แดนนิรมิตเทพ - บทที่ 270
บทที่ 270
“ประธานหลี่ไม่ต้องเกรงใจครับ!” ข่เต๋อหยุนยังคงมีท่าทางนิ่งๆ
แต่ว่า ตอนที่ข่งเต๋อหยุนเห็นว่าเฉินโม่อยู่ข้างๆ ก็รีบโค้งคำนับให้กับเฉินโม่ทันที “คุณเฉิน ผมถือวิสาสะมาที่นี่ ต้องขออภัยด้วยนะครับ!”
คนในงานก็เงียบกริบ!
รอยยิ้มบนใบหน้าของว่านฉางหรูค้างไปเลยว่านฉางหรู
รองนายกๆ ว่านก็หน้าเสีย
รอยยิ้มอย่างได้ใจของหลิวหงปิน ก็เปลี่ยนไปเป็นความหลัวทันที!
พวกคนมีชื่อเสียงที่สนับสนุนตระกูลว่า ก็ล้วนมีสีหน้าตกใจกลัวกันหมด!
“คนที่นายกๆ ข่งจะมาขอพบ เป็นหมอนั่นอย่างนั้นหรือนี่!”
“ไอ้หนุ่มน้อยนี้มันมีที่มาอย่างไรกันแน่?”
ทุกคนมองไปยังเฉินโม่ด้วยสีหน้าตื่นตกใจ!
หลี่ซู่เฟินกับเวินฉิงก็จ้องมองเฉินโม่อย่างตกใจและสงสัย ในใจก็ตุ้มๆ ต่อมๆ ลูกชายตนเองมีนิสัยเป็นอย่างไร หลี่ซู่เฟินรู้ดีกว่าใครเป็นที่สุด แต่วันนี้สิ่งที่เฉินโม่ทำให้เธอตกใจ มันช่างมากมายเหลือเกิน!
ต่อหน้านายกๆ ข่ง เฉินโม่ก็ยกมือทำความเคารพเบาๆ แล้วพูดนิ่งๆ ว่า “ครับนายกๆ ข่ง!”
ตอนแรกเฉินโม่ไม่รู้ว่าที่นายกๆ ข่ง!มาครั้งนี้ มาเพื่อเข้าพบตนเอง แต่พอเห็นจินเอี๋ยนหยู่ เฉินโม่ก็คิดได้ทันที จะต้องเป็นเพราะตอนนั้นที่เรียกฝน ทำให้เปิดเผยตัวตนไป
พอเห็นเฉินโม่นั่งทำความเคารพให้กับนายกๆ ข่ง ท่าทางเย่อหยิ่ง ในใจของทุกคนก็ยิ่งตื่นตระหนก
แม้แต่หลี่ซู่เฟินเองก็ยังคิดว่าเฉินโม่เสียมารยาทมากเกินไปแล้ว เลยดุไปว่า “เสี่ยวโม่ ระวังมารยาทด้วย!”
“ไม่เป็นไรครับ!” ไม่รอให้เฉินโม่ตอบ ข่งเต๋อหยุนก็ยื่นมือเข้ามาขวางหลี่ซู่เฟินไว้ก่อนเลย
จากนั้นก็มีสีหน้าจริงจัง แล้วทำโค้งตัวคำนับเฉินโม่ไปอีกครั้ง “คุณเฉินมีคุณธรรมใหญ่หลวง ผมขอขอบคุณแทนคนที่รอดจากเคราะห์กรรมครั้งนั้นด้วยครับ!”
ครั้งนี้ ไม่มีใครกล้าเสียมารยาทกับเฉินโม่อีกแล้ว!เพียงแต่ว่า ความแปลกใจในสายตาของทุกคนนั้น มันเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม!
หลี่ซู่เฟินก็แปลกใจมาก “เสี่ยวโม่ไปทำอะไรมากันแน่ ทำไมถึงให้นายกๆ ทำความเคารพความขนาดนี้?”
เฉินโม่ก็ยังหนิ้น่งๆ “เรื่องเล็กๆ น่ะครับ ไม่ควรค่าให้เอ่ยถึงหรอก นายกๆ ข่งไม่ต้องเกรงใจไปครับ!”
ข่งเต๋อหยุนก็เงยตัวขึ้นมา แต่สีหน้ายังคงจริงจัง มองเฉินโม่แล้วพูดว่า “ความสามารถของคุณเฉิน สมควรให้ผมกราบไหว้ครับ พอดีว่าผมจะขออนุญาตเชิญคุณเฉินไปคุยกันสักหน่อย!”
ใบหน้าของข่งเต๋อหยุนเผยความกังวลออกมา แต่สายตากลับตั้งมั่นมาก น้ำเสียงก็จริงจัง ราวกับว่าเฉินโม่ต้องตอบรับคำเชิญแน่นอน!
เฉินโม่ยังหน้านิ่งเหมือนเดิม เขารู้ว่านายกๆ ข่งกังวลเรื่องอะไร พอคิดๆ แล้ว เฉินโม่ก็ตอบรับไปด้วยคำพูดแปลกๆ
“ผมเป็นคนของหัวเซี่ย!”
เฉินโม่เกิดใหม่ จิตใจได้เหนือกว่าทางโลกไปแล้ว หลายๆ ประเทศในโลกนี้เฉินโม่ไม่มองอยู่ในสายตา
นายกๆ ข่งรู้ถึงพลังของเขา แต่กังวลว่าเขาจะทำอะไรที่นอกเหนือขอบเขตไป ดังนั้นก็เลยอยากจะคุยกับเฉินโม่ คำพูดนี้ของเฉินโม่ ก็เหมือนได้แสดงเจตนารมณ์ของตนเองแก่นายกๆ ข่ง ในฐานะที่เป็นคนของหัวเซี่ย คงจะไม่ทำเรื่องอะไรที่เป็นผลเสียต่อหัวเซี่ยอย่างแน่นอน ถือว่าได้ให้คำตอบที่ชัดเจนแก่นายกๆ ข่ง
แต่ว่า ก็เพียงแค่นี้เท่านั้น!ยอมรับว่าเป็นคนของหัวเซี่ย ก็เป็นแค่การรับรองอย่างเดียว ไม่ได้หมายความว่าจะยอมรับให้ทางการของหัวเซี่ยมาควบคุมได้
ในฐานะที่เป็นผู้บำเพ็ญแดนดั่งเทพที่ท่องจักรวาลและดวงดาวบนท้องฟ้า ได้อยู่เหนือนิยามของคำว่าประเทศไปนานแล้ว การยอมรับว่าเป็นคนหัวเซี่ย ก็ถือว่าได้ให้เกียรตินายกๆ ข่งมากแล้ว
ถึงแม้นายกๆ ข่งจะไม่รู้พลังที่แท้จริงทั้งหมดของเฉินโม่ แต่เขาก็รู้ว่าพวกคนเก่งๆ มักจะไม่ยอมรับการผูกมัดใดๆ ทั้งสิ้น เฉินยอมรับว่าเป็นของหัวเซี่ย เขาก็พอใจแล้ว!
“คุณเฉินมีคุณธรรม ผมนับถือมากจริงๆ !” ข่งเต๋อหยุนโค้งคำนับอีกครั้ง ใบหน้าก็เผยรอยยิ้มอย่างจริงจัง
“ในเมื่อเป็นแบบนี้ อย่างนั้นผมก็ไม่รบกวนคุณเฉินแล้วล่ะครับ ถ้าวันหลังคุณเฉินมีเรื่องอะไร บอกกับเสี่ยวจินไว้ ขอเพียงเป็นเรื่องที่ไม่ผิดกฎหมาย ผมจะช่วยเหลือเต็มที่!”
เฉินโม่พยักหน้า แล้วพูดนิ่งๆ ว่า “ขอบคุณนายกๆ ข่งมาก!”
ข่งเต๋อหยุนหันตัวไป แล้วยกมือทำความเคารพกับพวกของว่านฉางหรู พร้อมกับหัวเราะพูดว่า “ทุกท่านเชิญต่อเลยครับ ผมขอตัวกลับก่อน!”