แดนนิรมิตเทพ - บทที่ 269
บทที่ 269
ทุกคนก็อึ้งอีกครั้ง!
ผู้บัญชาการอายุน้อยแค่นี้ อนาคตยาวไกลแน่นอน
สายบุ๋นมีว่านอี้เสียง สายบู๊มีว่านฉางเฟิง สายธุรกิจมีว่านฉางหรู
ตระกูลว่านวางเกมได้อย่างล้ำลึกมาก!
แบบนี้ จุดอ่อนในฝ่ายการทหารและรัฐบาลของตระกูลว่าน ก็ถูกเติมเต็มไปแล้วทันที ถ้ารออีกไม่กี่ปี อิทธิพลของตระกูลว่านคงจะต้องเหนือกว่าตระกูลจินแน่นอน!
ถึงว่าพอเห็นคนมีชื่อเสียงทั้งหลายยินยอมไปช่วยเหลือเหม่ยหวา กรุ๊ป ว่านฉางหรูดูไม่ตื่นตระหนกอะไรเลย ถึงว่าว่านฉางหรูถึงได้ครองตำแหน่งมหาเศรษฐีของฮ่านหยางได้หลายปี ไม่มีใครมาแทนที่ได้ ที่แท้นี่ก็คือกำลังอันแท้จริงของตระกูลว่านนี่เอง!
สีหน้าของหลี่ซู่เฟินหนักใจขึ้นมาทันที “คิดไม่ถึงเลยว่า อิทธิพลของตระกูลว่านจะถูกซ่อนไว้ได้ลึกขนาดนี้!”
“วันนี้ว่านฉางหรูตั้งใจเผยกำลังที่แท้จริงของตนเองออกมา ดูเหมือนว่าเตรียมจะอวดแสนยานุภาพต่อพวกที่เสี่ยวโม่หามาช่วยเหลือ หวังว่าคนพวกนี้จะไม่ตกใจกลัวไปเสียก่อนนะ”
พวกของฉู่เหวินสงกับเจี่ยจิ้งอาน ถึงแม้จะตกใจกับพลังอันแท้จริงของตระกูลว่านที่เปิดเผยออกมา แต่เมื่อเทียบกับบารมีของเฉินโม่แล้วนั้น อิทธิพลของทางโลกแบบนี้ มันก็เหมือนดอกไม้ไฟ หลังจากส่องสว่างไปแล้วก็เหลือแค่เถ้าถ่าน มีเพียงแข็งแกร่งด้วยลำแข้งตนเอง ถึงจะเป็นนิรันดร์
หลิวหงปินมองเฉินโม่ แล้วหัวเราะอย่างได้ใจ “ไอ้หนู จะมาแข่งกับตระกูลว่าน มึงมันยังไม่มีสิทธิ์หรอกเว้ย!”
เฉินโม่มองหลิวหงปินนิ่งๆ ถ้าไม่ใช่เพราะว่ากลัวว่าการที่จะฆ่าประธานบริษัทคนหนึ่งต่อหน้าคนทั้งหลายมันจะเป็นเรื่องใหญ่เกินไป แล้วจะส่งผลให้ภาครัฐไม่พอใจล่ะก็ หลิวหงปินได้ตายไปเป็นหมื่นรอบแล้ว
“ฮ่าๆ น่าสนุกจริงๆ รู้อย่างนี้ต้องมาการประชุมสูงสุดฮ่านหยางทุกปีแล้วล่ะ!”
เสียงหัวเราะดังลั่น ดังเข้ามาจากนอกประตู จากนั้นผู้ว่าข่งเต๋อหยุนก็พาจินเอี๋ยนหยู่และหนุ่มชุดดำอีกสองคนค่อยๆ เดินเข้ามา
ทุกคนก็สีหน้าเปลี่ยนไปพร้อมๆ กัน!
“นายกๆ ข่ง!”
คนมีชื่อเสียงของฮ่านหยางทั้งหลาย รู้จักนายกๆที่ขึ้นตรงต่อส่วนกลางของภาครัฐคนนี้เป็นอย่างดี ต่อให้เป็นพวกลูกเศรษฐีที่ไม่เคยเล่าเรียนอย่างพวกของคุณชายหลิวก็ยังรู้จักกันหมด
ข่งเต๋อหยุนเดินเข้ามาอย่างมั่นคง ใบหน้าอมยิ้มเล็กน้อย “ทุกคนคุยกันต่อเลย ผมมาเข้าพบคนคนหนึ่ง เดี๋ยวก็กลับแล้ว!”
ทุกคนตกใจ!
“นายกๆ ข่งมาพบคนคนหนึ่งในการประชุมสูงสุดฮ่านหยางด้วยตัวเอง คนคนนั้นคือใครกัน?”
ในใจของทุกคนก็ครุ่นคิด
จากนั้น สายตาของทุกคนก็มองไปยังตัวของว่านฉางหรูที่อยู่บนเวที ในงานนี้ มีเพียงว่านฉางหรูคนเดียว ที่มีฐานะสูงส่งที่สุด
แต่ว่า ต่อให้เป็นว่านฉางหรู ก็ไม่มีอำนาจมากพอที่จะให้นายกๆ ข่งมาเข้าพบด้วยตนเอง?
แต่ว่า นอกจากว่านฉางหรูแล้ว พวกเขาก็คิดไม่ตกกันจริงๆ ว่าใครจะสามารถทำให้นายกๆ ข่งมาเข้าพบได้
ว่านฉางหรูก็อึ้งๆ เล็กน้อย ในใจก็คิด “หรือว่านายกๆ ข่งได้ข่าวว่าอี้เสียงกับฉางเฟิงเป็นคนของตระกูลว่านเรา แล้วสนใจอิทธิพลของตระกูลว่านเรา แล้วอยากจะคบค้าสมาคมด้วย?”
“ต้องเป็นแบบนี้แน่ๆ” นอกจากแบบนี้แล้ว ว่านฉางหรูก็คิดไม่ออกจริงๆ ว่าข่งเต๋อหยุนมาที่นี่ทำไม
นายกๆ ข่งไม่ใช่แค่เป็นผู้บังคับบัญชาของว่านอี้เสียงเท่านั้น ทั้งยังเป็นคนของตระกูลข่งแห่งมณฑลหลู่ตง ถึงแม้ปกติแล้วว่านฉางหรูจะสามารถพูดคุยกับเขาได้ แต่นายกๆ ข่งคนนี้เป็นคนซื่อตรง รักษาระยะห่างกับมหาเศรษฐีอย่างว่านฉางหรูอยู่เสมอ
ว่านฉางหรูอยากจะประจบนายกๆ ข่ง แต่ก็ไม่มีโอกาสเลย ตอนนี้นายกๆ ข่งมาที่นี่ด้วยตัวเอง นายกๆ ข่งก็เลยดีใจมาก
“นายกๆ ข่งมาเยือนถึงที่ ผมไม่ได้ออกไปต้อนรับ ต้องขออภัยด้วยครับ!” ว่านฉางหรูรีบกระโดดลงเวทีอย่างเร็วโดยไม่สนใจภาพลักษณ์เลย รองนายกๆ ว่านก็รีบกระโดดตามไปเหมือนกัน
“ประธานว่านไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ!” ข่งเต๋อหยุนยกมือทำความเคารพกลับ แล้วพูดนิ่งๆ ว่า “อ้าว อี้เสียงก็อยู่ด้วยงั้นหรือ!”
รองนายกๆ ว่านรีบโค้งคำนับให้กับผู้บังคับบัญชาของตัวเอง แล้วพูดทักทายว่า “สวัสดีครับคุณเต๋อหยุน!”
“ไม่ต้องเกรงใจ พวกคุณยุ่งเรื่องของพวกคุณไปเถอะ!” นายกๆ ข่งหัวเราะพูด
ทันใดนั้น ข่งเต๋อหยุนก็เห็นเฉินโม่ที่นั่งอยู่ข้างๆ หลี่ซู่เฟิน สายตาก็เป็นประกาย แล้วก็ไม่สนใจพวกว่านฉางหรูเลย รีบเดินเข้าไปหาเฉินโม่ทันที
หลี่ซู่เฟินเห็นนายกๆ ข่งเดินมาทางตนเอง ก็ตกใจ รีบโค้งคำนับทำความเคารพทันที “หลี่ซู่เฟินแห่งเหม่ยหวา กรุ๊ป สวัสดีนายกๆ ข่งค่ะ!”