แดนนิรมิตเทพ - บทที่1306
เฉินโม่เฝ้าดูการโจมตีที่ทรงพลังของกาลิโอ ด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย “ถ้าหากแกเป็นคนของเผ่าศักดิ์สิทธิ์จริงๆ บางทีฉันอาจจะยอมให้แกบ้าง แต่ก็น่าเสียดายที่แกไม่ใช่ แค่พลังแสงแค่เนี้ยนะ ก็กล้ามาอวดดี ในตอนนั้นแม้แต่ทูตหกปีกของเผ่าศักดิ์สิทธิ์ ฉันยังเคยฆ่ามาแล้วเลย!”
หลังพูดจบ กระบี่ไร้เทียมทานก็กลายเป็นแสงทอง ปรากฏขึ้นตรงกลางฝ่ามือของเฉินโม่
“ทำลายล้าง!”
เฉินโม่พูดคำนี้อย่างราบเรียบ กระบี่ไร้เทียมทานก็กลายเป็นมีดที่ยาวห้าฟุต เปล่งแสงไปทางกาลิโอ แล้วได้ฟันลงไป
แสงสีทอง แสงสีขาว เหมือนมังกรยักษ์ที่สีไม่เหมือนกันสองตัว กำลังปะทะอยู่กลางอากาศ
ฉึบ!
ราวกับว่าม่านถูกฉีกเป็นรู และแสงสีทองก็ทะลุผ่านแสงสีขาวโดยตรง พุ่งเข้าหากาลิโอโดยไม่ลดละ
กาลิโอตกตะลึง รีบวาดรูปกางเขนบนหน้าอกด้วยมือทั้งสองข้าง และผลักมันออกไปอย่างแรง
แสงวงกลมสีขาวน้ำนมมาขวางไว้ตรงหน้าเขา กลายเป็นเกราะป้องกันพลังงาน ขวางกั้นพลังกระบี่ของเฉินโม่ที่กำลังจู่โจมเขา ป้าง!
พลังที่เหลืออยู่จากกระบี่ที่จู่โจมของเฉินโม่ กระทบกับเกราะป้องกันพลังของกาลิโอ แม้ว่ามันจะไม่ได้ทำลายเกราะป้องกันให้แตกละเอียด แต่มันก็ได้ทำให้กาลิโอตีลังกาลอยออกไป
“ไอ้หนูคนนี้เก่งมาก กาลิโอ เราต้องสู้ยิบตาแล้ว!” ชายชุดดำตะโกนพูดอย่างเสียงดัง
กาลิโอสีหน้าหนักใจ และไม่ได้พูดอะไร เงยหน้ามองไปบนท้องฟ้า หลับตาลง สองมือพนมอยู่ตรงหน้าอก
กาลิโอกำลังสวดคาถา “แสงศักดิ์สิทธิ์แห่งเทพ สาดส่องไปทั่วใต้หล้า ขจัดสิ่งชั่วร้ายทั้งหมด!”
พูดจบ เขาก็ลืมตาขึ้นมาทันที แสงศักดิ์สิทธิ์สองดวงก็พุ่งออกมาจากดวงตาของเขา
“เทพลงทัณฑ์!”
แสงสีขาวเล็กน้อยเหมือนจะมาจากทั่วทุกมุมโลก ได้กลายเป็นเสาแสงศักดิ์สิทธิ์หนาเท่าถังในพริบตา ล็อกเฉินโม่เอาไว้
การโจมตีของชายชุดดำได้เตรียมพร้อมไว้แล้ว หอกสีดำก็ปรากฏขึ้นเหนือหัวของเขา เปล่งพลังที่น่าสะพรึงกลัวออกมา
“หอกแห่งความหายนะ!”
เฉินโม่กำลังเผชิญกับภัยอันตราย สีหน้ายังคงสงบนิ่ง ราวกับเป็นผู้นำดวงดาวที่ไม่ธรรมดา
“แม้ว่าพลังจะแข็งแกร่ง แต่พวกแกนั้นไม่เข้าใจแดนเทพของหัวเซี่ยเลยแม้แต่นิดเดียว มันคือการหลอมรวมกันของฟ้าดิน เป็นดินแดนของทูตสวรรค์ ไม่ใช่คนบ้าบิ่นที่เอาแต่แสวงหาพลังอย่างแกที่จะเทียบได้!”
“แม้ว่าฉันจะไม่เคยถึงขั้นแดนเทพ แต่วันนี้ฉันจะแสดงพลังแดนเทพให้พวกแกได้เห็นเป็นบุญตา จะได้ไม่กล้าสบประมาทหัวเซี่ยอีก!”
เฉินโม่เขย่งปลายขา คนทั้งคนก็ลอยไปอยู่กลางอากาศ จับจ้องไปยังอากาศที่ว่างเปล่า
พื้นที่ตรงนั้นบิดเบี้ยวอย่างกะทันหัน พลังสวรรค์ภิภพ ในรอบพันเมตรเริ่มพุ่งเข้าหาเฉินโม่อย่างบ้าคลั่ง
“ฉันคือท้องฟ้า ท้องฟ้าก็คือฉัน!”
เฉินโม่ตะโกนเบาๆ ดึงฝ่ามือของเขากลับมาทันที และได้ชกหมัดออกไปโจมตีเขาทั้งสองในพริบตา
ไม่มีพลังที่น่ากลัวเลยแม้แต่นิดเดียว หรือไม่แม้แต่จะมีการเคลื่อนไหว มันเหมือนกับว่าหมัดนั้นไม่มีแรง เหมือนกับทารกที่กำลังโบกมืออย่างซุกซน
แต่ว่าการโจมตีของกาลิโอและพวกกลับหยุดอยู่กลางอากาศในทันที ไม่สามารถที่จะขยับมาได้เลยแม้แต่นิดเดียว
“มันยังไงกันแน่!”
กาลิโอและพวกตกตะลึง กัดฟันและเร่งพลังอย่างต่อเนื่อง
แต่ว่าไม่ว่าพวกเขาจะเร่งพลังยังไง การรุกโจมตีของเขาทั้งสองไม่เพียงแต่ไม่สามารถเข้าไปได้ แต่กลับเริ่มถอยหลัง
ราวกับว่ามีฝ่ามือไร้รูปขนาดใหญ่กำลังผลักให้พวกเขาถอยหลัง
เมื่อเห็นว่าพลังที่พวกเขาปล่อยออกไป กำลังจะย้อนกลับมาบนตัวของพวกเขา กาลิโอและพวกหวาดกลัวอย่างมาก
“ให้ตายสิ นี่มันผีชัดๆ!”
ชายชุดดำตะโกน “กาลิโอ ไอ้หนูคนนี้เก่งเกินต้านแล้ว เราถอยกันเถอะ!”
กาลิโอมองเสาแสงศักดิ์สิทธิ์ที่กำลังจะย้อนกลับมาอย่างไม่พอใจ เขารู้ว่าพลังเทพลงทัณฑ์นั้นแข็งแกร่งแค่ไหน
“ไป!” กาลิโอตะโกนอย่างโกรธเคือง
“แย่แล้ว ฉันขยับตัวไม่ได้!” ทันใดนั้นชายชุดดำก็ร้องอย่างหวาดกลัว
กาลิโอหน้าซีดเผือด ฉันก็เหมือนกัน
“เราถูกพลังที่แข็งแกร่งพันธนาการเอาไว้แล้ว!”
เฉินโม่มองเขาทั้งสองคนอย่างเย็นชา ค่อยๆพูดขึ้น “แดนเทพผสานฟ้าดิน ในใต้หล้านี้ ฉันก็คือพระเจ้า พลังทุกอย่างมีไว้เพื่อฉัน พวกแกยังอยากจะหนีอีกมั้ย?”