แดนนิรมิตเทพ - บทที่ 811
เมืองจงไห่ ตระกูลอันดับหนึ่งในโลกมนุษย์ ตระกูลเล่แห่งจงไห่
ในห้องโถงของตระกูลเล่ บรรดาเจ้าสัวในเมืองจงไห่มารวมตัวกัน มองไปที่เล่ชิงชางที่นั่งตำแหน่งหัวโต๊ะอย่างเป็นกังวล
“พี่เล่ ตระกูลหยุนไม่ยุ่งเกี่ยวเรื่องหอการค้าโม่เจียจริงเหรอ?” หลีเจี้ยนฮุยเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ถามด้วยความสงสัย
เล่ชิงชางพยักหน้า “ถูกต้อง วันหลังตระกูลหยุนจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับหอการค้าโม่เจียอีกแล้ว ดังนั้นหากคิดจะยับยั้งหอการค้าโม่เจีย ก็ต้องพึ่งตนเองเท่านั้น”
“พี่เล่ จงไห่ทั้งหมดล้วนดูทิศทางลมตระกูลเล่ของท่าน บอกผมทีว่าเราควรทำอย่างไร?” เจ้าสัวยาหวังไข่เยว่กล่าว
“แล้วพวกคุณล่ะ?” เล่ชิงชางกวาดสายตามองคนอื่นๆ
“พวกเราย่อมดูทิศทางลมตามพี่เล่อยู่แล้ว” เจ้าสัวคนอื่นๆ ประสานมือกล่าวทันที
เล่ชิงชางพยักหน้า “ในเมื่อทุกคนเห็นความสำคัญของผม เช่นนั้นผมจะไม่ลังเลแล้ว!”
“พี่เล่ได้โปรดควบคุมสถานการณ์โดยรวมด้วย!” ทุกคนประสานมือกล่าวขึ้นพร้อมกัน
เล่ชิงชางโบกมือ “ทุกคนนั่งลงก่อน ฟังผมนะ”
เล่ชิงชางกวาดสายตามองดูผู้คนที่นั่งประจำที่ แล้วกล่าวว่า “กิจการที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับหอการค้าโม่เจีย ได้ครอบคลุมกิจการในตลาดเกือบทั้งหมด แต่ละกิจการยังประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากอีกด้วย หากพวกเราต้องการโจมตีเขา ก็จำเป็นต้องหากิจการที่อ่อนแอที่สุดของเขา และกิจการนี้ต้องเพียงพอที่จะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์โดยรวมด้วย!”
บรรดาเจ้าสัวคนอื่นๆ ครุ่นคิดอย่างหนัก การหากิจการที่อ่อนแอของหอการค้าโม่เจียไม่ใช่เรื่องยาก แต่กิจการที่อ่อนแอพอที่จะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์โดยรวม เรื่องนี้ยากเกินไป
เจ้าพ่อยาหวังไข่เยว่กล่าวว่า “พี่เล่ ในเมื่อท่านมีความคิดอยู่แล้ว เช่นนั้นก็ต้องพบจุดอ่อนของหอการค้าโม่เจียแล้วแน่นอน ท่านก็อย่าแกล้งให้รอ บอกมาเลยเถอะ!”
บรรดาเจ้าสัวมองไปที่เล่ชิงชางทันที พลางกล่าวอย่างพร้อมเพรียง “ใช่แล้ว พี่เล่ หากท่านมีความคิดดีๆ ก็บอกมาเถอะ!”
เล่ชิงชางรู้สึกภาคภูมิใจ เขายิ้มแล้วรอครู่หนึ่งค่อยพูดออกมา “ผมหาวิธีได้แล้วจริงๆ เดี๋ยวผมจะพูดออกมาให้ทุกคนลองพิจารณาดู!”
บรรดาเจ้าสัวรู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันที จ้องไปที่เล่ชิงชางอย่างไม่ละสายตา
“วิธีนี้คือน้ำชีวิต!” เล่ชิงชางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
น้ำชีวิต!
บรรดาเจ้าสัวตกตะลึง
ถ้าจะพูดถึงน้ำชีวิต หวังไข่เยว่ที่อยู่ในอุตสาหกรรมยานั้นมีสิทธิ์พูดมากที่สุด เขากล่าวทันทีว่า “พี่เล่ พวกเราก็เคยคิดที่จะใช้น้ำชีวิตมาเอาชนะหอการค้าโม่เจีย เพราะถึงอย่างไรนี่คือกิจการที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศหัวเซี่ยตอนนี้ หากเราสามารถตัดขาดการจัดหาน้ำชีวิตให้กับหอการค้าโม่เจียแล้ว ก็เรียกได้ว่าฆ่าเขาไปครึ่งชีวิตแล้ว”
“แต่ได้ยินมาว่าเจ้าของน้ำชีวิตคือเฉินไต้ซือผู้ลึกลับแห่งฮ่านหยาง พวกเราไม่มีลู่ทางเลย!”
เล่ชิงชางยิ้มแต่ไม่พูดอะไร สีหน้าพึงพอใจ
บรรดาเจ้าสัวไม่ใช่คนโง่ เมื่อเห็นสีหน้าของเล่ชิงชาง ก็เข้าใจทันทีว่าหมายความอย่างไร
“พี่เล่ หรือว่าท่านจะคิดหาลู่ทางเอาไว้แล้ว?” หวังไข่เยว่ถามด้วยความประหลาดใจ
“หรือว่าพี่เล่จะรู้จักเฉินไต้ซือ?” หลีเจี้ยนฮุยถามด้วยความสงสัย
เล่ชิงชางหัวเราะลั่นพลางกล่าวว่า “ถึงแม้ผมจะไม่รู้จักเฉินไต้ซือ แต่ผมได้เชิญผู้จัดการน้ำชีวิตจากจงไห่มาแล้ว”
เล่ชิงชางหันไปพูดกับเล่หรูเฟิงที่ยืนอยู่ข้างๆ “เฟิงเอ๋อร์ ไปเชิญคุณเอี๋ยนมา!”
“ครับท่านพ่อ!” เล่หรูเฟิงหันหลังเดินจากไป
กลุ่มเจ้าสัวมีสีหน้าประหลาดใจ จากการที่น้ำชีวิตขายดิบขายดี ทำให้สถานะของผู้จัดการแต่ละภูมิภาคก็พุ่งสูงขึ้นตามน้ำเช่นกัน อย่างเช่นคุณเอี๋ยนจากจงไห่ ไม่เคยเห็นบรรดาเจ้าสัวท้องถิ่นในจงไห่อยู่ในสายตา มีท่าหยิ่งผยองมาก
ครู่ต่อมา เล่หรูเฟิงเดินเข้ามาพร้อมกับชายวัยกลางคน