แดนนิรมิตเทพ - บทที่ 503
แดนนิรมิตเทพ บทที่ 503
คำถามของอานเข่อเยว่ ความจริงแล้วแสดงถึงความคิดของคนส่วนใหญ่ที่อยู่ที่นี่
เห็นชัดว่าเฉินโม่เป็นเพียงนักเรียนมัธยมปลายคนหนึ่งเท่านั้น แต่เฉินไต้ซือชื่อเสียงดังไปทั่วฮ่านหยางมานานแล้ว คนสองคนที่ไม่มีความคาบเกี่ยวกันเลย กลับกลายเป็นคนเดียวกัน!
ถ้าไม่ใช่เพราะผู้ทรงอิทธิพลทำความเคารพเฉินโม่ ไม่ว่าจะอย่างไรพวกเขาก็ไม่เชื่อว่าเฉินโม่ก็คือเฉินไต้ซือ
อย่างไรก็ตาม ใบหน้าของผู้ที่รู้สถานะของเฉินโม่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว ด้วยบุคลิกนิสัยที่เด็ดขาดของเฉินไต้ซือ หญิงสาวคนนี้ตั้งคำถามเขาต่อหน้าสาธารณชน มันเป็นการรนหาความตาย!
เหล่าผู้ทรงอิทธิพลอดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นมองหญิงสาวที่มีสีหน้าดุร้ายที่อยู่ตรงหน้า และต่างก็ขมวดคิ้ว
สงสัยสถานะของเฉินไต้ซือต่อหน้าผู้ทรงอิทธิพลมากมาย ซึ่งไม่แตกต่างจากการตำหนิว่าพวกเขาว่ามีตาหามีแววไม่?
ฟางปู้ถงที่เป็นคนรับผิดชอบการจัดงานเลี้ยงคราวนี้ ตอนนี้สีหน้าของเขาเคร่งขรึมทันที เขาเคยเห็นเฉินโม่ตัดสินความเป็นความตายด้วยตาตนเองมาแล้ว เขารู้ว่าเฉินไต้ซือที่อายุน้อยและเงียบขรึมคนนี้ ถ้าเขาโกรธขึ้นมา แม้แต่ตระกูลจินที่ชื่อเสียงสั่นสะท้านไปทั่วฮ่านหยาง ก็ยังไม่กล้ายั่วยุ
ดังนั้นก่อนที่เฉินไต้ซือจะโกรธ ฟางปู้ถงจำเป็นต้องจัดการอย่างเด็ดขาด
“กำเริบเสิบสาน! กล้าเสียมารยาทกับเฉินไต้ซือ ผมไม่สนใจว่าคุณจะเป็นลูกของใคร เด็ก ๆ ขับไล่เธอออกไปเดี๋ยวนี้!”
สำหรับฟางปู้ถงแล้ว เฉินไต้ซือคือท้องฟ้า ทุกสิ่งที่เป็นปรปักษ์กับเฉินไต้ซือ จะต้องถูกบดขยี้จนละเอียด ไม่เว้นแม้แต่คนเดียว!
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองคนที่สวมชุดดำ รีบเดินไปหาอานเข่อเยว่ทันที หนึ่งในนั้นกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ขอโทษด้วยคุณผู้หญิง เชิญออกไปกับพวกเราเถอะ!”
อานเข่อเยว่ถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว และตะโกนด้วยสีหน้าไม่ยอม “ไม่! ฉันไม่ออกไป พวกแกมีสิทธิ์อะไรมาไล่ฉัน! พวกแกควรไล่เขาออกไป เขาไม่ใช่เฉินไต้ซือ เขาเป็นนักตุ้มตุ๋น!”
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองคนไม่ได้อธิบายอะไร พวกเขาล็อกแขนซ้ายและแขนขวาของอานเข่อเยว่เอาไว้ เตรียมตัวที่จะลากเธอออกไป
“ปล่อยฉัน! พวกแกปล่อยฉัน! พวกแกมีสิทธิ์อะไรมาไล่ฉัน…”
อานเข่อเยว่พยายามดิ้นรนแต่ไม่เป็นผล ความแข็งแกร่งของเธอจะสามารถต้านเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมืออาชีพสองคนนี้ได้อย่างไร
ใบหน้าของหยางเชี่ยนเชี่ยนเต็มไปด้วยความประหม่า ต้องการจะช่วยอานเข่อเยว่ แต่เธอก็ไม่กล้า ดังนั้นเธอจึงหันไปขอความช่วยเหลือจากเจิ้งหยวนฮ่าวที่อยู่ด้านข้าง
สีหน้าของเจิ้งหยวนฮ่าวเคร่งขรึม มองอานเข่อเยว่ด้วยสายตาผิดหวังมาก เหตุผลที่เขาชอบอานเข่อเยว่ ไม่เพียงเพราะความงามของอานเข่อเยว่เท่านั้น เหตุผลหลักนั่นเป็นเพราะอานเข่อเยว่เป็นคนสุขุมเยือกเย็นและฉลาดหลักแหลม ต่อไปเธอจะกลายเป็นภรรยาที่เก่ง
แต่วันนี้การกระทำของอานเข่อเยว่นั้นทำให้เจิ้งหยวนฮ่าวผิดหวังมาก เดิมทีเขาถูกหลี่โม่โจมตีจนจิตใจหดหู่ แล้วก็ค้นพบว่าตนเองมองคนผิด ซึ่งเป็นเคราะห์ซ้ํากรรมซัดอย่างไม่ต้องสงสัย ทำให้เจิ้งหยวนฮ่าวรู้สึกว่าเมื่อตนเองเทียบกับเฉินโม่แล้ว ตนเองเป็นผู้พ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง
เมื่อเห็นว่าเจิ้งหยวนฮ่าวไม่ได้คิดที่จะออกหน้าช่วยอานเข่อเยว่ หัวใจของหยางเชี่ยนเชี่ยนก็จมลงสู่ก้นบึ้ง เธอทำได้เพียงเฝ้ามองอานเข่อเยว่ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองคนลากออกไป
เฉินโม่มองอานเข่อเยว่ตลอดเวลา มองดาวโรงเรียนที่เขาแอบรักในวัยเรียนเมื่อชาติก่อน ดวงตาเย็นชา จากมุมมองชาตินี้ของเขาแล้ว ดาวโรงเรียนคนนี้ที่เขาแอบรักในวัยเรียน ตอนนี้กลายเป็นเรื่องน่าขำไปแล้ว
“ช่างมันเถอะ ปล่อยเธอไป!” เสียงของเฉินโม่แผ่วเบา ราวกับว่าเขาไม่สนใจสิ่งที่อานเข่อเยว่พูด
ฟางปู้ถงรีบตะโกนบอกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยว่า “ไม่ได้ยินสิ่งที่เฉินไต้ซือพูดหรือ? ปล่อยเธอไป!”
หยางเชี่ยนเชี่ยนรู้สึกโล่งใจและมองเฉินโม่ด้วยความซาบซึ้ง