำตระกูล!”
พูดจบ เฉินโม่ไม่หลบซ่อนอีกแล้ว พลังทิพย์ที่สะสมไว้ไม่เยอะในร่างกาย ถูกปลดปล่อยออกมาอย่างรวดเร็ว เสื้อผ้าบนตัวเฉินโม่ปลิวขึ้นมาดื้อๆ ลมปราณอันแข็งแกร่งถาโถมไปทั่ว
ลุงใหญ่ ลุงรอง ลุงสาม และน้าของเฉินโม่ รวมไปถึงพวกที่ไม่ใช่สายเลือดโดยตรง ที่เป็นแกนหลัก ซึ่งมีความสามารถใกล้ชิดกับตระกูลหลี่ได้ ต่างพากันมองเฉินโม่อย่างตกตะลึง มีเสียงหนึ่งดังขึ้นในก้นบึ้งหัวใจ!
“นักบู๊แดนใน!”
ขนาดหลี่ตงหยาง ที่มีสีหน้าเย็นชามาตลอด ก็อดตกใจไม่ได้ ในฐานะที่เป็นผู้นำตระกูลหลี่ มีหรือที่เขาจะไม่เข้าใจว่านักบู๊แดนในหมายถึงอะไร!
ถ้าเฉินโม่มีใจจะฆ่าจริงๆ ระยะใกล้ขนาดนี้ ถึงเป็นผู้คุ้มกันของตระกูลหลี่สองคนนั้น ก็ช่วยเขาไม่ได้!
หลี่ลี่อู่ชักมือที่วางไว้ตรงเอวกลับมาช้าๆ สีหน้าเย็นชาเป็นอย่างมาก
ความมั่นใจบนใบหน้าของคนหนุ่มสีหน้าเคร่งขรึมคนนั้นหายไปเหมือนกัน ถูกแทนที่ด้วยความตึงเครียด เดินไปข้างหน้าอีกสองสามก้าวอย่างเงียบๆ แต่กลับไม่กล้าทำอะไรแปลกๆ แม้แต่น้อย
หลี่ซู่เฟินไม่เข้าใจ แต่เธอสัมผัสได้ถึงสีหน้าที่เปลี่ยนไปของหลี่ตงหยาง รวมไปถึงพี่น้องของเธอ จึงอดมองเฉินโม่อย่างตกใจไม่ได้ ใบหน้ามีความสงสัย
บรรยากาศตอนนี้ แปรเปลี่ยนเป็นความเงียบทันที
หลี่ลี่เอี๋ยนรีบพูดไกล่เกลี่ยว่า “เฉินโม่ รีบปล่อยมือ ทำไมถึงไร้มารยาทกับคุณตาของนายขนาดนี้!”
เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว เฉินโม่ไม่ประนีประนอมกับตระกูลหลี่อีกแล้ว ชาติก่อน เขาโดนจัดการจนบาดเจ็บสาหัส หลี่ซู่เฟินเถียงกับหลี่ตงหยาง เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้เขา แต่กลับโดนหลี่ตงหยางไล่ออกจากตระกูลหลี่
ชาตินี้ เขาเข้าใจว่าเรื่องราวโดนเขาเปลี่ยนแปลงไปแล้ว แต่ประวัติศาสตร์ยังไม่เปลี่ยนไปสักนิด แม่เขาก็ยังโดนไล่ออกจากตระกูลอย่างใจร้ายใจดำ
ในเมื่อไม่สามารถเปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้ งั้นทำไมเขาต้องสงบเสงี่ยมเจียมตัวอีกล่ะ สู้ล้างแค้นและทดแทนบุญคุณไม่ดีกว่าเหรอ ปล่อยให้ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ!
เฉินโม่ยังไม่ปล่อยมือ หันไปมองหลี่ลี่เอี๋ยน แล้วพูดด้วยสีหน้าราบเรียบ “ตางั้นเหรอ”
“ตอนฉันเกิด ไม่ทราบว่าคุณตาอยู่ไหน”
“ตอนฉันโดนคนอื่นรังแก ไม่ทราบว่าคุณตาอยู่ไหน”
“ฉันโดนหลี่เยว่พาคนรุม ไม่ทราบว่าคุณตาอยู่ไหน”
“ตอนฉันกับแม่โดนคนก่นด่า ไม่ทราบว่าคุณตาอยู่ไหน”
ทุกคำถามที่เฉินโม่ถามออกมา หลี่ตงหยางสีหน้าไม่สู้ดีขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งคำถามที่สี่ สีหน้าของหลี่ตงหยาง โกรธเป็นอย่างมาก
ลุงใหญ่ ลุงรอง ลุงสามและน้าของเฉินโม่ ต่างมีสีหน้าเคร่งขรึม ไม่พูดอะไรสักคำ
“คุณตาแบบนี้ คนอย่างเฉินโม่ไม่ยอมรับหรอก!”
ความเงียบปกคลุมที่นี่ คนตระกูลหลี่ต่างมีสีหน้าโมโห คนตระกูลหลี่จำนวนมาก โกรธกับพฤติกรรมของเฉินโม่เป็นอย่างมาก แต่ไม่สามารถเถียงได้ เพราะที่เฉินโม่พูดออกมา เป็นเรื่องจริงทั้งหมด
ขณะนั้น คนหนุ่มที่มีสีหน้าเคร่งขรึมคนนั้น เดินออกมาจากกลุ่มคน หยุดลงตรงหน้าเฉินโม่ ระยะห่างประมาณ 6 เมตรกว่า
เฉินโม่เงยหน้าขึ้นเบาๆ อดยกยิ้มมุมปากไม่ได้ เขาพูดชื่อหนึ่งออกมา “หลี่เจ๋อ!”
สายเลือดทางตรงของตระกูลหลี่ ลูกคนโตของลุงใหญ่หลี่ลี่เหวิน พี่ชายแท้ๆ ของหลี่เยว่ เป็นอันดับหนึ่งในบรรดาคนอายุน้อยของตระกูลหลี่ รวมกับอีกสามคนของหกตระกูลใหญ่ ถูกเรียกว่า สี่อัจฉริยะมหาบัณฑิตแห่งยานจิง
ชื่อของหลี่เจ๋อ สำหรับเฉินโม่เมื่อชาติที่แล้ว เหมือนการมีอยู่ในตำนาน เขาเคยเจอหลี่เจ๋อเพียงครั้งเดียว ในงานศพแม่ ตอนนั้นหลี่เจ๋อไม่สนใจเขาสักนิด ไม่มีแม้แต่คำพูดปลอบใจสักคำ
ชาตินี้ เฉินโม่เจอบุคคลที่ชาติก่อน ได้แต่แหงนหน้ามองเป็นครั้งแรก จิตใจสงบจนผิดปกติ จากสายตาของเฉินโม่ในตอนนี้ ดูออกอยู่แล้ว ลูกพี่ลูกน้องคนนี้ เป็นนักบู๊ แข็งแกร่งกว่าหลี่เยว่ที่โดนเขาจัดการเกินสิบเท่า
หลี่เจ๋อมองเฉินโม่ สีหน้าราบเรียบเหมือนกัน พูดช้าๆ ว่า “ถึงแม้นายมีเหตุผลเป็นพัน ข้ออ้างเป็นหมื่น แต่ไม่มีวันทำลายความจริงอย่างหนึ่งได้ ในตัวนายมีสายเลือดตระกูลหลี่!”
บทที่ 18 ความจริง(2)
บทที่ 20 สัญญาสามปี(2)