แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 1027 แกว่งจนบินได้ บทที่ 1028 ถังถัง แพะรับบาปผู้เชี่ยวชาญ
- Home
- แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี
- บทที่ 1027 แกว่งจนบินได้ บทที่ 1028 ถังถัง แพะรับบาปผู้เชี่ยวชาญ
บทที่ 1027 แกว่งจนบินได้
พูดไร้สาระมามากขนาดนี้ ที่จริงใจความสำคัญมีแค่ประโยคเดียว นั่นคือเธอไม่เป็นกระบวนท่าอะไรทั้งนั้น แค่ฝึกท่ามั่วๆ แต่ผลลัพธ์กลับดูลึกลับและขี้โม้ถึงขนาดนี้
ขนาดเธอยังอดใจอยากกรี๊ดให้ตัวเองแทบไม่ไหว!
เยี่ยหวันหวั่นกระแอมเบาๆ เพื่อจบบทสนทนาเรื่องนี้ “อะแฮ่ม เอาละๆ วันนี้พอแค่นี้แล้วกัน!”
โม้ถึงแค่นี้พอ ถ้าโม้ต่อเธอต้องไปต่อไม่ถูกแน่
“พักนี้ฉันจะยุ่งๆ พรุ่งนี้ก็มีธุระต้องไปทำ ฝากบ้านให้พวกนายดูแลด้วย ดูแลนายน้อยให้ดีล่ะ!” เยี่ยหวันหวั่นกำชับ
ถึงแม้ซือเยี่ยหานบอกว่าซือหมิงหลี่หนีออกประเทศไปแล้ว ไม่น่าจะกลับมาอีก แต่ระวังไว้ก่อนย่อมดีกว่า
“ครับ / ค่ะ…” ได้ยินมาถึงตรงนี้ ทั้งห้าคนหดหู่ทันที แต่ก็ไม่กล้าขัดอะไร
เจ้านายไม่อยู่บ้าน นั่นก็เท่ากับฝันร้ายของพวกเขา ต้องถูกฝึกโหดอีกแล้ว…
“อ้อ ใช่สิ ชิงช้าของฉันทำเสร็จรึยัง?” เยี่ยหวันหวั่นถามด้วยความตื่นเต้น
ไฮดี้เกาหัวอย่างลำบากใจ “จะว่าเสร็จก็เสร็จแล้ว…”
“ถ้างั้นรีบพาฉันไปสิ!” เยี่ยหวันหวั่นพลันเอ่ยเร่ง
ไฮดี้ทำได้เพียงพาเยี่ยหวันหวั่นเดินเข้าไปในป่า เห็นเพียงระหว่างต้นไม้สูงใหญ่แข็งแรงสองต้นมีชิงช้าที่ดูมั่นคงแข็งแรงอยู่หนึ่งตัว
แต่สิ่งที่ต่างจากชิงช้าทั่วไปคือ ชิงช้าตัวนั้นถูกผูกไว้สูงมากเกินปกติ ถ้าหากเริ่มแกว่ง ต้องลอยไปถึงกลางอากาศได้แน่…
“เอ่อ เจ้านาย เจ้านายแน่ใจเหรอครับ…ว่าจะนั่งเจ้านั่น?” ไฮดี้มุมปากกระตุก
เยี่ยหวันหวั่นตรวจสอบเล็กน้อย ชิงช้าถูกทำขึ้นตามที่เธอสั่งทุกอย่าง มั่นคงแข็งแรงมาก มีเชือกนิรภัย ตัวที่นั่งยังทำขึ้นจากหนังอ่อนด้วย ตรงเชือกแกว่งประดับด้วยดอกไม้ จะเห็นได้ว่าทำด้วยความตั้งใจจริง
เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้าอย่างพอใจ “แน่นอนสิ! สุดยอดเลยนะเนี่ย แต่รู้สึกว่าน่าจะยังลอยได้ไม่สูงพอ เฮ้อ ช่างเถอะ เอาอย่างนี้แหละ! ไฮดี้ นายลองนั่งก่อนสักรอบซิ!”
“หา? ผมเหรอ” ไฮดี้ชี้หน้าตัวเองอย่างหวาดกลัว
“พรวด…” ถังปินที่ยืนอยู่ด้านหนึ่งหลุดขำ “ถ้าจะทดสอบว่าแข็งแรงหรือเปล่าก็ต้องให้นายนั่งอยู่แล้วสิ ก็นายตัวหนักสุดนี่!”
“แต่ว่า ฉันกลัวความสูงนี่!” “ไฮดี้ยิ่งกลัวกว่าเดิม
“เพื่อเจ้านาย นายเอาชนะความกลัวเล็กน้อยแค่นี้ไม่ได้เลยเหรอ?”
ถังปินกับซ่งเฉียงสบตากันแวบหนึ่ง จากนั้นก็ร่วมมือกันผลักไฮดี้ออกไป คนอื่นตายได้แต่ไม่ใช่ข้า!
ผ่านไปครู่หนึ่ง เสียงกรีดร้องโหยหวนของไฮดี้ก็ดังลั่นป่า
เยี่ยหวันหวั่นแหงนหน้ามอง “อืม ไม่เลว แข็งแรงมาก! เดี๋ยวฉันไปเรียกถังถังมาเล่นก่อนนะ!”
พอเห็นเจ้าอ้วนที่ลอยอยู่กลางอากาศ เยี่ยหวันหวั่นกระโดดโลดเต้นด้วยความเบิกบาน
ทหารรับจ้างทั้งห้าคนหมดคำจะพูด
เจ้านายนี่สุดยอดจริงๆ แม้แต่ชิงช้าก็ยังไม่เหมือนคนอื่น แกว่งสูงจนเหมือนจะบินได้อย่างนั้นแหละ…
“ถังถัง! ถังถัง! ลูกทำอะไรอยู่?” เยี่ยหวันหวั่นเข้ามาหาถังถังในบ้าน
“แม่ครับ ถังถังกำลังอ่านหนังสือครับ” เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นจากหนังสือ
เยี่ยหวันหวั่นรีบเดินเข้าไปจูงมือเด็กน้อยมา “โธ่เอ๊ย อย่ามัวแต่อ่านหนังสือเลย หนังสือไม่เห็นมีอะไรให้น่าอ่าน มาเร็ว แม่จะพาไปเล่นสนุก!”
“แต่ว่า ผมยังอ่านไม่จบเลย…” ถังถังลังเลเล็กน้อย
คนเป็นพ่อเป็นแม่ชอบให้ลูกตั้งใจอ่านหนังสือไม่ใช่เหรอ? เขาต้องเป็นเด็กดีตั้งใจเรียนหน่อยถึงจะดี!
“ไม่ได้ ไม่ให้อ่านแล้ว! ลูกอ่านมาตั้งครึ่งชั่วโมงแล้ว! เป็นเด็กก็ต้องเล่นสนุกให้เต็มที่สิ! อ่านหนังสืออะไรกัน!” เยี่ยหวันหวั่นจูงมือเด็กน้อยเดินไปทางป่านอกบ้าน
“ลูกรัก ดูนี่สิ!” เยี่ยหวันหวั่นชี้ชิงช้าที่สูงมากตัวนั้น
“แม่ครับ นั่นอะไร?” เด็กน้อยเอียงคอถามอย่างสงสัย
————————————————————————————-
บทที่ 1028 ถังถัง แพะรับบาปผู้เชี่ยวชาญ
เยี่ยหวันหวั่นพูดอย่างร่าเริง “นี่ก็คือชิงช้า ชิงช้าซูเปอร์จัมโบ้เวฟ! มาเร็ว พวกเราขึ้นไปลองนั่งกันเถอะ!”
เด็กน้อยได้ยินแล้ว ดวงหน้าที่สวยเหมือนหยกสลักก็สว่างไสวขึ้นมาก เด็กน้อยถูกเยี่ยหวันหวั่นดึงขึ้นไปนั่งอย่างระมัดระวัง
เยี่ยหวันหวั่นรัดเชือกนิรภัยให้เรียบร้อย จากนั้นก็หันไปบอกกับพวกไฮดี้ว่า “เอาละๆ ผลักได้เลย เอาสูงๆ เลยนะ!”
ไฮดี้กำลังนั่งอ้วกอยู่อีกด้าน ถังปินกับซ่งเฉียงจึงรีบรับคำแล้ววิ่งเข้าไป
ถังปินเอ่ย “ครับ เจ้านาย!”
ซ่งเฉียงเอ่ย “โอเคครับเจ้านาย!”
เจ้านาย…เล่นแบบนี้ก็ได้ด้วย…
เยี่ยหวันหวั่นหันไปพูดกับเจียวเจียวที่อยู่ด้านข้าง “เจียวเจียว อย่าลืมถ่ายรูปให้ฉันด้วยนะ!”
“ได้เลยค่ะเจ้านาย! เจียวเจียวเตรียมตัวเรียบร้อยแล้ว!” เจียวเจียวรีบหยิบมือถือออกมา
เหล่าเจียงยืนตั้งท่ารออยู่อีกด้านหนึ่งตลอดเวลา เผื่อเด็กน้อยกลัวจะได้รีบวิ่งเข้าไปหยุดชิงช้าทันเวลา
เขาไม่เคยเห็นใครเลี้ยงลูกอย่างนี้เลยจริงๆ…
“3 2 1 ไป!”
ถังปินกับซ่งเฉียงออกดึงชิงช้าไปข้างหลัง จากนั้นปล่อยมือทันใด…
แม่ลูกที่นั่งอยู่บนชิงช้าลอยขึ้นกลางอากาศ ต้นไม้ เสียงนก กลิ่นหอมของดอกไม้ กรีดผ่านใบหูไปตามสายลมอย่างรวดเร็ว…
“กรี๊ดดดดด! สนุกจังเลย! ถังถัง กลัวไหมลูก?”
เด็กชายกอดแม่ไว้แล้วส่ายหน้าแรงๆ เขาเบิกดวงตากลมโตมองป่าทึบ มองทะเลสาบไกลๆ ที่มองเห็นได้แค่ตอนลอยถึงจุดสูงสุดเท่านั้น บนดวงหน้าเล็กๆ ดูสดใสกว่าที่เคย
“งั้นชอบไหม?”
“ชอบครับ!”
“ฮ่าๆๆ ไม่มีใครรู้ใจลูกเท่าคนเป็นแม่แล้วจริงๆ! แม่ว่าแล้วว่าลูกต้องชอบ!”
……
เยี่ยหวันหวั่นกำลังเล่นกับลูกชายอย่างสนุกสนาน ในห้องหนังสือ ซือเยี่ยหานที่กำลังจัดการเอกสารได้ยินเสียงหัวเราะของเยี่ยหวันหวั่น จึงเดินไปเปิดหน้าต่างดูด้วยความสงสัย
จากนั้นเขาก็เห็น…ภาพที่ทำให้เขาต้องหน้าบึ้งตึงทันที…
เยี่ยหวันหวั่นพาถังถังนั่งอยู่บนชิงช้าตัวใหญ่ แกว่งไปแกว่งมาอยู่กลางอากาศ…
ซือเยี่ยหานถึงขั้นไม่รู้ว่าตัวเองควรทำหน้าแบบไหน เนิ่นนานถึงค่อยตั้งสติได้ว่าตัวเองเห็นอะไรอยู่
ด้วยเหตุนี้ ไม่กี่นาทีต่อมา
เยี่ยหวันหวั่นพาลูกชายมายืนเรียงแถวด้วยกันในห้องนั่งเล่นอย่างว่าง่าย แสร้งทำท่าหัวหดเหมือนนกตัวน้อยๆ
ซือเยี่ยหานนั่งอยู่บนโซฟา หน้าดำคร่ำเครียด “ว่ามา!”
เยี่ยหวันหวั่นก้มหน้ามองนิ้วมือตัวเอง พึมพำเสียงเบาว่า “เอ่อ ฉันเคยเห็นในทีวีว่าจุดท่องเที่ยวป่าฝนเขตร้อนมีชิงช้าอย่างนี้อยู่ด้วย รู้สึกว่ามันน่าสนุกดี คิดว่าถังถังจะต้องชอบแน่ๆ ก็เลยสั่งให้ทำอันที่เหมือนกันไว้ในบ้านตัวหนึ่ง…
ฉันลองเล่นแล้ว มันแข็งแรงมาก ขนาดไฮดี้นั่งยังไม่พังเลย แถมยังมีเชือกนิรภัยด้วย…ก็ฉันกลัวถังถังจะเบื่อนี่คะ แล้วถังถังก็ชอบเล่นมากด้วย!”
ซือเยี่ยหานนวดหัวคิ้วอย่างปวดหัว
ถังถังอยากเล่นหรือเธออยากเล่นกันแน่?
“ถังถัง ลูกชอบเล่นใช่ไหมจ๊ะ?” เยี่ยหวันหวั่นรีบกุมมือเด็กน้อยขึ้นมาถาม
ลูกรักถังถังยอมเป็นแพะรับบาปแทนผู้เป็นแม่อย่างรู้งานที่สุด “พ่อครับ ถังถังชอบเล่นมากครับ!”
เยี่ยหวันหวั่นรีบบอก “เห็นไหมว่าฉันไม่ได้โกหกคุณ!”
ซือเยี่ยหานมองสองแม่ลูกที่พยายามทำตัวน่าสงสาร ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดี “ไม่ต้องเล่นมันแล้ว…”
เยี่ยหวันหวั่นเหมือนมะเขือม่วงที่ถูกฟ้าผ่า[1] ส่วนถังถังก็เหมือนมะเขือม่วงลูกเล็กที่โดนฟ้าผ่า
ซือเยี่ยหานเอ่ยว่า “…เดี๋ยวฉันหาผู้เชี่ยวชาญมาทำให้พวกเธอใหม่”
มะเขือม่วงทั้งสองลูกเงยหน้าขึ้นมาทันที ยิ้มกว้างเหมือนดอกไม้บาน สีหน้าท่าทางเหมือนกันเป๊ะ
เยี่ยหวันหวั่นพูดขึ้นมา “คุณเก้า ฉันรู้อยู่แล้วว่าคุณดีที่สุด!”
ถังถังเอ่ยด้วย “ขอบคุณครับพ่อ!”
ซือเยี่ยหานที่จู่ๆ ก็ใจอ่อนแถมยัง ‘ช่วยคนทำผิด’ หมดคำจะพูดแล้ว…
………………………………..