แดนนิรมิตเทพ - บทที่ 500
แดนนิรมิตเทพ บทที่ 500
เขาหัวเราะเยาะตนเอง “ไม่ ผมสงสัยมากเกินไปแล้ว คนเหล่านี้จะเป็นเฉินไต้ซือได้อย่างไร!”
อย่างไรก็ตาม กงซุนหลีเห็นการเยาะเย้ยแปลก ๆ บนใบหน้าของฟางหยู่ฉิง เขารู้สึกตกใจ มองเฉินโม่ด้วยความสงสัย ความคิดที่น่าสยดสยองผุดขึ้นในสมองของเขา”เจ้าเด็กคนนี้ชื่อเฉินโม่ เขาคงไม่ใช่เฉินไต้ซือน่ะ?”
กงซุนหลีตกใจกับความคิดที่ฉับพลันนี้ ทันใดนั้นเขาก็แอบส่ายศีรษะ ปฏิเสธความคิดน่าขำนี้ “ฟางหยู่ฉิงทำให้ผมสับสนเลอะเลือน เฉินไต้ซือจะเป็นคนบ้านนอกที่มาจากอำเภอเล็ก ๆ ได้อย่างไร?”
ลูกเศรษฐีที่อยู่ข้างหลังเขาตกตะลึงเช่นกัน พวกเขามองไปรอบ ๆ เพื่อค้นหาคนที่สงสัยว่าเป็นเฉินไต้ซือ
อานเข่อเยว่และคนอื่นๆ ที่เฝ้ามองความครึกครื้นอยู่ด้านข้าง อดไม่ได้ที่จะมองไปรอบ ๆ เพื่อค้นหาเฉินไต้ซือที่อยู่ในตำนาน
หยางเชี่ยนเชี่ยนมองไปรอบ ๆ และกล่าวพึมพำ “เฉินไต้ซือมาแล้วหรือ? เป็นไปไม่ได้หรอก ที่นี่ไม่มีใครดูเหมือนเฉินไต้ซือ!”
เธอทำให้อานเข่อเยว่รู้สึกขบขัน “เฉินไต้ซือในความคิดของเธอมีลักษณะอย่างไร? หรือว่าจะมีสามเศียรหกกร!”
หลังจากมองไปหนึ่งรอบ อานเข่อเยว่ส่ายศีรษะ “ที่นี่ไม่มีใครเหมือนเฉินไต้ซือจริง ๆ”
เกือบทุกคนที่อยู่ในห้องโถงกำลังค้นหาอย่างลับ ๆ โดยเดาว่าใครคือเฉินไต้ซือ
และขณะนี้ เฉินโม่ยืนขึ้นด้วยสีหน้าราบเรียบ เดินไปยังทิศทางฟางปู้ถงด้วยสีหน้าสงบ เฉินซงจื่อและคนอื่น ๆ ลุกขึ้น แล้วเดินตามหลังเฉินโม่
กงซุนหลีจ้องเฉินโม่และกล่าวเยาะเย้ยว่า “เจ้าหนู เขาเรียกเฉินไต้ซือ แกคิดว่าแกแซ่เฉินแล้ว ก็เป็นเฉินไต้ซือเหรอ?”
กลุ่มชายหนุ่มที่อยู่ข้างหลังกล่าวเยาะเย้ยเบา ๆ ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม
คนที่เหลือก็หัวเราะเสียงดังสนั่น มองเฉินโม่ด้วยสายตาที่มองคนโง่เขลา
สีหน้าของเจี่ยงหยาวเต็มไปด้วยความเก้อเขิน เตือนด้วยน้ำเสียงเบา ๆ “พี่เฉินโม่ พวกเขาไม่ได้เรียกพี่ รีบนั่งลง!”
เฉินโม่หยุดเดินพร้อมด้วยรอยยิ้ม กล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “พวกเขากำลังเรียกผม ผมก็คือเฉินไต้ซือ”
ชายหนุ่มหัวเราะเยาะและกล่าวว่า “ถ้าแกคือเฉินไต้ซือ ถ้าเช่นนั้นผมก็คือหวางไต้ซือแล้ว?”
“ถูกต้อง ถ้าเช่นนั้นผมคือจางไต้ซือ เขาคือหลี่ไต้ซือ หลิวไต้ซือ…….ฮ่า ๆ ๆ!” ชายหนุ่มอีกคนชี้ชายหนุ่มที่รอบ ๆ เขา สีหน้าเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน
ทันใดนั้น เกือบทุกคนในห้องโถงก็หัวเราะออกมา มองเฉินโม่ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเหยียดหยาม
หยางเชี่ยนเชี่ยนเอามือปิดหน้าด้วยความอับอาย กลอกตาและกล่าวด้วยความผิดหวังที่ไม่ได้ดังที่คาดหวัง! “เฮ้อ เข่อเยว่ เธอพูดถูก เฉินโม่เป็นคนที่ชอบทำตัวโดดเด่น! ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน ฉันคิดว่าเขานั้นไร้ทางเยียวยาแล้ว”
อานเข่อเยว่ยิ้มอย่างเย็นชา “ไม่ใช่วันแรกที่พวกเรารู้จักเขา มีอะไรให้ตื่นตระหนกตกใจล่ะ”
เจิ้งหยวนฮ่าวที่อยู่ด้านหลังกล่าวเยาะเย้ย “นึกไม่ถึงว่าเฉินโม่จะถือว่าตนเองเป็นเฉินไต้ซือจริง ๆ”
เมื่อเห็นว่าทุกคนกำลังพูดถึงเฉินโม่ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะถือว่าเฉินโม่เป็นคนโง่เขลา เจิ้งซิ่วลี่ที่ซ่อนตัวอยู่กลางฝูงชน สีหน้าเต็มไปด้วยความพึงพอใจ ในที่สุดคราวนี้เธอก็ได้แก้แค้นเฉินโม่แล้ว
เฉินโม่เพิกเฉยต่อการเยาะเย้ยถากถางของคนเหล่านี้ เดินไปข้างหน้าต่อไป
ฟางปู้ถงเป็นคนแรกที่เห็นเฉินโม่ ใบหน้าเต็มไปด้วยความสุข และเดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ขณะที่เขาอยู่ข้างหน้าเฉินโม่ด้วยระยะทางห้าเมตร ฟางปู้ถงหยุดฝีเท้าทันที แล้วจัดเสื้อผ้าของตนเอง โค้งคำนับเก้าสิบองศาไปทางเฉินโม่ “ฟางปู้ถงจากชิ่งหยาง ขอคารวะเฉินไต้ซือ!”
เหล่าผู้ทรงอิทธิพลที่เดินตามหลังฟางปู้ถง รีบทำความเคารพเฉินโม่เช่นกัน
“เซวียเชียนเหอจากหนานหลิง ขอคารวะเฉินไต้ซือ!”
“ฉินเยว่ซานจากอานหลิน ขอคารวะเฉินไต้ซือ!”
“ฉู่เหวินสงจากอู่โจว ขอคารวะเฉินไต้ซือ!”
“จินตัวเหวินจากตระกูลจิน ขอคารวะเฉินไต้ซือ!”
……
ทุกคนเงียบสงัด!
เมื่อมองเหล่าผู้ทรงอิทธิพลของฮ่านหยางโค้งคำนับเฉินโม่ด้วยความพร้อมเพรียงกัน พวกเขาแต่ละคนที่ชื่อเสียงสั่นสะท้านไปทั่วฮ่านหยาง ทุกคนอดไม่ได้ที่จะเบิกตากว้างและสีหน้าเต็มไปด้วยความตกตะลึง