แดนนิรมิตเทพ - บทที่ 982
แดนนิรมิตเทพ บทที่ 982
เฉินโม่ที่อยู่ในวังขนาดใหญ่ลืมตาขึ้นมา รับรู้ถึงชี่ทิพย์ฟ้าดินที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เขาขมวดคิ้วเบาๆ “เสี่ยวเชี่ยน ถึงเวลาแล้ว เราควรออกไปได้แล้ว!”
“หา!” เนี่ยเสี่ยวเชี่ยนกำลังดื่มด่ำอยู่กับความรู้สึกของการระเบิดของพละกำลัง เมื่อได้ยินเฉินโม่พูด จึงพยักหน้าอย่างไม่ค่อยเต็มใจ “โอเค!”
ทันใดนั้น เนี่ยเสี่ยวเชี่ยนสัมผัสพละกำลังของตัวเอง จู่ๆ เธอแสดงท่าทียินดีอย่างบ้าคลั่ง “เฉินโม่ คิดไม่ถึงเลยว่าฉันจะยกระดับถึงปรมาจารย์แดนคุ้มกายแล้ว!”
“ออกไปค่อยว่ากัน ที่นี่กำลังจะทรุดลงมาแล้ว เราต้องรีบออกไปให้เร็วที่สุด!” เฉินโม่พูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
ในเวลาเดียวกัน เฉินโม่รู้สึกประหลาดใจ ตอนที่เพิ่งเข้ามา เขาเคยตรวจสอบพื้นที่มิติที่นี่แล้ว เขาพบว่าที่นี่อาจเป็นชิ้นส่วนมิติที่โดนทำลายจนแตก แต่เมื่อเทียบทั้งพื้นที่มิติก็ค่อนข้างมั่นคง
ไม่น่าจะพังลงมาง่ายๆ แต่นี่เพิ่งผ่านไปสิบกว่าวัน คิดไม่ถึงเลยว่าที่นี่มีสัญญาณว่าจะพังลงมา
อย่าบอกนะว่าเกี่ยวกับการที่พวกเขา ดูดซับชี่ทิพย์ฟ้าดินของที่นี่อย่างบ้าคลั่ง
คิดไปคิดมา เฉินโม่คิดว่าไม่น่าเป็นไปได้ ถ้าผู้บำเพ็ญสิบกว่าคน ดูดซับชี่ทิพย์ฟ้าดินของที่นี่พร้อมกัน ทำให้พื้นที่มิติพังทลาย อาจเป็นไปได้มากกว่า
แต่ที่นี่มีเขาคนเดียวที่เป็นผู้บำเพ็ญ คนที่เหลือเป็นนักบู๊ทั้งหมด แม้มีนักบู๊โบราณสองสามคน แต่แข็งแกร่งกว่านักบู๊ทั่วไปเพียงเล็กน้อย เทียบกับผู้บำเพ็ญแล้ว ยังห่างชั้นกันมาก ไม่ถึงกับทำให้พื้นที่มิติพังทลายหรอก
เฉินโม่คิดว่าต้องมีสาเหตุที่เขายังไม่รู้แน่นอน
แต่ตอนนี้เขาไม่มีเวลาไปตรวจสอบให้แน่ใจ
“ไปกันเถอะ ที่นี่กำลังจะพังลงมาแล้ว เราต้องรีบออกไปให้เร็วที่สุด!” เฉินโม่พูดเสียงดัง เสียงดังก้องอยู่ในหัวนักบู๊ทุกคน
พวกนักบู๊ที่กำลังจมอยู่กับการฝึกฝน ตกใจตื่นขึ้นมากันหมด
ทุกคนมองเฉินโม่อย่างไม่เข้าใจ แต่สัมผัสได้ถึงชี่ทิพย์ฉุนเฉียวระหว่างฟ้าดิน พวกเขาจึงเชื่อคำพูดของเฉินโม่
“ไป!”
แม้ยังอาลัยอาวรณ์เล็กน้อย แต่ยังไงชีวิตก็สำคัญกว่า ไม่มีใครทิ้งชีวิตไว้ที่นี่ เพียงเพราะต้องการเพิ่มพละกำลัง
ครืนนน!
วังขนาดใหญ่เริ่มสั่นคลอน ยิ่งยืนยันคำพูดของเฉินโม่ ครั้งนี้พวกที่ยังสงสัยอยู่เล็กน้อย ไม่มีความสงสัยอีกแล้ว
มองเฉินโม่ที่พาเนี่ยเสี่ยวเชี่ยนออกไปก่อนแล้ว ทุกคนสีหน้าเคร่งขรึม
“รีบไป!”
เมื่อพวกเฉินโม่ออกจากเขาซูคงได้ไม่นาน เขาซูคงเริ่มพังลงมา พวกเขายืนอยู่ด้านนอก ยังเห็นภาพที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วด้านใน
ทุกคนแอบตกใจ ถ้าตอนนี้ยังอยู่ด้านใน คงต้องตายคาที่แน่นอน
“เขาซูคงถล่มแล้ว งั้นต่อไปคงไม่ปรากฏออกมาอีกแล้วเหรอ” มีนักบู๊ถามขึ้น
ไม่มีใครตอบ เขาซูคงถล่มลงมาแล้ว ยังปรากฏออกมาได้อีกไหม
“คิดไม่ถึงว่าฉันจะเห็นวินาทีสุดท้ายของเขาซูคงด้วยตาตัวเอง!” ผู้อาวุโสคนหนึ่งหัวเราะอย่างภาคภูมิ
“ใช่ แม้เราไม่เห็นการกำเนิดของเขาซูคงด้วยตาตัวเอง แต่ได้เห็นจุดสิ้นสุดของมัน ก็ถือว่าไม่เลว!” ผู้อาวุโสอีกคนหัวเราะแล้วเอ่ยขึ้น
สุดท้ายเฉินโม่มองเขาซูคงแวบหนึ่ง ไม่มีความอาวรณ์ใดๆ เขาพูดกับเนี่ยเสี่ยวเชี่ยนว่า “ไปกันเถอะ!
“เราก็ไปกันเถอะ!” มังกรห้าพูดเสียงขรึม
“อืม!” มังกรสิบหกกับมังกรสิบแปดที่ได้อะไรมามากมาย พยักหน้าอย่างพอใจ
อาจารย์ของหลี่เจ๋อมองหลี่เจ๋อ แล้วพูดอย่างพอใจว่า “การเดินทางครั้งนี้ ฉันที่เป็นอาจารย์ของนายได้อะไรมามากมาย หลังกลับไปฉันจะปลีกวิเวกสักระยะหนึ่ง ดูว่าจะไปสู่แดนเทพได้ไหม!”
“ยินดีด้วยครับอาจารย์!” หลี่เจ๋อยินดีเป็นอย่างยิ่ง
สุดท้ายพวกนักบู๊ที่อยู่ต่อ โดยรวมแล้วล้วนได้อะไรมามากมาย พละกำลังยกระดับขึ้นมาก โดยรวมนักบู๊แดนในล้วนยกระดับถึงระดับปรมาจารย์
“เมื่อเข้าสู่เขาซูคง ต้องได้เป็นปรมาจารย์ ประโยคนี้ไม่ใช่คำหลอกลวงจริงๆ!” หยางหมิงหยู่พูดอย่างทอดถอนใจ
“เราก็ไปกันเถอะ!” ผู้อาวุโสด้านหลังหยางหมิงหยู่เอ่ยขึ้น เดาออกจากสีหน้าพึงพอใจของเขา ว่าเขาพอใจกับการเดินทางครั้งนี้มากเหมือนกัน