แดนนิรมิตเทพ - บทที่ 684
แดนนิรมิตเทพ บทที่ 684
บนเวที นักมวยที่หวางเส้าหยู่เลือกต้อนนักมวยที่ฉีเยว่หยูเลือกไปที่มุมเวที แล้วปล่อยหมัดโจมตีทันที
ตอนนี้นักมวยที่ฉีเยว่หยูเลือกใกล้จะหมดแรงแล้ว และไม่เหลือแม้แต่พลังที่จะต่อต้าน ถ้าเขาถูกหมัดนี้โจมตี เกรงว่าคงหมดสติทันที
ผู้ชมที่อยู่ด้านล่างเริ่มส่งเสียงเชียร์ เพราะพวกเขาเกือบทั้งหมดเดิมพันตามหวางเส้าหยู่
อย่างไรก็ตาม ขณะที่นักมวยที่หวางเส้าหยู่เลือกปล่อยหมัดออกไปอยู่ตรงหน้าอีกฝ่าย เขาก็หยุดอย่างกะทันหัน
เสียงเชียร์หยุดลง
หลังจากนั้น เดิมทีนักมวยที่ควรจะเป็นฝ่ายชนะ กลับถูกนักมวยที่ฉีเยว่หยูเลือกปล่อยหมัดโจมตีจนล้มอยู่บนพื้น และไม่สามารถลุกขึ้นได้อีก
ทุกคนเงียบ!
“เป็นไปได้ยังไง!” หวางเส้าหยู่รู้สึกตกใจมาก มองนักมวยที่ตนเองเลือก ล้มอยู่บนพื้นด้วยสายตาที่ไม่อยากจะเชื่อ “เห็นได้ชัดว่าเมื่อสักครู่เขากำลังจะชนะแล้ว แต่ทำไมจู่ ๆ ถึงถูกชกจนหมดสติได้อย่างไร?”
ไม่ใช่แค่หวางเส้าหยู่คนเดียวเท่านั้น แต่ทุกคนต่างรู้สึกสงสัยเหมือนกัน
สีหน้าของหวงไต้ซือที่อยู่ข้างหวางเส้าหยู่เปลี่ยนเป็นจริงจังทันที ดวงตาที่เป็นประกายคู่นั้นกวาดมองไปรอบ ๆ
เพียงแต่เขาไม่พบความผิดปกติใด ๆ
“คนที่สามารถชกนักมวยหมดสติอยู่บนเวทีได้อย่างเงียบ ๆ เว้นแต่จะเป็นปรมาจารย์แดนแปรภาพที่สามารถปล่อยพลังในได้ แต่รอบ ๆ นี้ ไม่มีนักบู๊แม้แต่คนเดียว เป็นยอดฝีมือมาจากไหนกันแน่?”
ฉีเยว่หยูรู้สึกดีใจมาก จนเกือบจะกระโดดโลดเต้น มองหวางเส้าหยู่และกล่าวด้วยความลำพองใจว่า “ขอบคุณสำหรับเงินยี่สิบล้านของคุณ!”
สีหน้าของหวางเส้าหยู่เคร่งขรึม ชี้ฉีเยว่หยูและตะโกนว่า “คุณโกง!”
“เห็นได้ชัดว่านักมวยของผมกำลังจะชนะแล้ว แต่ทำไมจู่ ๆ เขาถึงหมดสติ คุณต้องแอบวางแผนชั่วอะไรไว้อย่างแน่นอน!”
ฉีเยว่หยูรู้สึกร้อนตัวเล็กน้อย เธอรู้ว่าเฉินโม่เป็นคนลงมือในช่วงเวลาวิกฤตอย่างแน่นอน แต่เธอไม่มั่นใจว่าคนของหวางเส้าหยู่จะมองเห็นหรือไม่
แต่ก่อนที่ฉีเยว่หยูจะตอบ ฉีหมิงซานที่ตื่นเต้นและสีหน้าเต็มไปด้วยรอยิ้มก็ตะโกนใส่หวางเส้าหยู่ว่า “หวางเส้าหยู่ คุณเป็นคนเลือกนักมวยเอง และทุกคนก็เห็นกระบวนการแข่งขันตลอด คุณบอกว่าน้องสาวของผมโกง คุณมีหลักฐานอะไร?”
“ที่แท้คุณนั่นแหละที่เป็นคนขี้ขลาด ที่ไม่สามารถยอมรับความพ่ายแพ้ได้!”
“คุณ……” หวางเส้าหยู่รู้สึกโกรธมาก แต่เขากลับไม่สามารถพูดหักล้างได้ ทำได้เพียงหันไปมองหวงไต้ซือ และหวังว่าเขาจะสามารถหาหลักฐานได้
เพียงแต่หวงไต้ซือถอนหายใจและกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “เมื่อยินยอมเดิมพัน ก็ต้องยอมรับเมื่อตนเองพ่ายแพ้ พวกเราค่อยมาทวงคืนวันหลัง กลับกันเถอะ!”
หวางเส้าหยู่รู้สึกตกใจ เพราะเขาไม่ใช่คนโง่เขลา เขาเข้าใจว่าทำไมหวงไต้ซือต้องถอย แต่หวางเส้าหยู่ไม่เข้าใจว่าทำไมหวงไต้ซือไม่ให้เขาพลิกเอาชนะคืน แต่กลับให้เขาถอยกลับ
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจ แต่หวางเส้าหยู่ก็ไม่กล้าขัดคำสั่งของหวงไต้ซือ
หวางเส้าหยู่มองสองพี่น้องตระกูลฉีด้วยสายตาดุดัน และกล่าวด้วยความดุร้ายว่า “คราวนี้ถือว่าพวกคุณโชคดี คราวต่อไปพวกคุณจะไม่โชคดีแบบนี้หรอก!”
ฉีหมิงซานยิ้มด้วยความลำพองใจ “โอเค ผมจะรอ!”
ขณะที่หวางเส้าหยู่กำลังจะเดินจากไป เสียงผู้หญิงที่เย็นชาและเย่อหยิ่งก็ดังขึ้น “เดี๋ยวก่อน!”
ทุกคนหันไปมองตามเสียง ทันใดนั้นพวกเขาก็รู้สึกความประหลาดใจ
เป็นผู้หญิงสวมชุดกระโปรงยาวสีขาวเรียบ ๆ ผมยาวคลุมไหล่และสีหน้าเย็นชา การปรากฏตัวของเธอทำให้อุณหภูมิลดลงไปหลายองศา
สายตาของพวกผู้ชายเปลี่ยนเป็นเร่าร้อน แม้แต่มู่หรงยานเอ๋อร์กับฉีเยว่หยูที่เป็นสาวสวย ก็ยังรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
รูปร่างหน้าตาของผู้หญิงคนนี้สวยไล่เลี่ยกับมู่หรงยานเอ๋อร์และฉีเยว่หยู แต่ความเย็นชาและความเย่อหยิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของเธอ สามารถสยบผู้หญิงสองคนนี้ได้
ความเร่าร้อนในดวงตาของหวางเส้าหยู่หายวับไป จากนั้นเขาก็ถามด้วยความระมัดระวังว่า “คุณคือคุณหนูเสิ่นใช่ไหม?”
เสิ่นหยูปิงเหลือบมองหวางเส้าหยู่ แล้วตอบเบา ๆ จากนั้นหันไปมองฉีเยว่หยูและหรี่ตาลงเล็กน้อย
“ฉันจะเดิมพันกับคุณ!”