แดนนิรมิตเทพ - บทที่1305
หน้าตาของสองคนนี้ไม่ใช่คนหัวเซี่ย อีกอย่างบนร่างกายนั้นซ่อนเร้นพลังที่แข็งแกร่งเอาไว้ นอกจากองค์กรเทพมรณะแล้ว เฉินโม่ก็คิดไม่ออกว่าจะเป็นใคร
“คิดไม่ถึงเจียงเหอซานเพิ่งจะเตือนไปเมื่อกี้ คนพวกนี้ก็ตามหาฉันเจอแล้ว องค์กรเทพมรณะนี้ ดูถูกไม่ได้เลยจริงๆ”
“ฮ่าๆ เฉินไต้ซือ ตอนนี้ก็ให้พวกเราส่งคุณไปลงนรถเถอะ!” ชายชุดดำคนนั้นหัวเราะแปลกๆ เสียงหัวเราะโหดเหี้ยม
“พูดมากกับเขาทำไม ลงมือได้เลย!” ชายชุดขาวพูดจบ สองมือก็พนมอยู่ตรงหน้าอก ก็สวดคาถา แล้วผลักสองมือออกในทันที
แสงสีขาววงกลมก็พุ่งเข้าหาเฉินโม่ พละกำลังนี้เทียบได้กับพลังจู่โจมทั้งหมดของปรมาจารย์แดนคุ้มกาย
“ดูของฉัน!” ชายชุดดำตะโกนอย่างแปลกๆไปหนึ่งที ร่างกายก็หายไปในทันที วินาทีต่อมาก็ไปโผล่บนหัวของเฉินโม่
เฉินโม่ยังยืนตระหง่านโดยไม่ขยับ ในที่สุดเขาก็ก้าวออกไปอย่างฉับพลัน หมัดเทพเทียนเสวียนท่าที่สามก็ชกออกไป
พื้นที่ว่างบนชั้นดาดฟ้าทั้งหมดดูเหมือนจะสั่นสะเทือน และพลังสวรรค์พิภพที่อยู่โดยรอบก็ถูกดูดหมดไปอย่างบ้าคลั่ง
พรึบ!
นักฆ่าสองคนก็ลอยออกไปโดยตรง
“ไอ้หนู่คนนี้เก่งมาก กาลิโอ เร็วเข้า!” ชายชุดดำกระเทือนจนลอยออกไป ลอยอยู่กลางอากาศ ตะโกนใส่เพื่อนของเธอ
เฉินโม่จับจ้องอยู่ตรงหน้าอกของชายชุดขาวที่สะเทือนลอยออกไป เขารู้สึกถึงคลื่นพลังอันแข็งแกร่งที่ซ่อนเร้นอยู่ คลื่นพลังนี้ทำให้เฉินโม่มีความรู้สึกเหมือนเคยเห็นมาก่อน ก็ตอนอยู่ในสนามรบห้าประเทศนักบุญคอบร้าของประเทศอินก็มีพลังที่ซ่อนเร้นแบบนี้เลย
กาลิโอเด็ดขาดและตัดสินใจได้เร็วมาก ท่าแรกจู่โจมไม่โดนศัตรู ก็รีบหยิบรูปแกะสลักสีขาวขนาดเล็กออกมาจากอกของเขาทันที มันเป็นตัวประหลาดที่มีปีกหนึ่งคู่
เมื่อกาลิโอหยิบรูปแกะสลักออกมา พลังที่แข็งแกร่งก็ปรากฏขึ้นมาในทันที
กาลิโอที่จับรูปแกะสลักเอาไว้ แล้วตบไปที่ตำแหน่งหัวใจของตัวเองในทันที
“อ้า!”
กาลิโอกรีดร้องอย่างเจ็บปวดไปหนึ่งครั้ง แสงสีขาวที่แทงตาก็พุ่งออกมาจากหัวใจของเขา รูปแกะสลักนั้นได้หายไปแล้ว และร่างของกาลิโอก็เริ่มเลือนราง
บนตัวของกาลิโอก็เปล่งแสงที่สีขาวที่ทรงพลังออกมา แสงนั้นแทงตาจนลืมไม่ขึ้น พลังอันศักดิ์สัทธิ์ที่มหาศาลก็บันดาลออกมา ร่างของกาลิโอกลับเต็มไปด้วยขน แผ่นหลังยังไม่ปีกอีกหนึ่งคู่ กลายเป็นตัวประหลาดในทันที
ร่างกายของกาลิโอเปล่งแสงศักดิ์สิทธิ์อันทรงพลังออกมา พลังเช่นนี้สามารถส่งผลกระทบต่อจิตใจคนได้ และทำให้ผู้คนก็อดไม่ได้ที่อยากจะกราบไว้บูชา
นักฆ่าพวกนี้ทำงานได้เด็ดขาดมาก พลาดไปในครั้งแรก ก็รีบใช้ไพ่ใบสุดท้ายเลย ถ้าหากเป็นนักบู๊ของโลกฝึกบู๊ ก่อนที่จะใช้ไพ่ใบสุดท้าย ต้องคุยโวโอ้อวดก่อนอย่างแน่นอน
เฉินโม่มองกาลิโอที่แผ่กระจายไปด้วยแสงสีขาวอันเข้มข้นที่ลอยอยู่กลางอากาศ ใบหน้าจริงจัง “นึกไม่ถึงว่ามันก็คือทูตสองปีกของเผ่าศักดิ์สิทธิ์!”
“ดูเหมือนว่าบนโลกใบนี้จะมีลูกหลานของเผ่าศักดิ์สิทธิ์อาศัยอยู่จริง ช่างอยากรู้เสียงจริง บนโลกประวัติศาสตร์อันไกลโพ้นในยุคนั้น มันเป็นยังไงกันแน่?”
ชายชุดดำหัวเราะอย่างดีใจ “เฉินไต้ซือ เทพอันดับหนึ่งของหัวเซี่ย คนอย่างหัวเซี่ยคู่ควรที่จะถูกขนานนามว่าเทพด้วยเหรอ? เดี๋ยวฉันจะให้นายดู อะไรคือเทพที่แท้จริง!”
หลังจากที่เขาพูดจบ กาลิโอก็พูดเสริมทัพอย่างร่วมมือ
“เทพพูดว่ามีแสง ก็ต้องมีแสง!”
เสียงของเขาไพเราะมาก ชัดเจนและอ่อนโยน ให้ความรู้สึกถึงสายลมแห่งฤดูใบไม้ผลิ
สองมือของเขาก็กางออก ทำเป็นรูปสามเหลี่ยน แล้วผลักไปทางเฉินโม่โดยตรง
แสงสีขาวคล้ายน้ำนมที่ทรงพลัง แฝงไว้ด้วยพลังที่ศักดิ์สิทธิ์ ดูเหมือนจะชำระล้างทุกสิ่ง พุ่งเข้าหาเฉินโม่จากช่องว่างระหว่างมือของกาลิโอ