แดนนิรมิตเทพ - บทที่ 252
บทที่ 252
“เชื่อว่าทุกคนคงจะเดาออก ครั้งนี้ที่ฉันได้ไปยู่หนานกับกรรมการฉือ และได้พบกันประธานเหอแห่งเหอฮุ่ยกรุ๊ป ประธานเหอได้ตกลงสร้างความร่วมมือกับเราในการพัฒนาที่ดินผืนนั้น โดยรายละเอียดจะถูกพูดถึงในการประชุมสูงสุดฮ่านหยางที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้”
พูดจบ หลี่ซู่เฟินก็ฉีกยิ้มออกมาโดยไม่พูดอะไร กวาดตามองไปหาทุกคน
เหล่าคณะกรรมการทั้งสิบกว่าท่าน ต่างก็พยักหน้ากันไม่หยุด แสดงออกถึงความพึงพอใจในผลลัพธ์
ฉือโฉงหวาผู้ที่มีไฝอยู่ที่คาง แววตาสั่นไหว สีหน้าหม่นหมองลง
“ท่านประธาน เทียบกับพลังของเหอฮุ่ยกรุ๊ปนั้นเราต่างกันอยู่หลายเท่า แต่ยังสามารถร่วมมือด้วยกันได้ คือว่าเป็นความโชคดีของเหม่ยหวากรุ๊ปเป็นอย่างยิ่ง ในเรื่องนี้ท่านประธานช่างมีความน่าชื่นชมอย่างยิ่ง !” กรรมการที่สวมแว่นตาพูดกล่าวชมเชย
“หากสามารถร่วมมือกับเหอฮุ่ยกรุ๊ปสำเร็จ ธุรกิจของเหม่ยหวากรุ๊ปจะต้องดีขึ้นอีกขั้นนึงแน่ !”
“ทั้งหมดนี้คือคุณงามความดีของท่านประธาน ท่านประธานเก่งจนหาใครเปรียบไม่ได้จริง ๆ !”
ทั้งสิบสองคน มีอยู่เจ็ดแปดคนที่ค่อย ๆ กล่าวชื่นชมหลี่ซู่เฟิน คนอื่น ๆ แม้จะไม่ได้พูดอะไรออกไป แต่ก็คอยพยักหน้าเห็นด้วยในความสามารถ
“หากว่าทุกท่านไม่มีคำถามอะไรกับการร่วมมือกันกับเหอฮุ่ยกรุ๊ป ถ้าอย่างนั้นในการประชุมสูงสุดในวันพรุ่งนี้ ฉันจะเซ็นสัญญากับประธานเหอ” หลี่ซู่เฟินพูด
“ไม่มีปัญหา !”
“ผมก็ไม่มีปัญหา !”
ทุกคนต่างก็พยักหน้า
“ดี งั้นต่อตกลงตามนี้ ไม่รบกวนเวลาของทุกคนแล้ว เลิกประชุมได้ !” หลี่ซู่เฟินตัดสินใจอย่างเด็ดขาด
ขณะนั้นเอง ฉือโฉงหวาจู่ ๆ ก็พูดขึ้น “รอก่อน !”
หลี่ซู่เฟินและคนอื่น ๆ หันไปมองฉือโฉงหวาด้วยความสงสัย หลี่ซู่เฟินถามกลับไปว่า “คุณฉือมีอะไรงั้นหรือ ?”
ฉือโฉงหวาส่ายหัว ยิ้มอย่างประหลาดพลางพูดออกมาว่า “การร่วมมือกับเหอฮุ่ยกรุ๊ปผมไม่มีปัญหา แต่เมื่อวานลูกชายผมได้บอกเรื่องหนึ่งกับผม รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ปล่อยไว้ไม่ได้ อาจจะเกี่ยวเนื่องกับอนาคตของเหม่ยหวากรุ๊ป ดังนั้นจึงต้องขอพูดกับทุกคนสักหน่อย”
เมื่อได้ยินฉือโฉงหวามีเรื่องสำคัญที่จะพูด ทุก ๆ คนก็ค่อย ๆ หันไปมองที่เขา
หลี่ซู่เฟินขมวดคิ้วถาม “คุณฉือ มีเรื่องอะไรกันแน่”
ฉือโฉงหวาทำหน้าลึกลับ พูดอย่างยิ้มแย้มว่า “เรื่องนี้ให้ลูกชายผมมาพูดเองเถอะ !”
“ถ้างั้นก็เชิญลูกชายคุณมา คลายความสงสัยของทุกคนหน่อยสิ !” หลี่ซู่เฟินเกิดความสงสัยขึ้นในใจ ไม่รู้ว่าอยู่ ๆ เกิดเรื่องอะไรขึ้น
ฉือโฉงหวายกโทรศัพท์ขึ้น “ผมจะโทรหาเขา”
ห้านาทีต่อมา ฉือรุ่ยปิงก็ปรากฏตัวขึ้นในที่ประชุม อธิบายเรื่องที่เฉินโม่ปฏิเสธคำเชิญของคุณชายรองจินต่อหน้าทุกคน แถมยังทำตัวไม่แยแสคุณท่านจินด้วย สร้างความขุ่นเคืองให้กับคุณชายรองจิน แต่ไม่ได้พูดถึงเรื่องที่คุณชายรองจินขอโทษเฉินโม่ ซึ่งเกิดจากความตั้งใจของเขาเอง
“ท่านประธาน นั่นมันคุณชายรองจากตระกูลจินนี่นา โอกาสดีขนาดไหนที่จะได้ทำความรู้จักกับตระกูลจิน กลับถูกคุณชายเฉินโม่ทิ้งไปอย่างน่าเสียดาย แถมยังทำให้คุณชายรองจินขุ่นเคืองใจอีก” ฉือรุ่ยปิงคิดอย่างนี้ออกมา ใบหน้าก็เศร้าสร้อยลงทันที
คณะกรรมการทุกคนเองก็เปลี่ยนสีหน้าไป ตระกูลจินแห่งฮ่านหยาง คือตระกูลที่ชนชั้นสูงที่มีชื่อเสียงในฮ่านหยางต่างก็ต้องการประจบประแจงด้วย แต่เฉินโม่กลับปฏิเสธเขา จนถึงขนาดทำให้เขาขุ่นเคืองใจ
หากตระกูลจินต้องโมโหขึ้นมา เพียงแค่ยกมือขึ้น เหม่ยหวากรุ๊ปก็จะตกอยู่ในอันตรายทันที !
“เฮอะ จะเกินไปแล้ว ! ท่านประธาน เฉินโม่เป็นลูกของท่าน ท่านจะต้องอธิบายเรื่องนี้มาให้ได้ !” กรรมคนหนึ่งพูดออกมาด้วยสีหน้าเย็นชา
“ใช่แล้ว เฉินโม่ทำเกินไปแล้ว”
“ผมเห็นด้วย !”
“ผมด้วย !”
คณะกรรมการทั้งหมดเห็นด้วย ต้องการให้หลี่ซู่เฟินอธิบายเรื่องนี้ให้กับทุกคนฟัง
หลี่ซู่เฟินถึงกับปวดหัว ในใจนึกต่อว่าเฉินโม่ที่สร้างปัญหาให้ แต่ว่าเธอเองก็รู้สึกไม่แน่ใจนัก เธอไม่คิดว่าเฉินโม่จะโง่ขนาดนั้น จนสร้างความขุ่นใจให้กับตระกูลจินได้
หรือว่าจะมีอะไรบางอย่างที่ไม่ทราบอยู่
“ทุกคนวางใจได้ ฉันจะกลับไปตรวจสอบเรื่องนี้ให้ชัดเจน หากว่าเฉินโม่ทำให้เหม่ยหวากรุ๊ปต้องเสียผลประโยชน์ การประชุมสูงสุดในวันพรุ่งนี้ ฉันจะนำเฉินโม่มาขอโทษต่อหน้าเหล่าชนชั้นผู้ดีในฮ่านหยางเอง !” หลี่ซู่เฟินใบหน้าจริงจัง ท่าทีดูเด็ดขาด
สองพ่อลูกตระกูลฉือแอบได้ใจ คาดหวังว่าพรุ่งนี้จะมีอะไรดี ๆ ให้เห็น