แดนนิรมิตเทพ - บทที่1330
เฉินโม่ไม่ตอบ ทันทีนั้นก็เดินไปหาโจรคนที่อยู่ใกล้ที่สุดนั้นทีละก้าวทีละก้าว
“แกอย่าเข้ามานะ!” โจรคนนั้นยังถือปืนอยู่ในมือกลับก้าวถอยด้วยความตกใจ ขาทั้งคู่สั่นอย่างเห็นชัด
“เอ้า….” โจรคนนั้นตัดสินใจเหนี่ยวไกปืน ลูกกระสุนสาดพุ่งเข้าใส่เฉินโม่ แต่ลูกกระสุนพวกนั้นเข้าไปถึงแค่ห่างตัวของเฉินโม่สักสามฟุตนั้น ทั้งหมดหยุดนิ่งกลางอากาศอย่างน่าประหลาด
เสียงดังเคร้ง ทั้งหมดร่วงลงอยู่บนพื้น
“โอ้แม่เจ้า ผี มีผี!” โจรคนนั้นตกใจโยนปืนทิ้งทันที เอามือกุมหัวคุกเข่าลงกับพื้น โขกหัวขอร้องกับเฉินโม่ “อย่าฆ่าผมนะครับ ผมเพิ่งจะมาทำแบบนี้เป็นครั้งแรก เพราะผมทนความจนไม่ไหว โปรดอย่าฆ่าผม….”
เฉินโม่เดินผ่านข้างตัวโจรคนนั้นไป มือก็ไม่ได้ขยับ พลังปราณมังกรที่แข็งกร้าวเปล่งออกมาจากตัวของเขา โจรคนนั้นถึงกับเลือดทะลักออกมาทั้งเจ็ดทวาร ตายไปอย่าอนาถคาที่!
“มีบางเรื่องเมื่อทำลงไปแล้ว ก็จะต้องรับผิดชอบกับผลที่ต้องเกิด”
เฉินโม่พูดด้วยเสียงราบเรียบ มุ่งหน้าก้าวไปหาโจรคนถัดไป
“ยิง ยิง กูไม่เชื่อหรอกว่าจะยิงมันไม่ตาย!” หัวหน้าโจรทั้งกลัวทั้งโกรธ คำรามออกไปลั่น
ตับ ๆ ๆ ๆ…………
เสียงปืนดังขึ้นอีกเป็นตับถี่ยิบ แต่ก็เหมือนสภาพก่อนหน้านี้ ลูกกระสุนไปถึงห่างตัวเฉินโม่อยู่สามฟุตก็หยุดกึก แล้วก็ร่วงลงพื้น ส่งเสียงติ๊งตั๊งเคร้งคร้าง
“ไปแล้วโว้ย!” โจรคนที่เห็นเฉินโม่เดินเข้ามาถึงตัว ตกใจกลัวรีบทิ้งปืนทันที หันหลังกลับเตรียมวิ่งหนี
เฉินโม่ชี้นิ้วไป ท้ายทอยของโจรคนนั้นทะลุเป็นรู ล้มกลิ้งลงกับพื้น แล้วชีวิตก็จบ
“ท่านเซียน ท่านเซียนเทพ พวกเราผิดไปแล้ว ได้โปรดปล่อยพวกเราไปเถอะ พวกเราขอยกทรัพย์สินที่พวกเรามีทั้งหมดให้ท่าน!” ตัวหัวหน้าโจรเองกลัวเข้าจริง ๆ แล้ว คุกเข่าลงกับพื้นโขกหัวขอชีวิต น้ำหูน้ำตาไหลทะลัก
ใบหน้าเฉินโม่ไม่มีอาการใด ๆ แสดง หยุดก้าวเดิน สายตามองกวาดใส่พวกโจรที่ยังเหลืออยู่ พูดเสียงชืด ๆ “ฉันบอกแล้ว มีบางเรื่องเมื่อทำลงไปแล้ว ก็จะต้องรับผิดชอบกับผลที่ต้องเกิด”
พูดจบ กระแสพลังปราณมังกรก็แผ่กระจายออกจากตัว พวกโจรคนธรรมดาเหล่านี้ไม่มีทางจะต้านรับได้ แต่ละคนเลือดทะลักออกทั้งเจ็ดทวาร ตายอย่างอนาถอยู่กับที่
เฉินโม่หันตัวกลับมองไปที่จูเทียนเหลียง พูดว่า “ตอนนี้ คุณเข้าใจแล้วนะว่าอะไรที่เรียกว่ามดปลวก”
จูเทียนเหลียงตกใจจนหน้าซีดเผือดไปตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว ของเหลวสายหนึ่งค่อย ๆ เยิ้มไหลออกจากหว่างขา ส่งกลิ่นฉุนกึก
คนที่อยู่ทั้งหมดต่างคุกเข่า โขกหัวให้กับเฉินโม่ ส่งเสียงกันไปว่า “ขอบพระคุณท่านเซียนเทพที่ช่วยชีวิตพวกเรา!”
ผู้หญิงคนนั้นมองไปที่เฉินโม่ แววตาทอประกายแสงเจิด “ที่แท้เขาเก่งกาจถึงขนาดนี้เลยเชียว สายตาเราดูไม่ผิดจริง ๆ!”
จูเทียนเหลียงเหมือนว่าจะเพิ่งคืนสติได้ รีบโขกหัวให้กับเฉินโม่ โขกกันชนิดเรียกว่าเต็มที่ เสียงดังฟังชัด
“ท่านเซียนเทพ ผมผิดไปแล้ว ผมมีตาไม่มีแวว กระทบกระทั่งท่านเซียน ขอท่านเซียนได้โปรดไว้ชีวิตด้วย!”
เฉินโม่ไม่ได้ไปใส่ใจกับเขา มุ่งออกจากไป เดินขึ้นไปบนดาดฟ้าเรือ
บรรดาเศรษฐีอิทธิพลทั้งหลายก็รีบยืนกันขึ้นมา เดินตามหลังเฉินโม่ออกไป ศพคนตายอยู่กับพื้นห้องโดยสาร ไม่มีใครจะยอมอยู่ด้วย
เบื้องหน้า แผ่นดินก็ได้เริ่มให้เห็นกันลิบ ๆ แล้ว เฉินโม่ยืนมองอยู่บนดาดฟ้าเรืออยู่พักหนึ่ง จู่ ๆ ก็ถีบตัวขึ้น กระโดดลงไป
“อ้าว เซียนเทพกระโดดน้ำ!”
“เป็นไปได้ยังไง เซียนเทพมีอะไรถึงกับคิดไม่ตกนะ!”
ทันใดนั้น มีใครคนหนึ่งชี้ไปที่ทะเล ตะโกนพูดว่า “พวกคุณดู ท่านเซียนไม่ได้คิดไม่ตก แต่ท่านเหาะจากไปแล้ว!”
สายตาของทุกคนก็มองไปตามนิ้วที่เขาคนนั้นชี้ไป ก็เห็นที่อยู่บนท้องน้ำทะเล มีเงาร่างที่ปราดเปรียวเงาหนึ่ง เดินก้าวฝ่าคลื่นไป พริบตานั้น ก็เหลือเพียงจุดดำเล็ก ๆ
“เซียนนะ นั่นคือเซียนแท้ ๆ เลยนะ พวกเรากลับพลาดโอกาสกับเซียนไปท่านหนึ่ง!”
หลายคนตีอกชกหัวใจ เสียดายกับตัวเองที่ไม่สามารถตีสนิทด้วยได้ ถ้าหากได้รับเมตตาจากท่านเซียน โปรดให้ยาเซียนอะไรก็ได้สักเม็ด พวกเขาก็กินใช้ไม่หมดแล้วในชาตินี้!
จูเทียนเหลียงนั่งกระแทกก้นลงกับพื้นดาดฟ้าเรือ ท่าทางหมองทื่อ เขาดันผ่าไปกระทบกระทั่งเซียนเทพท่านหนึ่ง!
มิน่าตอนที่เขาแนะนำตัวเขาในฐานะคุณชายใหญ่ของกวงอานกรุ๊ป เฉินโม่ยังมองเขาไม่ขึ้นเลย ถึงแม้เขาจะมีเงินทองมากมาย แล้วจะมีอะไร?
เทียบกับเซียนเทพที่กำความเป็นความตายอยู่ในมือ เขาจะนับประสาอะไร?
ที่ยิ่งน่าหัวเราะเอามากคือ เขาถึงกับไปเยาะเย้ยคนระดับเซียนเทพนั้นเป็นมดปลวก…..
อะไรเล่าคือมดปลวก พวกเขาเองนั้นแหละมดปลวกที่แท้จริง!
แม่หญิงคนนั้นมองไปตามทิศทางที่เฉินโม่จากไป แววตาเต็มไปด้วยความสะทกสะท้าน แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกเจ็บแค้นอยู่ในใจ ถ้าหล่อนใช้ตัวรุกคืบมากกว่านี้หน่อย ก็คงอาจจะได้มีอะไรอะไรกับเซียนเทพซักหน่อยแล้ว……
แต่ว่า พลาดไปแล้วก็คือพลาด ไม่มีถ้าหากว่าแล้ว