แดนนิรมิตเทพ - บทที่ 712
แดนนิรมิตเทพ บทที่ 712
มีคนเป็นเจ้ามือ ต้องมีนักศึกษาไปมากมายแน่นอน อย่างไรก็ตาม เฉินโม่ยังคงจำการประชุมแลกเปลี่ยนเมื่อชาติก่อนได้ เขารู้ว่าการประชุมแลกเปลี่ยนครั้งนี้ ความจริงแล้วมีคนบางคนเจตนาโอ้อวดสถานะครอบครัวของตนเองต่อหน้าเพื่อนนักศึกษา
ถึงแม้ว่าชาติก่อนเฉินโม่จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการประชุมแลกเปลี่ยน แต่เฉินโม่ซึ่งรู้ผลลัพธ์อยู่แล้ว จึงทำให้เขาไม่อยากไปร่วมงาน
เพียงแต่เมื่อเขานึกถึงร่างของผู้หญิงร้อนแรงที่ปรากฏออกมาแล้ว บวกการชักชวนของจี๋ต๋าจิ่วตูและคนอื่น ๆ สุดท้ายเฉินโม่ก็รับปาก
เขาโอ้อวดของเขาไป ไม่เกี่ยวอะไรกับผม เพราะผมแค่อยากจะไปพบคนที่อยากพบเท่านั้น
ตอนหกโมงเย็นครึ่ง เฉินโม่ออกเดินทางจากเช่าบ้าน มุ่งหน้าไปที่โรงแรมหลานเทียนที่มีการจัดงานการประชุมแลกเปลี่ยน
โรงแรมหลานเทียนเป็นหนึ่งในโรงแรมห้าดาวดีที่สุดในเมืองหนานหัว บุคคลนั้นตั้งใจเหมาสถานที่แห่งนี้ ซึ่งเจตนาของเขานั้นชัดเจนมาก
เมื่อมาถึงโรงแรมหลานเทียนแล้ว เฉินโม่เห็นพวกจี๋ต๋าจิ่วตูสามคนยืนอยู่ที่หน้าประตู ด้านข้างนั้นมีชายหนุ่มคนหนึ่งที่หน้าตาหล่อเหล่าและมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้า
เมื่อมองชายหนุ่มคนนี้แวบแรก ทำให้คนอื่นรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่สุขุมหนักแน่น
“เฉินโม่ นี่คือรูมเมทคนใหม่ของพวกเรา เขาชื่อเจี่ยจวินเซี่ย”
เฉินโม่มองเจี่ยจวินเซี่ย ไม่ต้องให้จี๋ต๋าจิ่วตูแนะนำ เฉินโม่ก็จำเขาได้ บุคคลนี้เป็นคนสำคัญของหอพักหมายเลข 306 ของพวกเขา และยังเป็นกุนซือของพวกเขาอีกด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น สถานะของเจี่ยจวินเซี่ยไม่ได้ธรรมดาอย่างที่เห็น ความจริงแล้วสถานะที่แท้จริงของเขาคือลูกชายเศรษฐีในเหลียวตง เป็นลูกชายของครอบครัวเศรษฐีอย่างแท้จริง
“สวัสดีครับ ผมชื่อเจี่ยจวินเซี่ย!” เจี่ยจวินเซี่ยยื่นมือออกมาและยิ้มอย่างจริงใจให้เฉินโม่
เฉินโม่เอื้อมมือออกไปจับมือเจี่ยจวินเซี่ยและกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “สวัสดีครับ ผมชื่อเฉินโม่!”
“เอาล่ะ เฉินโม่ก็มาแล้ว พวกเราเข้าไปกันเถอะ! นี่เป็นครั้งแรกที่ผมมาสถานที่ระดับสูงแบบนี้!” จี๋ต๋าจิ่วตูกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ไปกันเถอะ!” เจี่ยจวินเซี่ยมองเฉินโม่ และมีความสงสัยอยู่ในดวงตาของเขา พบกันครั้งแรก เพื่อนนักเรียนที่ชื่อเฉินโม่คนนี้ เป็นคนเดียวที่เขาไม่สามารถมองทะลุความคิดได้
“เพื่อนทั้งหลายเชิญเข้าไปก่อน!” เหวินถิงอี้โค้งคำนับเล็กน้อย ยื่นมือออกมาแล้วทำสัญญาลักษณ์เชิญ และกล่าวด้วยความสุภาพ
ทุกคนรู้สึกตกตะลึง จี๋ต๋าจิ่วตูกับห่าวเจี้ยนพยายามกลั้นหัวเราะ เจี่ยจวินเซี่ยมองเหวินถิงอี้ พยักหน้าอย่างจริงจังและกล่าวว่า “อืม ท่าทางมาตรฐานมาก!”
คราวนี้ พวกเขาสองคนไม่สามารถกลั้นได้อีกต่อไป และระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
การประชุมแลกเปลี่ยนครั้งนี้จัดขึ้นที่ชั้นสามของโรงแรมหลานเทียน และล็อบบี้ขนาดใหญ่บนชั้นสามถูกเหมาไว้แล้ว
เฉินโม่และคนอื่น ๆ มาถึงล็อบบี้บนชั้นสามจากการนำทางของพนักงานสาวสวยสองคน จี๋ต๋าจิ่วตูรู้สึกตกตะลึงกับความโอ่อ่าตระการตาของล็อบบี้
“ผมรู้สึกเหมือนว่าตนเองมาที่พระราชวัง!” จี๋ต๋าจิ่วตูมองไปรอบ ๆ ด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
ห่าวเจี้ยนมองไปรอบ ๆ อย่างระมัดระวัง และกล่าวว่า “ไอ้อ้วน พนักงานสองคนนั้นกำลังยิ้มให้นาย!”
“ไหนล่ะ?” จี๋ต๋าจิ่วตูหันไปมองรอบ ๆ แต่เขาไม่พบอะไร
“นายกล้าโกหกฉัน คอยดูว่าฉันจะจัดการนายอย่างไร!” จี๋ต๋าจิ่วตูได้สติกลับมา แล้วจับตัวห่าวเจี้ยนไว้ทันที
ห่าวเจี้ยนเป็นคนตัวเล็ก แล้วเขาจะเป็นคู่ต่อสู้ของจี๋ต๋าจิ่วตูได้อย่างไร ดังนั้นเขาจึงถูกจับทันที และเจ้าหมอนี้ก็ขอร้องอย่างไร้ศักดิ์ศรี
“อย่าก่อกวนอีกเลย รักษาภาพลักษณ์หน่อย อย่าทำให้หอพักห้อง 306 ของพวกเราเสียศักดิ์ศรี!” เจี่ยจวินเซี่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม เงยหน้าแล้วมองไปข้างหน้า สายตาของเขายังคงมองสำรวจรอบ ๆ
จี๋ต๋าจิ่วตูกับห่าวเจี้ยนหยุดทะเลาะกันทันที เดินตามหลังเจี่ยจวินเซี่ยและคนอื่น ๆ เข้าไป
การประชุมแลกเปลี่ยนยังไม่เริ่ม แต่นักศึกษามาถึงมากมายแล้ว และสนทนากันเป็นกลุ่ม ๆ
เฉินโม่และคนอื่น ๆ หาสถานที่เงียบแล้วนั่งลง ห่าวเจี้ยนกับจี๋ต๋าจิ่วตูต่างหยิบโทรศัพท์ออกมาและเริ่มเล่นเกม
พวกเขาบังคับขู่เข็ญให้เฉินโม่ดาวน์โหลดเกม Honor of Kings เพราะทีมของพวกยังขาดอีกหนึ่งคน ดังนั้นพวกเขาจึงบังคับให้เฉินโม่เป็นสมาชิก เพราะจะได้ครบคน