แดนนิรมิตเทพ - บทที่1336
“ฟันกลางอากาศ!”
โอคาโมโตะ เมอิจิพักหยุดนิดหนึ่ง แล้วรีบกระโดดขึ้น สองมือกุมมีดดาบซามูไร ลอยตัวพุ่งเข้าหาเฉินโม่ ฟันใส่จากบนลงล่าง
ไม่เห็นเงาแสงมีดดาบ ไม่มีกระแสเฉียบประกายมีดดาบ ดูเหมือนไม่มีอานุภาพใด ๆ รุนแรงของมีดดาบ
แต่ เฉินโม่ไม่กล้าประมาทได้ ก้าวขาขึ้นไปก้าวหนึ่ง “หมัดเทพเทียนเสวียนในกระบวนท่าที่สาม ปรับฟ้าดิน”
ปัง!
เสียงดังสนั่น คลื่นอานุภาพพลังกระจายออกเป็นวงกลมใสแผ่ออกไปรอบด้านอย่างรวดเร็ว
พื้นหินกรวดที่เฉินโม่ยืนอยู่ ดูเป็นลายเส้นกระดองเต่า แตกเป็นริ้วร่องกว้างออกไปทุกตารางนิ้ว
โอคาโมโตะ เมอิจิถูกกระแทกถอยออกไปหลายก้าว ส่วนเฉินโม่ยังคงปักหลักยืนนิ่งกับที่ ดูไม่เห็นมีอะไรกระทบกระเทือน
โอคาโมโตะ เมอิจิสีหน้าเครียดหนัก มือทั้งคู่กำมีดดาบยกชูสูงขึ้น แต่การเคลื่อนไหวในครั้งนี้ดูเชื่องช้ามาก เหมือนคนแก่ทรุดโทรมใกล้หมดลม ยกมีดดาบที่แสนจะหนักมาก ๆ ขึ้น
“ลมถล่มบ้า!”
หลังจากโอคาโมโตะ เมอิจิเงื้อมีดดาบนั้นขึ้นมาแล้ว ความเร็วของเขาก็เปลี่ยนเร็วขึ้นเป็นที่สุดในฉับพลัน เพียงวินาทีนั้น ฟันเข้าใส่เฉินโม่กว่าร้อยครั้ง
คมดาบใสมองทะลุจำนวนนับไม่ถ้วน เหมือนลูกศรนับกันไม่ทัน ระดมมาจากรอบทิศ พุ่งใส่เฉินโม่ราวห่าฝน
เฉินโม่ทำมือวางมุทรา กระบี่สับสวรรค์ฉวัดเฉวียนวนว่อนรอบตัวอย่างรวดเร็ว เสียงติ๊งตั๊งเคล้งคล้าง คมมีดดาบที่ควบแน่นด้วยพลังเหล่านั้น ล้วนถูกสกัดด้วยกระบี่สับสวรรค์ เกิดเสียงกังวานดังไม่ขาดสาย
“รวมระดมฟัน!”
โอคาโมโตะ เมอิจิเห็นกระบวนท่าที่สองยังไม่สามารถบรรลุเป้า ถีบตัวลอยตัวขึ้นทั้งตัว ทั้งร่างเปล่งประกายเป็นแสงเหมือนกันกับประกายแสงของมีดดาบซามูไร
เกิดกระแสนี้ขึ้น ฟ้าดินเหมือนอับแสงลงไปในทันที เหมือนทั้งฟ้าทั่วทั้งพื้นดิน มีเงาร่างของโอคาโมโตะ เมอิจิอยู่เพียงหนึ่งเดียว
“ผสานคนกับมีดดาบเป็นหนึ่งเดียว!”
เฉินโม่ตื่นตระหนกขึ้นมาเล็กน้อย เพลงดาบนี้เทียบกับแสงอาทิตย์ร้อนแผดเผาของหนานกงหยู่ได้อย่างไม่แพ้กันเลย เผลอ ๆ อาจจะเหนือกว่าอีกขั้นด้วยซ้ำ
ดูท่าว่าที่โอคาโมโตะ เมอิจิบอกได้เข้าถึงแดนเทพถึงปีสามแล้ว ไม่ใช่เรื่องคุยส่ง เทียบกับหนานกงหยู่ที่เพิ่งเข้าถึงแดนเทพ ต้องว่าเก่งกาจกว่าไม่น้อย
เฉินโม่ก็ไม่กล้าทำช้า กระบี่สับสวรรค์เหมือนหงส์ไฟเผาตัวดับสู่นิพพาน กู่ก้องเสียงสะท้านทั่วหล้า พุ่งฝ่าสวรรค์แดนฟ้า
ถ้าจะเปรียบโอคาโมโตะ เมอิจิในตอนนี้คือแจ่มจันทร์สว่างใส กระบี่สับสวรรค์ตอนนี้ก็คือแสงแดดแผดกล้า
“เก้ากระบวนกระบี่มหาธรรม….ท่าฉีกสวรรค์!”
กระแสคมเฉียบกระบี่เหมือนผ่านทะลุมิติบรรพกาล ฝ่ามาจากสุดปลายแดนฟ้า เหมือนจะใช่แสงเดียวกับฟ้าสมัยท่านผานกู่เปิดฟ้าสร้างโลก เจิดจ้าเคืองตา หาไม่มีสิ่งใดจะเทียบได้ในโลกใบนี้!
เสมือนกระบี่ที่ฟันออกไปนี้ ฟ้ายังต้องหลีกหลบ!
เทพขวางสังหารเทพ!พระขวางสังหารพระ!
ปัง!
เคล้ง!
มีดดาบซามูไรของโอคาโมโตะ เมอิจิ ถูกเฉินโม่ฟันขาดเป็นสองท่อน ทั้งมีดดาบทั้งคน ล้มร่วงลงกับพื้น
ส่วนด้านล่าง ถนนทางขนาดสิบเมตรที่ปูลาดด้วยหินกรวด ถูกพลังตกค้างของทั้งสองฝ่าย กระทบกระแทกกระจุยกระจาย หมดสภาพจนดูไม่ได้
ตัวร่างของโอคาโมโตะ เมอิจิ ตั้งแต่หัวไหล่ลงไปถึงน่องสะโพก มีรอยบาดแผลที่น่าสยดสยอง ถ้าหากไม่ใช่มีพลังปราณที่แข็งแกร่งป้องกันสภาพร่างไว้ ตอนนี้เขาคงต้องขาดออกเป็นสองซีกแล้ว
โอคาโมโตะ เมอิจิกระเสือกกระสนเงยหน้าขึ้น มองไปที่เฉินโม่ นัยน์ตาเต็มไปด้วยความหวาดผวา “เจ้า เจ้า….”
สุดท้าย เขาก็พูดอะไรไม่ออกอีก คอพับลง ตายสนิท
เฉินโม่หันหลังกลับ มองไปที่เรือนหลังเล็กข้างหน้า เขารู้ ผู้นำตัวจริงของบ้านตระกูลยามาดะหนีไปแล้ว
แต่ว่า ในเมื่อเฉินโม่กล้าปล่อยเขาหนีไป ก็ต้องมีปัญญาตามเขาได้
ยามาดะ อากียะเวลานี้ได้หนีออกไปทางประตูหลังตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว ขึ้นรถโตโยต้าคราวน์คันหนึ่ง กำลังมุ่งไปยังที่หลบภัยลับเฉพาะของคนบ้านตระกูลยามาดะ
แต่ทว่า เฉินโม่ได้ปักหมุดไว้ในตัวของเขาตั้งแต่แรกแล้ว ต่อให้เขาหนีไปถึงสุดขั้วฟ้าดิน ก็หนีไม่พ้นเงื้อมมือของเฉินโม่
เฉินโม่เรียกรถเช่ามาคันหนึ่ง ตามรอยเส้นทางที่ยามาดะ อากียะตรงไปยังที่หลบภัยลับเฉพาะของคนบ้านตระกูลยามาดะ
คนขับรถเช่าเหมามองเห็นสภาพสองข้างทางยิ่งไปยิ่งเปลี่ยว ในใจเริ่มรู้สึกหวาดกลัว พูดบ่นกีรีกูราในภาษาประเทศต้าเหอไปพักหนึ่ง
แต่ว่า เฉินโม่ฟังยังไงก็ไม่รู้เรื่อง เลยควักเอาธนบัตรที่แลกเป็นสกุลเงินประเทศต้าเหอออกมา โยนไว้ที่ข้างมิเตอร์
คนขับรถขยับแว่นมองด้วยสายตาละโมบ คว้าธนบัตรทั้งหมดนั้นเก็บ ผงกหัวโค้งคำนับให้กับเฉินโม่เป็นการใหญ่