แดนนิรมิตเทพ - บทที่ 308
บทที่ 308
สายตาที่พ่อลูกตระกูลหูมองดูเฉินโม่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว ผู้สูงศักดิ์อย่างตระกูลจิน กลับเคารพไอ้หนุ่มคนนี้อย่างกับเทพเจ้า!
ไอ้หนุ่มคนนี้ เป็นใครมาจากไหนกันแน่?
ทันใดนั้นหูเจี้ยนหวาก็นึกถึงคำพูดที่เฉินโม่พูดในงานเลี้ยงรุ่นว่า “ฉันไม่ใช่คนในโลกเดียวกับพวกนาย….”
ตอนนั้นเขาก็คิดว่าเฉิมโม่พูดจาโกหกโอ้อวด แต่ตอนนี้ดูแล้ว เฉินโม่ไม่ใช่คนในโลกเดียวกับพวกเขาจริงๆด้วย!
อีกอย่างในโลกใบนั้น คนอย่างหูเจี้ยนหวาพวกเขาทำได้แค่เฝ้ามองดูเท่านั้น!
ถานกวงเย่าโค้งคำนับให้กับเฉินโม่ “คุณ คุณเฉิน ขอบคุณที่คุณช่วยเหลืออย่างมากครับ ไม่อย่างนั้นตระกูลถานของผมคงจะอันตรายแล้วละครับ!”
เฉินโม่ลุกขึ้นยืน พลังอย่างหนึ่งในอากาศจับตัวถานกวงเย่าไว้ ขัดขวางการทำความเคารพของเขา
“ลุงถานไม่จำเป็นต้องเกรงใจครับ จากความสัมพันธ์ระหว่างผมกับชิวเซิงแล้ว เรื่องของตระกูลถานก็คือเรื่องของผมครับ”
ถานกวงเย่าตะลึง นี่คือพลังอะไรกัน ช่างน่าอัศจรรย์เช่นนี้!
ถานชิวเซิงตบบ่าของเฉินโม่อย่างหนัก สีหน้าเต็มไปด้วยความเคารพนับถือ “เสี่ยวโม่ หลายปีมานี้นายทำอะไรมาบ้างกันแน่? ถึงได้สามารถทำให้ตระกูลจินแห่งฮ่านหยางหวาดกลัวนาย!”
เฉินโม่ยิ้มไม่พูดอะไร แม้ว่าตระกูลถานจะมีฐานะไม่แย่ แต่สุดท้ายก็เป็นแค่คนธรรมดา มีบางเรื่องไม่เหมาะที่จะบอกกับพวกเขา หากไปโค่นล้มความรู้ที่มีต่อโลกนี้ของพวกเขาแล้ว กลับจะทำให้แย่ลง
เห็นว่าเฉินโม่ไม่พูดอะไร ถานชิวเซิงก็เข้าใจว่าทำไม จึงไม่ได้สนใจ และพูดด้วยรอยยิ้มว่า “นายไม่อยากพูดก็ช่างเถอะ ฉันก็แค่ถามไปอย่างนั้นแหละ ใครมันจะไม่มีความลับบ้างละ?”
ภายในห้องโถง แขกพวกนั้น ต่างก็ลุกขึ้นขอลาด้วยสีหน้าอับอาย ในช่วงที่ตระกูลถานเจอกับวิกฤติ พวกเขาทำแค่มองดูเฉยๆ แต่ตอนนี้ตระกูลถานปกติสุขดี พวกเขาเองก็ไม่มีหน้าจะอยู่ต่อ
ถานกวงเย่าเองก็ยังมีมารยาทอย่างเคย หาผลประโยชน์หนีผลกระทบ เป็นปกติของมนุษย์ สถานการณ์อย่างเมื่อกี้ คนพวกนี้ทำแค่มองดูอยู่เฉยๆเขาเองก็เข้าใจได้ เพียงแค่ไม่ได้ซ้ำเติมก็พอแล้ว
แต่อนาคตถานกวงเย่าก็จะไม่สานสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพวกเขาเช่นกัน เพราะว่าพวกเขาไม่มีค่าพอ
พ่อลูกตระกูลหูไปรวมตัวอยู่ในกลุ่มผู้คน คิดใช้โอกาสนี้หนี เฉินโม่มองเห็นพวกเขา แต่ก็ขี้เกียจที่จะไปคิดแค้น ไม่มีตระกูลจินเป็นที่พึ่งพาแล้ว และบวกกับความน่าเกรงขามของเขาแล้ว ต่อไปตระกูลหูคงไม่มีทางกล้าคิดร้ายอีกแน่นอน
อีกอย่างเพียงแค่ตระกูลหู ถานกวงเย่าสามารถจัดการด้วยตัวเองได้
“เอาละ ผมเองก็ควรจะกลับไปได้แล้ว ลุงถาน ชิวเซิง ว่างแล้วค่อยเจอกันครับ!”
เฉินโม่ลุกขึ้น ปฏิเสธการเชิญชวนของถานชิวเซิงอย่างอ้อมค้อม แล้วพาตัวเฉินซงจื่อจากไป
ถานกวงเย่ามองตามส่งตัวเฉินโม่จากไป ท่าทางให้เกียรติ และมองเฉินโม่เป็นบุคคลอย่างระดับอย่างคุณท่านจิน
เมื่อส่งเฉินโม่ขึ้นรถแล้ว ถานกวงเย่าก็มองถานชิวเซิงอย่างปลื้มใจ ยื่นมือไปตบบ่าของถานชิวเซิง “ลูกชาย โชคชะตาของนายไม่เลวเลย ได้มีเพื่อนที่ดีมากขนาดนี้!”
สีหน้าของถานชิวเซิงกลับไม่มีความยินดีปรีดา แต่กลับรู้สึกใจโล่งว่างเปล่า การกระทำที่เฉินโม่แสดงออกมาทั้งหมดในวันนี้ ทำให้เขาเข้าใจเรื่องหนึ่ง นั่นก็คือระหว่างเฉินโม่กับพวกเขา ไม่ใช่คนในโลกเดียวกันอีกแล้ว
“พอแล้ว พวกเรากลับบ้านกันเถอะ มีได้ก็ต้องมีเสีย บางคนถูกกำหนดมาแล้วว่าไม่ใช่คนธรรมดา มันไม่ใช่สิ่งที่พวกเราจะสามารถแก้ไขได้ ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติก็พอ”
ความรู้สึกของลูกชาย ถานกวงเย่าดูออกในพริบตาเดียว จึงเอ่ยปากพูดปลอบ
“ครับ ผมเข้าใจ” ถานชิวเซิงหันหลัง บนใบหน้ามีรอยยิ้มปรากฏขึ้นอีกครั้ง
“ฉันจะคิดเยอะขนาดนั้นทำไมกัน ฉันรู้แค่ว่าไม่ว่าเฉินโม่จะเปลี่ยนไปยังไง เพียงแค่เขายังเห็นฉันเป็นเพื่อนก็พอแล้ว”
พ่อลูกตระกูลหูที่หนีออกมาจากโรงแรมซื่อไห่แล้วก็รู้สึกดีใจอย่างมาก
“น่ากลัวจริงๆ ไอ้ขยะเฉินโม่คนนั้น ทำไมจู่ๆถึงได้เก่งกาจขนาดนี้ละ?” หูเจี้ยนหวาพูดอย่างโกรธแค้น
เพี๊ยะ!
หูเหวินเหว่ยตบเข้าที่ใบหน้าของลูกชาย ด่าว่า “หุบปากซะ แกยังกล้าเรียกว่าไอ้ขยะอีก อยากจะทำลายตระกูลเราหรือไง? ต่อไปให้ทำตัวกับเขาอย่างที่ทำกับคุณชายใหญ่จิน เข้าใจมั้ย?”
หูเจี้ยนหวาตกใจ และน้อมรับ “ผมเข้าใจแล้วครับ!”
“พรุ่งนี้แกเตรียมของกำนัลชิ้นใหญ่ไว้ พวกเราไปสวัสดีปีใหม่ที่บ้านของเฉินจิงเย่ หวังว่าเขาจะไม่คิดแค้นอะไรกับพวกเรา!” หูเหวินเหว่ยรู้สึกกังวลใจ