แดนนิรมิตเทพ - บทที่ 743
แดนนิรมิตเทพ บทที่ 743
เวลาบ่ายสาม แต่ละห้องต่างก็ไปจัดสถานที่
หัวหน้าหลี่ชิงหยีเป็นคนที่รับผิดชอบสั่งงานของห้องสาม ซึ่งเป็นห้องที่เฉินโม่เรียนอยู่ เฉินโม่กับจี๋ต๋าจิ่วตูอยู่กลุ่มเดียวกัน
งานเลี้ยงต้อนรับคราวนี้เป็นกิจกรรมของทั้งมหาวิทยาลัย และเพื่อให้มั่นใจว่าสถานที่กว้างขวางพอ จึงจัดงานเลี้ยงที่สนามของมหาวิทยาลัย
ดังนั้น การจัดสถานที่จึงไม่ใช่เรื่องง่าย
แต่ละห้องจะมีพื้นที่รับผิดชอบของตนเอง ส่วนห้องสามรับผิดชอบการจัดที่นั่ง
หลี่ชิงหยียังคงออกคำสั่งอย่างต่อเนื่อง “เฉินโม่ นายไปย้ายโต๊ะนั้นมาวางตรงตำแหน่งนั้น!”
“จี๋ต๋าจิ่วตู นายไปยกเก้าอี้มาที่นี่สองตัว”
สำหรับเฉินโม่ที่ตอนนี้บรรลุถึงชั้นหกแดนรวมพลังแล้ว งานเหล่านี้เป็นเรื่องจิ๊บจ๋อย และเฉินโม่รู้สึกโหยหาบรรยากาศที่ทำงานร่วมกับทุกคนแบบนี้
เพียงแต่เฉินโม่ค่อย ๆ ค้นพบว่ามันไม่ได้เป็นเช่นนั้น
“เฉินโม่ นายไปยกเก้าอี้มาเพิ่มอีกสองตัว!” หลี่ชิงหยียังคงออกคำสั่งต่อ
มีนักศึกษาทำงานด้วยกันสิบกว่าคน คนอื่น ๆ นั่งพักอยู่ที่เดิม แต่หลี่ชิงหยีกลับเรียกใช้เฉินโม่กับจี๋ต๋าจิ่วตูแค่สองคนเท่านั้น
จี๋ต๋าจิ่วตูปาดเหงื่อที่อยู่บนหน้าผาก จ้องหลี่ชิงหยีที่ยังคงออกสั่งด้วยความโมโห “ผู้หญิงขี้เหร่คนนี้จงใจแน่นอน มีคนมากมายว่างอยู่ แต่เธอกลับให้พวกเราสองคนทำทั้งหมด!”
“ไม่ต้องทำแล้ว!” เฉินโม่กล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ หลังจากกล่าวจบ เขาก็โยนเก้าอี้สองตัวที่อยู่ในมือลงบนพื้น แล้วเดินไปดื่มน้ำที่อยู่ด้านข้าง
“เฉินโม่ นายทำอะไร? ฉันให้นายยกเก้าอี้มาที่นี่ นายโยนเก้าอี้ลงบนพื้นทำไม?” หลี่ชิงหยีตะโกนด้วยความโมโห
เฉินโม่เหลือบมองเธอและกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “ผมเหนื่อยแล้ว หยุดพักสักครู่ คุณเรียกใช้คนอื่นเถอะ!”
นักศึกษาคนอื่น ๆ มองสลับระหว่างหลี่ชิงหยีและเฉินโม่ พวกเขาเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น
หลี่ชิงหยีเป็นชาวเมืองหนานหัว ตระกูลของเธอทำธุรกิจเสื้อผ้า เธอกับเสิ่นเจี้ยนเหวินเป็นเพื่อนร่วมชั้นตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมปลาย และเธอแอบชอบเสิ่นเจี้ยนเหวินมาโดยตลอด
แต่หลี่ชิงหยีเป็นคนที่หน้าตาและลักษณะธรรมดา ทำให้เสิ่นเจี้ยนเหวินไม่ชอบเธอ
อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงที่ตกหลุมรักรักมักจะตาบอดและหุนหันพลันแล่น หลี่ชิงหยีมองไม่เห็นข้อบกพร่องของตนเอง เธอแค่คิดจะทำอะไรบางอย่างเพื่อเสิ่นเจี้ยนเหวินเท่านั้น
เฉินโม่แย่งซีนเสิ่นเจี้ยนเหวินไปหลายครั้ง เธอมองออกว่าเสิ่นเจี้ยนเหวินเกลียดเฉินโม่ ดังนั้น เธอจึงอยากช่วยเสิ่นเจี้ยนเหวินโจมตีเฉินโม่ และหวังว่าเสิ่นเจี้ยนเหวินจะเห็นความทุ่มเทของเธอ
สำหรับพลังที่เฉินโม่แสดงออก รวมถึงเรื่องอัศจรรย์ เดี๋ยวฟื้น เดี๋ยวตาย ในวิชาชีววิทยา ถึงแม้ว่าหลี่ชิงหยีจะรู้สึกประหลาดใจ แต่เธอไม่คิดว่ามันจะเยี่ยมขนาดนั้น
หลี่ชิงหยีรู้สึกว่าตอนนี้เป็นยุคของปืนใหญ่และอาวุธนิวเคลียร์ นักบู๊ไม่มีประโยชน์มากนัก อย่างมากที่สุดแค่ใช้กำลังรังแกคนอื่นเท่านั้น เมื่อเทียบกับสถานะครอบครัวของเสิ่นเจี้ยนเหวิน สำหรับหลี่ชิงหยีแล้ว กลอุบายของเฉินโม่เป็นเพียงเกมของเด็กเล่นเท่านั้น
ในโลกใบนี้ ความมั่งคั่งและอำนาจถึงจะเป็นเป้าหมายที่ทุกคนแสวงหา
ดังนั้น หลี่ชิงหยีจึงคิดจะอาศัยโอกาสในการจัดสถานที่คราวนี้ ปราบปรามเฉินโม่เพื่อระบายความโกรธแทนเสิ่นเจี้ยนเหวิน
เมื่อเห็นเฉินโม่นั่งดื่มน้ำอยู่ จี๋ต๋าจิ่วตูก็เดินไปอย่างเงียบ ๆ และดื่มน้ำไปหนึ่งขวด กล่าวกับเฉินโม่เบา ๆ ว่า “หลี่ชิงหยีเป็นหัวหน้าห้อง ถ้าพวกเราล่วงเกินเธอ เกรงว่าต่อไปจะทำให้พวกเราเดือดร้อน ดังนั้นอดทนไว้ดีกว่า!”
เฉินโม่ไม่พูดอะไร และมองไปทางอื่น เห็นได้ชัดว่าเขากำลังคิดต่อต้านหลี่ชิงหยี
เมื่อเห็นว่าเฉินโม่ไม่สนใจตนเอง หลี่ชิงหยีรู้สึกโกรธเล็กน้อย นึกไม่ถึงว่าเฉินโม่จะไม่ให้เกียรติเธอต่อหน้าเพื่อนนักศึกษา แล้วต่อไปเมื่ออยู่ต่อหน้าเพื่อนนักศึกษาแล้ว คำพูดของเธอจะศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างไร?
“เฉินโม่ ฉันกำลังคุยกับนายอยู่ ได้ยินฉันไหม? ยกเก้าอี้มาที่นี่!” หลี่ชิงหยีตะโกนอีกครั้ง