แดนนิรมิตเทพ - บทที่1406
แน่นอน พลังความสามารถของชายวัยกลางคนพวกนี้ เมื่อเทียบกับชายหนุ่มเมื่อกี้แล้วแข็งแกร่งกว่ามาก
เฉินโม่กวาดมองไปหนึ่งที พบว่าในกลุ่มคนนี้ คนที่ด้อยที่สุดก็คือแดนปรมาจารย์ มีอยู่สองคน ที่ถึงขั้นปรมาจารย์แดนคุ้มกายแล้ว
“ตอนนี้น่าจะสามารถรับมือรูปน้ำแข็งแกะสลักพวกนั้นแล้วมั้ง?” หลินหยุนถอนหายใจ พูดด้วยเสียงเบา
“ปรมาจารย์ตั้งหลายคนออกโรงด้วยตัวเอง รูปน้ำแข็งแกะสลักพวกนี้จะต้านอย่างไร!” หนึ่งในศิษย์พี่ของหลินหยุนพูดขึ้น
เฉินโม่ไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่กำลังมองรูปน้ำแข็งแกะสลักพวกนี้อย่างปวดหัวเล็กน้อย จากการต่อสู้ของชายหนุ่มกับรูปแกะสลักน้ำแข็งเมื่อกี้ เฉินโม่รู้ถึงความสามารถของพวกมันแล้ว
รูปน้ำแข็งแกะสลักพวกนี้ไม่ใช่ปรมาจารย์ ไม่ใช่ปรมาจารย์แดนคุ้มกาย และก็ไม่ใช่ปรมาจารย์แดนมองขวัญ แต่เป็นแดนเทพไร้ความรู้สึก
รูปน้ำแข็งแกะสลักสิบกว่ารูป มันเกือบจะสามารถกวาดล้างพลังทั้งหมดของโลกใบนี้ รวมทั้งโลกฝึกบู๊ด้วย
เฉินโม่ไม่ได้บอกกับทุกคน เพราะเฉินโม่เข้าใจดี ต่อให้เขาพูดออกไป ก็ไม่มีคนเชื่อเขา
นักบู๊แดนเทพต่อให้อยู่ในโลกบู๊โบราณก็มีไม่มากนัก หากบอกว่ารูปน้ำแข็งแกะสลักพวกนี้เป็นแดนเทพ นักบู๊เหล่านี้คงยากที่จะยอมรับได้
ปรมาจารย์หลายสิบคนที่ออกไปสู้แล้ว มันก็ดีกว่าดีชายหนุ่มเมื่อกี้เล็กน้อย โดยส่วนใหญ่สามารถต้านได้เพียงหนึ่งดาบ ดาบที่สองก็ถูกฆ่าตายเสียแล้ว
มีเพียงแต่ปรมาจารย์แดนคุ้มกายสองคน ที่ดีหน่อย ภายใต้การต่อสู้กับรูปน้ำแข็งแกะสลัก สามารถต่อสู้ได้สามถึงห้ากระบวนท่า แต่สุดท้ายก็ไม่อาจรอดพ้นความตายนี้ไปได้ อย่างไรเสียพลังของแดนเทพกับพลังแดนคุ้มกายนั้นห่างกันมากทีเดียว ต่อให้รูปน้ำแข็งแกะสลักจะไม่มีความคิดเหมือนคน ไม่มีความรู้สึก ปฏิกิริยาการตอบโต้ก็ยังห่างชั้นกับแดนเทพจริงๆมาก และพลังก็ห่างกันมาก แต่ไม่ว่ายังไงพวกเขาก็คือแดนเทพ นอกจากที่ไม่มีความรู้สึกนึกคิด พลังของพวกเขาไม่ได้ด้อยไปกว่าของแดนเทพเลย
อย่างไรก็ตาม มันก็คือจุดอ่อนของรูปน้ำแข็งแกะสลักพวกนี้ แดนเทพคือการรวมพลังฟ้าดิน เพื่อนำพลังเข้าสู่ร่างกาย และควบคุมพลังฟ้าดิน นี่ถึงจะเป็นจุดที่แข็งแกร่งที่สุดของแดนเทพ
อย่างไรก็ตาม รูปแกะสลักน้ำแข็งที่ไร้ชีวิตและไร้ความคิดเหล่านี้ จะไม่มีทางได้รับพลังที่แข็งแกร่งที่สุดของแดนเทพ
แต่ว่า แม้มันจะเป็นอย่างนั้น พลังที่อยู่บนตัวของรูปน้ำแข็งแกะสลัก ก็ยังคงเหมือนของแดนเทพ ไม่ใช่สิ่งที่นักบู๊ธรรมดาจะสามารถต่อกรได้
“มันเป็นไปได้ไงเนี่ย? กลุ่มคนเมื่อกี้ล้วนเป็นปรมาจารย์ และยังมีสองคนที่พลังถึงขึ้นปรมาจารย์แดนคุ้มกายแล้ว กลับไม่สามารถเอารูปน้ำแข็งแกะสลักพวกนี้อยู่!” ชายชราท่านหนึ่งพูดด้วยสีหน้าที่ตกใจ
“รูปแกะสลักน้ำแข็งพวกนี้มีความสามารถระดับไหนกันแน่?” มีคนถามอย่างสงสัย
แต่ว่าไม่มีใครสามารถตอบเขาได้เลย ไม่มีคนรู้พลังความสามารถของรูปน้ำแข็งแกะสลักพวกนี้เลย
“พวกเราถอยกันก่อนดีกว่า ก่อนที่เรารู้ความสามารถของรูปน้ำแข็งแกะสลักพวกนี้ เราอย่าเพิ่งไปเสี่ยงเลย!” นักบู๊วัยกลางคนที่มีอำนาจบารมีในกลุ่มได้พูดขึ้น
“ผู้อาวุโสลู่พูดถูก พวกเราหลบออกมาก่อน แล้วมาหาจุดอ่อนของรูปน้ำแข็งแกะสลักพวกนี้” มีคนเห็นด้วยกับคำพูดของชายชรา
ทันใดนั้นเฉินโม่ก็ได้พูดขึ้น “รูปน้ำแข็งแกะสลักพวกมีพลังของแดนเทพ”
ทุกคนอึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็มองเฉินโม่อย่างตกตะลึง
“นายว่าอะไร? พลังแดนเทพ? ไอ้หนุ่มโง่คนนี้มาจากไหน ถึงได้กล้ามาปล่อยข่าวเขย่าขวัญที่นี่!” ผู้อาวุโสลู่คนนั้นตะคอก
“ใช่ แดนเทพมันคือแดนระดับไหน รูปน้ำแข็งแกะสลักธรรมดาพวกนี้จะมีพลังแดนเทพได้อย่างไร พูดไร้สาระจริงๆ!”
“ฮ่าๆ แดนเทพต้องรวมพลังฟ้าดิน นอกเสียว่านายคิดว่ารูปน้ำแข็งแกะสลักพวกนี้สามารถควบคุมพลังฟ้าดิน?”
“ฮ่าๆๆๆ………..”
ทุกคนคิดว่าคำพูดของเฉินโม่ไร้สาระ ในกลุ่มพวกเขาต่างก็รู้และเข้าใจพลังของแดนเทพเป็นอย่างดี พวกเขารู้ว่าพลังที่แข็งแกร่งที่สุดของแดนเทพคือการควบคุมพลังฟ้าดิน รูปน้ำแข็งแกะสลักที่ไร้ชีวิตเหล่านี้จะควบคุมได้อย่างไร จะใช้พลังฟ้าดินนี้ได้อย่างไร?
ดังนั้นพวกเขาจึงคิดว่าคำพูดของเฉินโม่นั้นไร้สาระ