แดนนิรมิตเทพ - บทที่1205
ต่อมา เจียงเหอซานลุกขึ้น ผู้นำของประเทศรัสก็ลุกขึ้น ผู้รับผิดชอบของอีกสามประเทศก็ลุกขึ้นด้วย
ผู้รับผิดชอบที่อ้วนลงพุงของประเทศอเม พูดไปครู่หนึ่ง จีอู๋หยาก็แปลให้ทุกคนฟังในทันที เขาบอกว่าในเมื่อมาครบกันแล้ว “งั้นก็เปิดการแข่งขันศึกสมรภูมิห้าประเทศเถอะ! กติกายังคงเหมือนเมื่อก่อน ใครที่ได้แกนอสูรมากที่สุด ก็จะเป็นผู้ชนะ!”
เจียงเหอซานและผู้นำของประเทศรัส ต่างก็พยักหน้า แสดงว่าเห็นด้วย
ผู้รับผิดชอบของประเทศอเมก็โบกมือ “go!”
พูดจบ ก็พาทีมเดินจากไป
สมาชิกในทีม ประเทศอินและประเทศฟา คนของประเทศรัสก็เดินตามไปด้วย และในที่สุดเจียงเหอซานก็พาเฉินโม่และคนอื่นๆออกไปจากที่นี่
เจียงเหอซานพูดกับจีอู๋หยาอย่างเสียงเบา “บอกกติกาการแข่งขันให้ทุกคนทราบอีกครั้ง!”
จีอู๋หยา “ครับ!”
ขณะที่ทุกคนกำลังเดิน จีอู๋หยาก็พลางพูดถึงกฎของสมรภูมิห้าประเทศ
“สมรภูมิห้าประเทศ อันที่จริงมันเป็นพื้นที่พิเศษแห่งหนึ่ง ไม่รู้มีขึ้นเพราะอะไร และก็ไม่รู้ว่ามีขึ้นเมื่อไหร่ ภายในมีอารยธรรมโบราณมากมาย และสัตว์แปลกๆมากมาย ”
“สัตว์ประหลาดมีแกนอสูร สมาชิกในทีมของแต่ละประเทศมีเป้าหมายที่จะล่าสัตว์ประหลาดเป็นเวลาสามวัน เพราะทุกครั้งที่สมรภูมิห้าประเทศเปิดขึ้น มันจะอยู่ได้สูงสุดสามวันเท่านั้น ในที่สุดใครก็ตามที่ได้รับ แกนอสูรมากที่สุดจะเป็นผู้ชนะ ”
“โปรดจำไว้ ในขณะที่ฆ่าสัตว์ประหลาด ระวังจะถูกลอบทำร้าย เพราะในนี้สามารถฆ่าคนได้ตามอำเภอใจ ไม่มีกฎห้าม”
จีอู๋หยาพูดจบ ก็ใช้สายตาที่จริงจังกวาดมองทุกคน สุดท้ายไปหยุดอยู่บนตัวของเฉินโม่ “ฟังเข้าใจหรือยัง? ไม่เข้าใจสามารถถามได้!”
“เข้าใจแล้ว! กฎแค่นี้เอง คนที่ไม่เข้าใจก็คงมีแต่คนโง่” จางเจิ้นพูดอย่างเย้ยหยัน
ในไม่ช้า ถนนปูนก็สิ้นสุดลงแล้ว ทุกคนได้ก้าวเดินบนทางหินที่ไม่เรียบเส้นหนึ่ง
พวกคนต่างชาติที่อยู่ข้างหน้าก็กรีดร้องทันที เหลยจ้านก็ยิ้มอย่างกวนๆแล้วพูด “คนต่างชาติพวกนั้นพูดว่านี่มันถนนอะไรเนี่ย? เป็นถนนที่เดินไปสู่นรกเหรอ? เดินยากชะมัด!”
ลี่เซี่ยวพึมพำอย่างฉีกยิ้ม “ถ้าอยู่ในหัวเซี่ยถนนแบบนี้ต้องเก็บค่าผ่านทางแล้ว พวกเขากลับรังเกียจ?”
เจียงเหอซานจ้องลี่เซี่ยวไปหนึ่งที “คำพูดนี้ของนายฉันจะเรียนให้ผู้รับผิดของกรมคมนาคมทุกคำ”
ลี่เซี่ยวมองบน แล้วก็ไม่พูดอีก
หลังจากเดินผ่านทางหินแล้ว ทุกคนก็มาถึงที่กลางเกาะ ข้างหน้าเป็นหุบเขาราบ เต็มไปด้วยหญ้าเขียวขจี
แต่ว่า บนทุ่งหญ้ามีเสาหินสีเทาขนาดใหญ่สิบกว่าต้น แต่ละเสาสูงมากกว่าสิบฟุตและหนามากกว่าห้าเมตร
“โอ้ สวรรค์!” ต่างชาติพวกนั้นก็เริ่มโห่ร้องอีกแล้ว
เจียงเหอซานกล่าว “นี่ก็คือค่ายกลเปิดของสมรภูมิห้าประเทศ!”
เซี่ยไห่หลงมองไปที่ค่ายกลนั้น อุดทานด้วยสีหน้าที่ตกใจ “มันช่างมหัศจรรย์มากเลย ค่ายกลนี้นสร้างจากน้ำมือคนหรือว่าเดิมก็มีอยู่แล้ว!”
เจียงเหอซานกล่าว “เกรงว่าคงไม่มีใครรู้ แม้แต่พ่อมดที่ค้นพบค่ายกลนี้ในตอนแรก เกรงว่าก็คงไม่รู้เช่นกัน ตั้งแต่ที่ทุกคนรู้ว่าค้นพบค่ายกลนี้ ค่ายกลนี้ก็มีอยู่นานแล้ว”
เฉินโม่มองค่ายกลขนาดมหึมานี้ ก็ไม่ค่อยเข้าใจ เผ่าฝึกเซียนทั้งหมื่น ก็ไม่เคยตั้งค่ายกลแบบนี้มาก่อน
ก็เท่ากับว่าค่ายกลนี้ อาจจะไม่ใช่ฝีมือของผู้บำเพ็ญ
หากไม่ใช่ฝีมือของผู้บำเพ็ญ ก็เท่ากับว่าในสมัยโบราณของโลก เคยมีสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังเท่ากับผู้ฝึกฝนอยู่?
ตอนนี้แม้แต่เฉินโม่ที่มีอายุหกร้อยปีก็งงแล้ว
แม้ว่าเฉินโม่เคยบำเพ็ญจนถึงแดนดั่งเทพ ต่อให้อยู่มาหลายปี อยู่ในท่ามกลางของเผ่าฝึกเซียนทั้งหมื่น และถือเป็นมหาบุคคล แต่ว่าเฉินโม่รู้ว่าเขายังไม่ค่อยรู้เรื่องของจักรวาลมากนัก