แดนนิรมิตเทพ - บทที่ 344
แดนนิรมิตเทพ บทที่ 344
ภายใต้แสงอาทิตย์ ผิวพรรณของเฉินโม่เหมือนดั่งหยกขาวที่สวยงามที่สุด ภายในมีสีเขียวเล็กน้อยกำลังเคลื่อนไหว พลังที่เดิมทีดูเหมือนเคลื่อนไหวแล้ว ได้ถูกหยุดยั้งจนหมด เปลี่ยนเป็นความมีชีวิตชีวาที่พลุ่งพล่าน
“ยังดีที่มีพรุนแดงสามใบและไม้ทิพย์พรสวรรค์ ไม่เพียงแต่รักษาอาการให้ฉันได้อย่างรวดเร็วในระยะเวลาสั้นๆแล้ว พลังบำเพ็ญของฉันยังเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย”
“ในตอนนี้ฉันถึงระดับชั้นสี่แดนรวมพลัง ตัวธาตุไม้เองก็ฝึกฝนถึงระดับชั้นรู้ความ และร่างกายของฉันเองก็มีพลังการฟื้นฟูรักษาที่แข็งแกร่ง”
พรุนแดงสามใบมีพลังทิพย์บรรจุอย่างมากอยู่แล้ว เป็นยาตัวหลักที่ใช้ผลิตยาขึ้นระดับ ยาขึ้นระดับเป็นยาที่สามารถเพิ่มระดับชั้นแปดแดนรวมพลังขึ้นชั้นเก้าแดนรวมพลัง การที่สามารถทำให้เฉินโม่ขึ้นถึงชั้นสี่แดนรวมพลังจึงเป็นเรื่องง่าย
ส่วนไม้ทิพย์ท่อนนั้นมีพลังทิพย์ธาตุไม้บรรจุอยู่อย่างมาก หากนำมาเพื่อใช้ฝึกฝนตัวธาตุไม้เท่านั้น เพียงพอที่จะทำให้เฉินโม่ขึ้นถึงระดับชั้นสมบูรณ์ได้ แต่พลังทิพย์ส่วนมากถูกเฉินโม่นำมาใช้รักษาบาดแผลร่างกาย ดังนั้นตัวธาตุไม้ของเฉินโม่จึงได้ถึงขั้นแดนชั้นรู้ความเท่านั้น
เฉินโม่มองดูต้นไม้เหี่ยวแห้งด้านข้าง ต้นไม้ต้นนั้นก็กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งในทันที ดูเขียวขจีสดใส
เพียงพริบตาเดียว ต้นไม้เหี่ยวมีชีวิตกลับขึ้นมาทันที!
เฉินซงจื่อและเนี่ยเสี่ยวเชี่ยนมองดูภาพที่น่าอัศจรรย์นี้ ตกตะลึงจนพูดจาไม่ออก
…….
ภายในบ้านหลังหนึ่งที่ชายแดนอำเภอเฟิ่งซาน ในที่สุดเจ้าสำนักน้อยก็รอต่อไปไม่ไหวแล้ว มองดูสาวงามสองคนที่อยู่เพียงแค่เอื้อมแต่ไม่สามารถที่จะแตะต้องได้ ก็เหมือนกับพวกขันทีเข้าซ่อง ไม่ต้องพูดเลยว่าในใจรู้สึกอัดอั้นมากเพียงใด
“แม่งเอ้ย กูทนไม่ไหวแล้ว ไอ้พวกข้างนอกพวกนี้มันจะให้ฉันปล่อยสองสาวคนนี้ไปไม่ใช่งั้นหรอ? หึๆ ได้สิ ฉัน…ก่อนแล้วค่อยปล่อยพวกหล่อนก็ได้แล้วสิ ยังไงซะฉันก็ไม่ได้ฆ่าพวกเธอ ถึงตอนนั้นกูไปซ่อนที่เขาถงถิง แล้วพวกมันจะทำอะไรฉันได้?”
เจ้าสำนักน้อยตัดสินใจ แล้วลุกเดินไปทางห้องที่ขังเอียนชิงเฉิงและเวินฉิงไว้ ไม่สนใจว่าตอนนี้ฟ้ายังสว่างอยู่หรือไม่
ภายนอก พื้นที่ของกองทัพ
เฉินจิงเย่ดวงตาแดงก่ำ ไม่ได้หลับนอนมาหลายวันแล้ว หันไปมองหลี่ซู่เฟิน “ยังไม่สามารถติดต่อเสี่ยวโม่ได้อีกงั้นหรอ?”
หลี่ซู่เฟินส่ายหน้า “โทรศัพท์เสี่ยวโม่เอาแต่ปิดเครื่อง น่าจะเกิดเรื่องอะไรบางอย่างขึ้น!”
นายอำเภอเหมยอยู่ด้านข้างรู้สึกร้อนรนมากกว่าสองสามีภรรยาเฉินจิงเย่ “น้องจิงเย่ ผ่านมาห้าวันแล้ว ถ้าหากยังเป็นแบบนี้ต่อไป ฉันกลัวว่าสองสาวนั้นจะเป็นอะไรไปนะ!”
“ถ้าหากไม่ได้แล้วจริงๆ ฉันจะออกคำสั่งให้ทำการโจมตีแล้ว”
นายอำเภอเหมยกังวลว่าหากเอียนชิงเฉิงและเวินฉิงถูกทำมิดีมิร้าย เมื่อเฉินโม่กลับมาต้องอาละวาดหนักแน่!
เฉินจิงเย่ยืนยันคัดค้าน “ไม่ได้ครับ หากทำการโจมตีไป กระสุนไม่มีตานะครับ อาจทำให้สองสาวเป็นอันตรายได้”
“รอไปก่อนเถอะครับ!”
“เห้อ รออีกแค่สามวัน หลังจากนี้สามวันหากพวกมันยังไม่ปล่อยตัวออกมา อย่างนั้นก็ทำได้แค่โจมตีแล้วละ” นายอำเภอเหมยมองเฉินจิงเย่ พูดด้วยความจริงจัง
เฉินจิงเย่ไม่มีหนทาง ทำได้แค่พยักหน้า “ครับ รออีกสามวัน”
ภายในบ้าน เจ้าสำนักน้อยที่ขาวเหมือนกระดาษขาวแววตาดุเดือด เดินไปถึงห้องที่มีชายหนุ่มชุดดำสองคนเฝ้าอยู่
“เจ้าสำนักครับ!”
ชายหนุ่มสองคนทำความเคารพ
“อืม พวกนายไปพักเถอะ!”
บนใบหน้าของชายหนุ่มสองคนฉีกยิ้มชั่วร้าย แล้วรีบถอยจากไป
เอียนชิงเฉิงและเวินฉิงได้ถูกกักขังมาห้าวันแล้ว ทั้งสองคนไม่ได้ตื่นตระหนกเหมือนดั่งเด็กสาวธรรมดาทั่วไป แต่กลับดูนิ่งสงบ
เวลาห้าวันแล้วคนที่จับตัวพวกเธอมาไม่ได้ทำอะไรเลยสักอย่าง พวกเขาคาดเดาได้ว่าคนคนนั้นต้องมีความกังวลอะไรบางอย่างแน่นอน
ในเวลานี้ เสียงประตูถูกเปิดออก เจ้าสำนักน้อยเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย….
ปัง!
ตราประทับป้องกันตัวที่เฉินโม่ให้ไว้กับหลี่ซู่เฟินและเวินฉิงระเบิดออก แสดงให้เห็นว่าหนึ่งในทั้งสองคนนั้นพบเจอกับอันตราย
เฉินโม่ที่เพิ่งออกจากเขาถงถิง หยุดฝีเท้าลงกะทันหัน ภายในแววตาดุดัน และมีความหวาดกลัวมากมายแฝงอยู่ด้วย
ร่างกายของเฉินโม่มีไอสังหารแผ่ออกมาทันที สิ่งมีชีวิตต้นไม้รอบข้างเหี่ยวแห้งในทันที
ชั่วครู่ สิ่งมีชีวิตทุกอย่างเหี่ยวแห้งตายราบ!
“ฉันมีธุระต้องไปจัดการก่อน นายไปส่งเสี่ยวเชี่ยน”