แดนนิรมิตเทพ - บทที่ 630
แดนนิรมิตเทพ บทที่ 630
สิ่งที่ทำให้ทุกคนตกใจยิ่งกว่านั้นก็คือเฉินโม่ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ เพียงแค่ลืมตาขึ้นเล็กน้อย และเหลือบมองฉู่เหวินสงด้วยท่าทางที่ไม่แยแส
และฉู่เหวินสงที่ยืนอยู่ตรงหน้า ยังคงอยู่ในลักษณะโค้งตัว ดูเหมือนว่าถ้าเฉินโม่ไม่พูด เขาจะไม่กล้ายืนตรง
บรรยากาศในห้องเรียนแปลกเล็กน้อย หรือสามารถกล่าวได้ว่าอึดอัด ทุกคนต่างแอบกังวล ถ้าผู้ทรงอิทธิพลของอู่โจวโกรธ แล้วจะทำอย่างไรดี?
แต่ไม่เพียงฉู่เหวินสงไม่โกรธ แต่เขายังคงอยู่ในลักษณะโค้งตัวต่อไป จนเหงื่อหยดลงมาจากหน้าผาก
ขณะนี้ เสียงเคร่งขรึมดังมาจากนอกประตู และกล่าวด้วยรอยยิ้มจาง ๆ “คุณเฉิน เจี่ยจิ้งอานมาแสดงความยินดี!”
“เจี่ยจิ้งอาน? หรือว่าจะเป็นเถ้าแก่ใหญ่ของหอสมบัติ!”
“โอ้ พระเจ้า สถานะของบุคคลนี้ไม่ด้อยไปกว่าฉู่เหวินสง ผู้ทรงอิทธิพลของอู่โจว!”
ท้องที่ใหญ่ของเจี่ยจิ้งอานแกว่งไปมา เขาเดินเข้ามาอย่างเหยาะๆ เมื่อเห็นฉู่เหวินสงที่ยืนโค้งตัวอยู่หน้าเฉินโม่ ทำให้เขาตกตะลึงทันที จากนั้นรอยยิ้มบนใบหน้าก็กลายเป็นรอยยิ้มอึดอัดทันที
เจี่ยจิ้งอานไม่ได้สนใจผู้อำนวยการ นายกๆ และคนอื่น ๆ เขารีบไปยืนอยู่ข้างฉู่เหวินสง และโค้งคำนับด้วยความเคารพ “เจี่ยจิ้งอาน มาแสดงความยินดีกับคุณเฉินที่ได้เป็นแชมป์เอ็นทรานซ์ระดับประเทศ!”
เจี่ยจิ้งอานโค้งคำนับด้วยความเคารพ หลังจากนั้นเจี่ยจิ้งอานก็เหมือนฉู่เหวินสง ยืนอยู่ในลักษณะโค้งตัว
ดูเหมือนการลืมตามันจะทำให้เฉินโม่จะรู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย ดังนั้นเขาจึงหลับตา ประสานมือทั้งสองไว้ที่ท้ายถอย เอนหลังพิงเก้าอี้แล้วหลับตาพักผ่อนต่อ
ห้องเรียนเงียบสงัด สามารถได้ยินแม้แต่เสียงกลืนน้ำลาย และเห็นได้ชัดว่าทุกคนตกใจกับภาพนี้
สายตาที่คนอื่นมองเฉินโม่ ยิ่งอยู่ยิ่งเคารพและเกรงกลัวมากขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนสีหน้าตัวแทนของมหาวิทยาลัยชื่อดังยิ่งอยู่ยิ่งแย่ลงเรื่อย ๆ
“ฉินเยว่ซานแห่งอานหลิน มาแสดงความยินดีกับคุณเฉินที่ได้เป็นแชมป์เอ็นทรานซ์ระดับประเทศ!”
“เซวียเชียนเหอแห่งหนานหลิง มาแสดงความยินดีกับคุณเฉินที่ได้เป็นแชมป์เอ็นทรานซ์ระดับประเทศ!”
“ฟางปู้ถงแห่งชิ่งหยาง มาแสดงความยินดีกับคุณเฉินที่ได้เป็นแชมป์เอ็นทรานซ์ระดับประเทศ!”
……
เสียงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากนั้นผู้ทรงอิทธิพลสิบเจ็ดเมืองของฮ่านหยางทั้งหมดก็ปรากฏตัวอยู่ในห้องเรียน จนยืนเกือบจะเต็มห้องเรียน
โดยไม่มีข้อยกเว้น ผู้ทรงอิทธิพลทั้งหมดคำนับเฉินโม่ด้วยความเคารพ จากนั้นพวกเขาก็ยืนอยู่ในลักษณะโค้งตัว
บรรยากาศในห้องเรียนน่าทึ่งมาก
ผู้ทรงอิทธิพลสิบเจ็ดเมืองของฮ่านหยาง ยืนแถวเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส และคำนับให้ชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนเก้าอี้
ส่วนชายหนุ่มประสานมือทั้งสองไว้ที่ท้ายถอยด้วยสีหน้าสบาย ๆ หลับตาและพักผ่อน
เหมือนราชาของสมัยโบราณ!
สีหน้าของนายกๆ เอี๋ยนราบเรียบ แต่หัวใจเต็มไปด้วยความปั่นป่วน เขาเคยได้ยินว่าผู้ทรงอิทธิพลสิบเจ็ดเมืองของฮ่านหยางจำนนต่อเฉินไต้ซือแล้ว แต่การได้ยินกับการได้เห็นกับตาตนเอง ความรู้สึกตกใจนั้นมันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ภาพที่ผู้ทรงอิทธิพลสิบเจ็ดเมืองของฮ่านหยางโค้งคำนับเฉินโม่ เป็นเหมือนตราประทับที่สลักลึกลงไปในสมองของนายกๆ เอี๋ยนและทุกคนที่อยู่ที่นี่
สีหน้าตัวแทนของมหาวิทยาลัยชื่อดังเต็มไปด้วยความตกใจ เพราะพวกเขาสามารถค้นหาสถานะของผู้ทรงอิทธิพลพวกนั้นได้อย่างง่ายดาย เพียงแต่ผู้ทรงอิทธิพลมากมายพวกนี้ เมื่ออยู่ต่อหน้าเฉินโม่แล้วกลับอ่อนน้อมถ่อมตน เฉินโม่คือใครกันแน่?
หากเพียงแค่นายกๆ เมืองอู่โจว ตัวแทนอย่างพวกเขาสามารถร่วมมือกัน และไม่ต้องกลัว แต่เมื่อเผชิญหน้ากับผู้ทรงอิทธิพลพวกนี้แล้ว ทุกคนต่างรู้สึกหวาดกลัว
เพราะนายกๆ เมืองอู่โจวนั้นเป็นข้าราชการ ไม่ว่าจะทำอะไรก็ต้องคำนึงถึงผลที่ตามมา แต่ถ้าผู้ทรงอิทธิพลพวกนี้ต้องการแก้แค้นพวกเขา สามารถทำได้ทุกวิถีทาง ซึ่งพวกเขากังวลว่าวันรุ่งขึ้นถ้าออกจากประตูของมหาวิทยาลัยแล้ว จะถูกคนคลุมศีรษะแล้วทำร้ายอย่างหนัก
ผู้ทรงอิทธิพลมากมายมาร่วมกันอยู่ที่นี่ ถึงแม้ว่ามหาวิทยาลัยทั้งหมดจะร่วมมือกัน ก็อาจจะไม่สามารถเอาชนะพวกเขาได้
หลังจากคิดไตร่ตรองแล้ว ตัวแทนของมหาวิทยาลัยชื่อดังบางคนที่ยืนอยู่ด้านหลัง เริ่มถอยไปที่ประตูห้องอย่างเงียบ ๆ และถือโอกาสตอนที่คนไม่ทันสังเกต หันหลังและเดินจากไปอย่างรวดเร็ว