แดนนิรมิตเทพ - บทที่ 648
แดนนิรมิตเทพ บทที่ 648
เมื่อสิบปีก่อน พานเยว่ซานที่เป็นอัจฉริยะของตระกูลพานโดดเด่นขึ้น และนับตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นไปตระกูลพานก็ได้รับสิทธิ์จัดการประชุมบู๊แห่งเจียงหนานเสมอมา
ถ้าหนานกงหยู่ไม่ออกมาจากการปลีกวิเวก ตระกูลพานก็จะเป็นตระกูลอันดับหนึ่งในโลกฝึกบู๊ของมณฑลเจียงหนาน
คลับสุดหรู เฉินโม่นั่งอยู่ที่มุมอย่างเงียบ ๆ และด้วยความสามารถในการได้ยินของเขา ทำให้เฉินโม่ได้ยินการสนทนาในคลับทั้งหมด
หลังจากกรองข่าวที่ไร้ประโยชน์เหล่านั้นออกไปแล้ว ตอนนี้เฉินโม่ได้รับข่าวจากการสนทนาของเหล่านักบู๊แล้ว
เมื่อก่อนถ้าต้องการสืบข่าวจะต้องไปที่ร้านอาหารริมทาง แต่ตอนนี้เหล่านักบู๊ต่างกลายเป็นเศรษฐีแล้ว และพวกเขารู้จักเสพสุข ดังนั้นพวกเขาจึงมักจะมารวมตัวกันที่คลับสุดหรูหรือโรงแรมระดับไฮเอนด์
เฉินโม่ตามนักบู๊บางคนมาที่นี่
คราวนี้การประชุมบู๊แห่งเจียงหนานจัดเป็นเวลาสามวัน และจะเริ่มอย่างเป็นทางการในวันพรุ่งนี้ ตอนนี้เฉินโม่กำลังเดินอยู่บนถนน เขาสามารถพบนักบู๊ได้ตลอดทาง ดูเหมือนว่าแรงดึงดูดของการประชุมบู๊แห่งเจียงหนานจะไม่ธรรมดา
ตระกูลพานเป็นตระกูลอันดับหนึ่งของโลกฝึกบู๊แห่งเจียงหนาน มีคนเก่งมากมายและร่ำรวยมั่งคั่ง ดังนั้นพวกเขาจึงเหมาคลับสุดหรูกับโรงแรมระดับห้าดาวในพื้นที่สองแห่ง เพื่อรับรองนักบู๊ที่มาจากทั่วสารทิศ
เฉินโม่หลับตาพักผ่อน นอนพิงอยู่บนโซฟานุ่ม ๆ ความจริงแล้วเขากำลังรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการประชุมบู๊
“ได้ยินว่าคราวนี้ อัจฉริยะของตระกูลพานกำลังจะออกมาจากการปลีกวิเวกแล้ว”
“ฮ่า ๆ มันแน่นอนอยู่แล้ว ถ้าเขาไม่ออกมาจากการปลีกวิเวก ก็จะไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ แล้วตำแหน่งตระกูลบู๊อันดับหนึ่งแห่งเจียงหนานของตระกูลพานก็จะถูกตระกูลอื่นแย่งไป”
“ได้ยินว่าคราวนี้ตระกูลหม่าแห่งเจียงเป่ยส่งคนมาด้วย เมื่อก่อนพวกเขาไม่เคยมาร่วมงาน ไม่รู้ว่าคราวนี้พวกเขามีจุดประสงค์อะไร?”
“ผู้นำตระกูลหม่ามีชื่อเสียงไล่เลี่ยกับผู้นำตระกูลพาน การที่พวกเขามาร่วมงานมันก็เป็นเรื่องปกติ”
“ได้ยินว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้มีไต้ซือปรากฏตัวออกมาที่ฮ่านหยางหนึ่งคน เขาชื่อเฉินไต้ซือ แต่ไม่รู้ว่าเขาจะมาร่วมงานหรือเปล่า?”
“เฉินไต้ซือ? ฮ่า ๆ คงจะไม่ใช่นักตุ้มตุ๋นในยุทธภพมั้ง? เพราะคนของโลกฝึกบู๊ ที่เรียกขานตนเองว่าไต้ซือนั้นมีน้อยมาก”
“ผมได้ยินว่าเฉินไต้ซือคนนี้อายุยังไม่ถึงยี่สิบปี”
“ฮ่า ๆ ไต้ซือที่อายุไม่ถึงยี่สิบปี เขาหลอกได้แต่คนของโลกฝึกบู๊แห่งฮ่านหยางที่มีกองกำลังน้อยได้เท่านั้น ลองให้เขามาที่เจียงหนานของพวกเราสิ?”
ขณะนี้ เสียงชัดเจนดังขึ้นมา “ห้ามพวกคุณใส่ร้ายเฉินไต้ซือ!”
“ถ้าเฉินไต้ซือมาที่นี่จริง ๆ พวกคุณจะไม่สามารถต้านแม้แต่นิ้วเดียวของเขาได้!”
เฉินโม่ลืมตาขึ้นเล็กน้อย มองสาวสวยที่สวมชุดสีขาว ขาเรียวยาว เอวคอดที่อยู่ไม่ไกล เธอเอามือเท้าสะเอวไว้ทั้งสองข้าง จ้องมองคนที่กล่าวเย้ยหยันเฉินไต้ซือว่าอายุน้อยด้วยสีหน้าโกรธเคือง
ดวงตาของชายหนุ่มพวกนั้นเป็นประกายทันที “โอ้ สาวดุมาจากไหน เธอเป็นอะไรกับเฉินไต้ซือ ถึงต้องปกป้องเขาขนาดนั้น?”
คำถามของพวกเขาคือสิ่งที่เฉินโม่อยากรู้เหมือนกัน เพราะเขาไม่รู้จักผู้หญิงคนนี้ และอยากรู้ว่าทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงปกป้องเขา
มีความเลื่อมใสปรากฏอยู่บนใบหน้าที่สวยงามของหญิงสาว และกล่าวด้วยน้ำเสียงชัดเจน “เฉินไต้ซือเป็นไอดอลของฉัน ฉันจะไม่ยอมให้คุณใส่ร้ายเขาหรอก!”
“เชอะ ที่แท้เป็นคนบ้าผู้ชายนี่เอง! ผมเป็นไต้ซือเหมือนกัน คุณเลื่อมใสผมด้วยหรือเปล่า?”
ชายหนุ่มพวกนั้นหัวเราะออกมา สายตาที่มองหญิงสาวมีความเร่าร้อนเล็กน้อย
“พวกคุณนั่นแหละที่เป็นคนบ้ากาม พวกคุณบ้ากามทั้งครอบครัว!” หญิงสาวถูกด่า แล้วเธอก็ด่ากลับไปด้วยความโมโห
สีหน้าของชายหนุ่มพวกนั้นเคร่งขรึมอย่างกะทันหัน ส่วนสีหน้าของคนที่นั่งอยู่ตรงกลางซีดเล็กน้อย แค่มองแวบเดียวก็รู้ว่าเขาเป็นชายหนุ่มที่ดื่มสุราและใช้งานมากเกินไป เขากล่าวเยาะเย้ยว่า “สาวน้อย พูดจาให้ดี ๆ หน่อย ระวังว่าผมจะให้คุณได้ลิ้มลองความเก่งกาจของผม!”
“คุณชายเว่ยเก่งเรื่องนั้นมาก ฮ่า ๆ ๆ…..” ชายหนุ่มคนอื่นๆ หัวเราะด้วยความชั่วร้าย แล้วมองร่างกายส่วนล่างของคุณชายเว่ย
“อันธพาล!” หญิงสาวหน้าแดงและด่าด้วยความโมโห
“เหล่าพี่น้อง เธอด่าว่าผมเป็นอันธพาล พวกนายคิดว่าควรจะทำอย่างไรดี?” คุณชายเว่ยกล่าวด้วเสียงดัง
“ถ้าอย่างนั้นก็พาลใส่เธอเลย มิเช่นนั้นมันจะไม่คุ้มกับชื่อที่เลวร้ายนี้” คนอื่น ๆ ตะโกนเสียงดัง