แดนนิรมิตเทพ - บทที่1302
อย่าคิดว่าผมไม่รู้ ในใจของคุณนั้นคิดอยากจะไปจากที่นี่ก่อน เพื่อไปหาคนช่วย จากนั้นก็ค่อยมาจัดการผม หากเป็นตัวคุณเอง คุณจะเก็บศัตรูแบบนี้ไว้มั้ย?”
รอยยิ้มบนใบหน้าของหลิ่วสือหายไปแล้ว สิ่งที่มาแทนที่คือสีหน้าที่ชั่วร้าย เขารู้ว่าเฉินโม่ไม่คิดที่จะปล่อยเขาไป
“ไอ้หนู แกฆ่าลูกชายฉัน แล้วยังฆ่าผู้อาวุโสใหญ่ของตระกูลหลิ่วอีก ความแค้นนี้ทำให้ฉันไม่สามารถอยู่ร่วมโลกกับแกได้ ฉันเกลียดแกจนอยากจะสับแกเป็นหมื่นๆชิ้น และฆ่าล้างครอบครัวของแก!”
เฉินโม่มองเขาอย่างเย็นชา น้ำเสียงยิ่งเยือกเย็น “คุณไม่มีโอกาสแล้ว!”
แววตาของหลิ่วสือกะพริบผ่านด้วยแรงสังหาร ทันใดนั้นก็ชกหมัดไปทางหลี่ซู่เฟิน
เฉินโม่แค่ชี้นิ้วออกไป กระบี่ไร้เทียมทานก็ขยายใหญ่ขึ้น แล้วฟันไปบนหัวของหลิ่วสือ
ฉึบ!
แค่กระบี่เดียว ผู้บำเพ็ญแดนมองขวัญชั้นสูงสุด ก็ตายอย่างน่าอนาถ!
“ท่านผู้นำ!”
คนของตระกูลหลิ่วต่างก็มองไปทางเฉินโม่ แววตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว พวกเขาคิดไม่ถึงเลยแม้แต่นิดเดีย โลกบู๊โบราณเพิ่งปรากฏขึ้นในโลก คู่ต่อสู้ที่พวกเขาเจอคนแรก กลับเป็นผู้แข็งแกร่งแดนเทพ
เฉินโม่มองคนของตระกูลหลิ่ว กระบี่ไร้เทียมทานค่อยๆลอยขึ้นอีกครั้ง
หลี่ซู่เฟินที่อยู่ด้านหลังตะโกนห้ามอย่างร้อนใจ “เสี่ยวโม่ พอได้แล้ว!”
เฉินโม่รู้ว่าความคิดของแม่เขายังคงถูกครอบงำจากทางโลก ไม่อยากให้เขาสร้างบาปไปมากกว่านี้
แรงสังหารบนตัวของเฉินโม่ค่อยๆหายไป มองคนของตระกูลหลิ่วที่ใบหน้าซีดเผือด พูดอย่างเย็นชา “ไสหัวไป หากยังกล้ามาหาเรื่องอีก จะไม่ปล่อยไปแม้แต่คนเดียว!”
คนของตระกูลหลิ่วต่างก็โล่งใจ รีบถอยกลับไปในทันที
เฉินโม่หันไปมองหลี่ซู่เฟินกับ เวินชิง กล่าวด้วยสีหน้าที่ขอโทษ “แม่ครับ ทำให้พวกแม่ตกใจแล้ว!”
หลี่ซู่เฟินส่ายหัว “ไม่เป็นไร ว่าแต่ว่าลูกได้ฆ่าลูกชายเขาหรือเปล่า?”
หลี่ซู่เฟินชี้ไปยังหลิ่วสือที่เป็นศพอยู่บนพื้นแล้วถาม
เฉินโม่ส่ายหัว “ไม่ได้ฆ่า เรื่องนี้มันสลับซับซ้อนอย่างมาก คาดการณ์ว่าจะน่ามีคนอยากจะใส่ร้ายผม!”
หลี่ซู่เฟินขมวดคิ้ว “แล้วลูกรู้หรือไม่ว่าใครเป็นคนใส่ร้ายลูก?”
เฉินโม่ส่ายหัว “ไม่ทราบครับ แต่แม่สบายใจได้เลย ผมจะสืบให้แน่ชัด!”
“ตอนนี้ในโลกบู๊โบราณได้ปรากฏขึ้นบนโลก ช่วงนี้หัวเซี่ยอาจจะเกิดเรื่องวุ่นๆบ้าง แม่และเวินชิงต้องระวังความปลอดภัยด้วย หากพบเจอเรื่องอะไร ต้องบอกผมเป็นอันดับแรก!” เฉินโม่กำชับอย่างจริงจัง
หลี่ซู่เฟินพยักหน้า “จ้า แม่จำขึ้นใจแล้ว!”
สายตาของเฉินโม่มองไปทางเฉินซงจื่อ แล้วกล่าว “นายมากับฉัน!”
“ครับ!”
ในห้องพักผ่อน เฉินโม่มองเฉินซงจื่อ แล้วกล่าว “ตอนนี้โลกบู๊โบราณปรากฏขึ้น ความสามารถของนายแม้จะถึงขั้นแดนมองขวัญ แต่ยังคงอ่อนอยู่บ้าง”
พูดจบ เฉินโม่ก็หยิบหินทิพย์สิบลูกออกมา มอบให้กับเฉินซงจื่อ “หินทิพย์พวกนี้นายเอาไป แล้วรีบบำเพ็ญพลังให้มันถึงพลังแดนเทพโดยเร็ว!”
เฉินซงจื่อโค้งเคารพ “ขอบคุณอาจารย์อย่างมาก!”
“ต่อไปที่นี่ต้องอาศัยนายช่วยดูแล ขอเพียงพบเจอปัญหาที่ไม่สามารถจัดการได้เอง ให้รีบโทรหาฉัน!” เฉินโม่สั่งการ
“รับทราบครับ!”
เฉินโม่มองเฉินซงจื่อ ครุ่นคิดในใจ “ตอนนี้แม้ว่าฝีมือของเฉินซงจื่อจะไม่อ่อนแล้ว อย่างไรเสียงพลังยังอ่อนอยู่ ดูแล้วต้องให้เขาพัฒนาพลังหน่อยแล้ว”
“ใช่แล้ว ฉันมียาบำรุงอยู่บ้าง นายสามารถใช้มันไปดึงตัวเหล่านักบู๊มาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้เรา คนมากหน่อยมันก็มีประโยชน์อยู่แล้ว อย่างไรก็ตามไม่ใช่ว่าใครก็เอามานะ ต้องดูนิสัยด้วยใจคอด้วย” เฉินโม่กล่าว
“ศิษย์เข้าใจแล้ว!” เฉินซงจื่อโค้งตัวกล่าว
เฉินโม่พยักหน้า ในใจยังเป็นห่วงความปลอดภัยของเจี่ยจวินเซี่ย ไม่สามารถที่จะเสียเวลาได้อีกต่อไปแล้ว
“ฉันยังมีธุระ ต้องไปก่อนแล้ว ช่วยเรียนแม่ของฉันด้วย!”
“ครับ!”
เฉินโม่ออกจากเหม่ยหัว กรุ๊ป เตรียมตัวมุ่งหน้าไปยังเหลียวโจว ไปบ้านของเจี่ยจวินเซี่ย
แต่ว่าโทรศัพท์ของเฉินโม่ดังขึ้น เป็นสายของเจียงเหอซานโทรมา
เจียงเหอซานโดยปกติแล้วจะไม่โทรหาโดยพร่ำเพรื่อต้องมีเรื่องอย่างแน่นอน
“เจียงโส่วจ่าง มีอะไรสั่งการหรือ?” หลังจากรับสาย เฉินโม่ถามขึ้น
“นายมาที่ยานจิงหน่อย มีเรื่องต้องบอกกับนาย” น้ำเสียงของเจียงเหอซานจริงจังมาก