แดนนิรมิตเทพ - บทที่ 62 ความคิดของตระกูลเอียน(2)
บทที่ 62 ความคิดของตระกูลเอียน(2)
ลุงจ้าวยิ่งงงเข้าไปอีก: “ในเมื่อไม่อยากปฏิเสธงานแต่ง แล้วทำไมยังต้องทำเรื่องให้ใหญ่โตอีกล่ะ? ทำให้มีคนรู้เรื่องยิ่งมากก็ยิ่งดี?”
เอียนเฟยไม่อยากจะลำบากพ่อบ้านอาวุโสคนนี้อีก ตอบด้วยสีหน้าจริงจัง: “ยิ่งคนรู้มากเท่าไร่ ข่าวนี้ก็จะส่งไปที่หูของคนในตระกูลหลี่ได้เร็วเท่านั้น ให้ฉันที่เป็นลูกหลานรุ่นที่สามของสายย่อยตระกูลเอียนออกมาปฏิเสธงานแต่ง ตระกูลเอียนสามารถบุกโจมตีได้ ก็สามารถถอยตั้งรับได้เหมือนกัน ในขณะที่สามารถแสดงให้ตระกูลหลี่เห็นถึงความภักดีได้แล้ว ยังสามารถทำให้คนของตระกูลเฉินคิดว่านี่เป็นเรื่องตลกระหว่างเด็กรุ่นหลังเท่านั้น ไม่ทำให้คนของตระกูลเฉินต้องเสียหน้า และที่สำคัญที่สุดคือ……”
เอียนเฟยหยุดไปชั่วครู่ พูด: “สามารถทำให้เฉินโม่เข้าใจความคิดของตระกูลเอียน”
คำพูดข้างหน้า ลุงจ้าวเข้าใจทุกจุด แต่ประโยคสุดท้าย ลุงจ้าวไม่ค่อยเข้าใจ: “ให้เฉินโม่เข้าใจความคิดของตระกูลเอียน? เหอะๆ พูดตรงๆ ขนาดคนอย่างฉันที่อาศัยพึ่งพาตระกูลเอียน ยังไม่เข้าใจความคิดของตระกูลเอียน เฉินโม่ที่เป็นคนนอก จะไปเข้าใจได้ยังไง?”
เอียนเฟยส่ายหัว บนหน้าก็มีความฉลาดที่ไม่สมกับอายุของเขาในตอนนี้โผล่ออกมา: “ถ้าแค่ความคิดของตระกูลเอียนหากเฉินโม่ก็ยังเข้าใจไม่ได้ละก็ งั้นเขาก็ไม่คุ้มค่าที่ตระกูลเอียนจะเสียเวลาและความคิดมากมายขนาดนี้บนตัวเขา! วางใจเถอะ เขาจะต้องเข้าใจแน่นอน”
ลุงจ้าวขมวดคิ้วคิดหนัก ผ่านไปสักพัก มองดูนายท่านน้อยที่กำลังเรียนอยู่ชั้นมัธยมปีที่ห้า ด้วยสีหน้าที่เคารพนับถือ สมแล้วที่เป็นลูกหลานรุ่นที่สามของสายย่อยตระกูลเอียน ที่มีศักยภาพมากที่สุด
……
เฉินโม่นั่งอยู่บนเก้าอี้เงียบๆ นิ้วมือก็เคาะลงบนโต๊ะที่อยู่ต่อหน้าตัวเองเบาๆ ความคิดของตระกูลเอียนเขาเข้าใจตั้งแต่อยู่ที่หน้าประตูใหญ่โรงเรียนแล้ว ตระกูลเอียนก็แค่ถูกใจตัวตนนักบู๊แดนในของเขาก็เท่านั้น คิดว่าสิ่งที่เป็นประโยชน์ก็ควรเก็บไว้
แต่ว่า เฉินโม่อยากรู้ว่าตระกูลหลี่คิดอย่างไร ในเมื่อเฉินโม่สามารถเข้าใจความคิดของตระกูลเอียนได้ ตระกูลหลี่ก็สามารถเข้าใจว่าการที่ต่อหน้าขัดแย้งลับหลังเชื่อฟังของตระกูลเอียนที่มีต่อพวกเขา ตระกูลหลี่ จะทำยังไงกับตระกูลเอียน?
สองชั่วโมงต่อมา เรื่องที่เกิดขึ้นที่หน้าประตูใหญ่ของโรงเรียนตี้ยี ก็ได้แพร่ไปถึงหูของหลี่ตงหยาง
ในห้องโถงใหญ่ ลูกชายคนโตของตระกูลหลี่หลี่ลี่เหวินมองเงียบๆไปที่หลี่ตงหยาง รอรับคำสั่ง
ตั้งแต่คืนนั้นที่เฉินโม่ตัดขาดกับตระกูลหลี่ ผู้นี้ที่เป็นผู้นำตระกูลหลี่ก็เหมือนว่าแก่ลงไปมาก โดยเฉพาะหลังจากที่เฉินโม่ระเบิดความสามารถของนักบู๊แดนใน ในใจของหลี่ตงหยาง สุดท้ายก็ได้มีความเสียใจเกิดขึ้น
ถ้าหากตอนนั้นเขายังนึกถึงความสัมพันธ์ที่เหลืออยู่อีกสักนิด บางทีตระกูลหลี่ของเขา ก็จะมีคนที่มีพรสวรรค์เหมือนหลี่เจ๋อเพิ่มมาอีกคนแล้ว
เพียงไม่กี่ปี ที่ตั้งของตระกูลหลี่ ก็พอที่จะเป็นท๊อปของหกตระกูลมหาอำนาจ
แต่ว่า ตอนนี้ทุกอย่างก็สายเกินไปแล้ว ตระกูลหลี่ไม่เพียงไม่ได้มีหนุ่มน้อยมากความสามารถเพิ่มขึ้นมา กลับมีศัตรูที่มีศักยภาพแข็งแกร่งเพิ่มมาหนึ่งคน ถ้าหากให้เวลากับเฉินโม่มากพอในการเติบโต แม้ว่าหลี่ตงหยางไม่เชื่อว่าเฉินโม่สุดท้ายจะสามารถถล่มตระกูลหลี่ได้จริงๆ แต่มีโอกาสสูงมากที่กลายเป็นศัตรูตัวฉกาจของตระกูลหลี่!
ตอนนี้ ท่าทีของตระกูลเอียน ยืนยันผลลัพธ์ที่น่ากลัวในอนาคตให้เห็นแล้ว
สิ่งที่ตระกูลหลี่ไม่เอา เขาตระกูลเอียนเอาเอง แต่ว่าตระกูลเอียนฉลาดมาก ไม่กล้าผิดคอกับตระกูลหลี่อย่างเปิดเผย
ผ่านไปอยู่นาน หลี่ตงหยางถอนหายใจไปหนึ่งที: “เรื่องของตระกูลเอียนเอาไว้ก่อน ไม่ว่ายังไง พวกเขาก็แสดงให้เห็นถึงที่ตั้งของพวกเขาแล้ว ต่อหน้าก็ยังยืนอยู่ฝ่ายเดียวกันกับตระกูลหลี่ แต่ว่า ตระกูลหลี่ไม่มีทางปล่อยให้เฉินโม่มีเวลาเติบโตเด็ดขาด อำนาจชื่อเสียงของตระกูลหลี่ ไม่อนุญาตให้ใครมาท้าทาย ถึงแม้จะเป็นลูกชายลูกสาวที่แท้จริงของฉันหลี่ตงหยางเองก็ไม่ได้!”
บนหน้าของหลี่ตงหยางเต็มไปด้วยความตึงเครียด ดวงตาที่แก่เฒ่าเต็มไปด้วยความเด็ดขาดและไร้ความรู้สึก สำหรับผู้นำตระกูลที่ปกป้องตระกูลหลี่มาสิบกว่าปีผู้นี้ ชื่อเสียงและตำแหน่งของตระกูลหลี่ เป็นสิ่งที่สูงส่งที่ไม่มีสิ่งใดเทียบได้ ไม่ว่าจะเป็นใคร ขอแค่มีความเสี่ยงต่อชื่อเสียงและตำแหน่งของตระกูลหลี่ นั้นก็จะเป็นศัตรูตัวฉกาจที่ใหญ่ที่สุดของเขาหลี่ตงหยาง!
“ลี่เหวิน พยายามเร่งการวางแผนให้เร็วที่สุด เริ่มลงมือจากเหม่ยหวา กรุ๊ปและตระกูลเฉินที่หนานซูก่อน ต้องฉวยโอกาสช่วงที่ปีกของเฉินโม่ยังเติบโตไม่เต็มที่ จัดการทุกสิ่งที่เป็นแรงช่วยให้กับเขา!”ในตาของหลี่ตงหยางมีความโหดเหี้ยมไหลผ่าน: “แม้ว่าสุดท้ายเขาจะสามารถกลายเป็นปรมาจารย์แดนแปรภาพได้ แต่ถ้าไม่มีพลังบนโลกมนุษย์ช่วยสนับสนุน ความเสี่ยงของเขาที่มีต่อตระกูลหลี่ ก็จะหายไปด้วย!”
หลี่ลี่เหวินโค้งตัวคำนับแล้วตอบ: “ได้จัดวางอย่างเต็มที่แล้ว หลี่เจ๋อควบคุมเองกับมือ เหม่ยหวา กรุ๊ปยังพอว่าง่าย เพราะว่ายังไงก็ลุกขึ้นเร็วเกินไป รากฐานยังยืนไม่มั่น แต่ว่าตระกูลเฉินที่หนานซูรากฐานมั่นคงกว้างใหญ่ อยากจะดันให้ล้ม ต้องการเวลาสักพัก!”
หลี่ตงหยางพยักหน้า: “แน่นอนว่าสิ่งนี้ฉันเข้าใจ แกสั่งลงไป พยายามเร่งความเร็ว อย่าได้ให้เฉินโม่มีโอกาสที่จะเติบโตแม้แต่น้อย! อีกอย่าง เรียกหลี่เจ๋อกลับมา หาคนไปแทนเขา เจ๋อเอ๋อร์เป็นความหวังในอนาคตของพวกเราตระกูลหลี่ และยังเป็นนักบู๊แดนในที่วัยเยาว์ที่สุด อนาคตบนวิชาบู๊ยังหวังพึ่งเขากดเฉินโม่ลงอีกด้วย ให้เขามาเสียเวลาบนเรื่องพวกนี้ไม่ได้”
“รับทราบ ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!”
บทที่ 61 ความคิดของตระกูลเอียน(1)
บทที่ 63 คำเชิญของตระกูลอาน(1)