แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 1169 จูเสินสือไต้ บทที่ 1170 เปลี่ยนคนไม่ได้เรื่องให้เกิดปาฏิหาริย์
- Home
- แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี
- บทที่ 1169 จูเสินสือไต้ บทที่ 1170 เปลี่ยนคนไม่ได้เรื่องให้เกิดปาฏิหาริย์
บทที่ 1169 จูเสินสือไต้!
“นั่นน่ะสิ…เอ่อ แล้วเรื่องหานเซี่ยนอวี่ไปมายังไงล่ะ?” มีคนถามขึ้นอีก
นักแสดงจากโกลบอลคนเมื่อกี้พูดด้วยสีหน้ามีลับลมคมใน “เรื่องนี้พวกเธอยังไม่รู้ล่ะสิ! ฉันมีข่าวจากวงใน!”
“ข่าววงในอะไร รีบเล่ามาเร็ว! เร็วๆ สิ!” ทุกคนเร่งเร้า
“หึๆ พวกเธอรู้ไหมว่าใครเป็นคนเคลียร์คดีลวนลามเด็กของหานเซี่ยนอวี่?”
“ใครล่ะ? เชี่ย…บ้าไปแล้ว…คงไม่ใช่…”
“ถูกต้อง ก็เยี่ยไป๋นั่นแหละ!”
“เธอแน่ใจเหรอ? เธอรู้ได้ยังไง?”
“ก็บอกแล้วไงว่าข่าววงใน! เรื่องนี้ผู้บริหารระดับสูงของโกลบอลตอนนั้นรู้กันทุกคน แต่ฉู่หงกวงกลัวเสียหน้า เลยไม่ให้ใครแพร่งพรายออกมา เธอก็ลองคิดดูสิ เรื่องใหญ่ขนาดนั้นทีมประชาสัมพันธ์ของบริษัทตัวเองทำอะไรไม่ได้ซักอย่าง ปรากฏว่าสุดท้ายกลับต้องให้คนนอกมาช่วยแก้ไข ถ้าใครรู้เข้าคงขายหน้าแย่ ได้ยินมาว่าฉู่หงกวงเห็นความสำคัญของเยี่ยไป๋เพราะเรื่องนี้แหละ…”
“ถ้าอย่างนั้นทุกอย่างก็ลงล็อกเป๊ะน่ะสิ! ไม่น่าล่ะหานเซี่ยนอวี่ถึงได้ไม่กลัวจะขัดแข้งขัดขากับโกลบอล ยกเลิกสัญญาแล้วก็ลาออกไปพร้อมกับผู้จัดการส่วนตัวตัวเล็กๆ คนหนึ่งอย่างนั้น!”
“ฉันล่ะยอมจริงๆ! เยี่ยไป๋คนนี้จะเก่งรอบด้านเกินไปแล้วมั้ง?”
“ตอนนี้ฉันอยากรู้แค่ว่า…ฉู่หงกวงจะรู้สึกยังไง…”
“ฮ่าๆ เมื่อกี้ฉันเห็นเขาโกรธจนหน้าดำหน้าแดงเลยล่ะ!”
……
เมื่อชื่อของราชินีจอเงินถูกประกาศออกไป พิธีประกาศรางวัลจินหลานก็ปิดฉากลงอย่างสมบูรณ์แบบ
เทียบกับตอนเข้างานที่ไม่มีใครถามไถ่สารทุกข์สุขดิบ ตอนนี้รอบตัวพวกเยี่ยหวันหวั่นเต็มไปด้วยบรรดาแขกและนักแสดงที่ห้อมล้อมเข้ามาแสดงความยินดี
เจียงเยียนหรานหันไปแจ้งผู้กำกับเผิง ก่อนจะออกจากงานไปพร้อมกับพวกเยี่ยหวันหวั่น
เพิ่งจะเดินออกไป พวกเขาก็ถูกฝูงนักข่าวล้อมวง แสงแฟลชถูกรัวอย่างต่อเนื่อง
เมื่อกลุ่มคนที่มีออร่าเจิดจรัสปรากฏตัว ชื่อบริษัทของพวกเขาก็ผุดขึ้นมาในสมองอย่างไม่รู้ตัว
จูเสินสือไต้ [1]
ค่ำคืนนี้ จะต้องเป็นอีกคืนหนึ่งที่ไม่หลับใหลอย่างแน่นอน สื่อแทบทุกสำนักต่างกำลังเร่งทำโอทีกันอยู่
กองบรรณาธิการนิตยสารของ VIVI
บรรณาธิการไฉหย่งหลีถอนหายใจ แล้วเอ่ยว่า “เจ้าหนุ่มเยี่ยไป๋คนนี้ สุดยอดมากจริงๆ ฉันสัมผัสได้แต่แรกแล้วว่าเขาไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน…”
ช่างภาพที่ชื่อเซียวอวี่ถงจ้องชายหนุ่มที่ถูกสื่อรุมล้อมบนจอถ่ายทอดสด แล้วทำหน้าเหมือนรำลึกความหลัง “ผมยังจำได้ดี ตอนนั้นที่ ‘VIVI’เจอวิกฤติ รองประธานเยี่ยพูดประโยคหนึ่งกับผม…มีอยู่ระยะเวลาหนึ่งเลยล่ะที่ผมยืนหยัดผ่านทุกอย่างมาได้เพราะประโยคนี้ล้วนๆ…”
“เขาพูดว่าอะไร?” ไฉหย่งหลีถาม
เซียวอวี่ถงเอ่ยอย่างแช่มช้า “เขาบอกว่า ถ้าหากโลกใบนี้เป็นศัตรูกับเรา ก็จงยิ่งใหญ่ให้มากขึ้นจนโลกใบนี้ไม่อาจขวางทางเราได้อีก…”
……
หลังจากที่พิธีมอบรางวัลจบลง รายชื่อผู้ได้รับรางวัลในแต่ละสาขาต่างก็ถูกประกาศบนอินเตอร์เน็ต
ภาพในงานเองก็ถูกเผยแพร่บนอินเตอร์เน็ตโดยบรรดาสื่อเจ้าใหญ่อย่างรวดเร็วเช่นกัน
“หนึ่งในสิบสิ่งมหัศจรรย์แห่งวงการบันเทิง กงซวี่คว้ารางวัลราชาจอเงินได้แล้วจริงๆ!”
“ราชาจอเงินแพ็คคู่ในประวัติศาสตร์จินหลานได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว”
“ประเด็นฮอท! ผู้จัดการส่วนตัวลึกลับผู้อยู่เบื้องหลังราชินีจอเงินคนใหม่”
“กวาดรางวัลราชาจอเงินแพ็คคู่บวกรางวัลราชินีจอเงิน ค่ำคืนของจูเสินสือไต้”
“กลุ่มคนหน้าตาดีแห่งยุค!”
……
หัวข้อคล้ายๆ กันนี้ถูกเผยแพร่ไปทั่วโซเชียล
สเตตัสในเวยป๋อที่กงซวี่โพสต์ก่อนหน้านั้นก็ถูกดันจนเป็นประเด็นร้อน มีแต่คอมเมนต์กรี๊ดกร๊าดทั้งนั้น
[กรี๊ดดด ซาบซึ้งสุดๆ! นึกไม่ถึงว่าลั่วเฉินจะเป็นคนแท็กกงซวี่ก่อน จังหวะนี้มันโมเมนต์คู่ชิปชัดๆ!]
[ความจริงลั่วเฉินกับกงซวี่สนิทกันมาก สนิทกันมากกว่าพวกที่เสแสร้งเป็นเพื่อนกันต่อหน้าสื่อเยอะ!]
————————————————————————————-
บทที่ 1170 เปลี่ยนคนไม่ได้เรื่องให้เกิดปาฏิหาริย์
[ฉันไปจัดหนังเรื่อง ‘เป็นหรือตาย’มารอบสองแล้ว สุดยอดมากจริงๆ ลั่วเฉินกับกงซวี่แสดงดีมาก แต่น่าเสียดายที่รอบฉายน้อยมาก พวกแอนตี้แฟนกับพวกแอคหลุมปั่นกระแสก็เอาแต่พูดเสียๆ หายๆ คราวนี้ลืมตาอ้าปากได้ซักทีนะ!]
[เห็นด้วยสุดๆ! แต่ว่าไม่ได้เห็นลั่วเฉินกับกงซวี่ไลฟ์กินอึแล้ว จู่ๆ ก็รู้สึกเสียดายขึ้นมาเฉยเลย…]
……
เฟ่ยหยางกับเถาเจียเหวินที่รอข้างนอกก็รู้ข่าวแล้วเหมือนกัน
ทั้งสองคนตื่นเต้นดีใจมาก รีบพาบอดี้การ์ดคุ้มกันพวกเยี่ยหวันหวั่นขึ้นรถตู้ทันที
รถตู้กว้างขวางมาก ทุกคนต่างนั่งอยู่ในรถ
เฟ่ยหยางตื่นเต้นจนใบหน้าแดงก่ำ “เชี่ย กงซวี่ นายแน่มาก! ลั่วเฉินไม่เท่าไหร่ แต่นึกไม่ถึงว่านายจะชนะรางวัลราชาจอเงินได้ ตอนนี้วงการบันเทิงลุกเป็นไปแล้ว!”
“เหอะ อยากเห็นผมไลฟ์กินอึ ฝันไปเถอะน่า!” กงซวี่ได้ใจ ตอนนี้เขาแทบจะลอยขึ้นฟ้าอยู่แล้ว
เฟ่ยหยางมองเยี่ยหวันหวั่นด้วยสายตาทึ่งๆ “ผู้อำนวยการเยี่ย เรื่องเปลี่ยนคนไม่ได้เรื่องให้เกิดปาฏิหาริย์เนี่ย ผมล่ะยอมคุณจริงๆ!”
กงซวี่ไม่พอใจ “อ้าวๆๆ ระวังคำพูดด้วยนะ พี่ว่าใครไม่ได้เรื่อง! ไม่เห็นที่เขาพูดกันในเน็ตเหรอ? ผมน่ะไข่มุกล้ำค่าที่ถูกปกคลุมไปด้วยฝุ่นต่างหาก! ไม่รู้เรื่องซะบ้างเลย”
เฟ่ยหยางมองบนไม่สนใจเขาอีก แล้วหันไปมองหญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับเยี่ยหวันหวั่น “เยี่ยไป๋ คุณนี่ตาแหลมจริงๆ ไปคว้าสาวสวยจากไหนมา? ทำไมผมไม่เห็นรู้เรื่องเลย!
คุณไม่รู้หรอก เมื่อกี้กลุ่มผู้จัดการส่วนตัวของพวกเราฮือฮากันมาก พอรายชื่อประกาศออกมา ผู้จัดการป้ายทองแทบทุกคนที่ตั้งใจจะชิงตัวเธอ! ขนาดผมยังหวั่นไหวเลย แอบคิดว่าจะมีวิธีไหนชิงตัวเธอได้บ้าง เพราะยังไงบริษัทของเราก็ยังไม่มีนักแสดงหญิงเลย!
แต่พอสาวงามพูดขอบคุณ แล้วบอกว่าผู้จัดการส่วนตัวของเธอคือคุณ! ผมนี่อึ้งไปเลย!
ได้ยินเฟ่ยหยางพูดจ้อไม่หยุด เยี่ยหวันหวั่นจึงยิ้มแล้วอธิบายว่า “ก่อนหน้านี้สถานการณ์ของบริษัทเราไม่ค่อยดี ทั้งโกลบอลแล้วก็หวงเทียนต่างร่วมมือกดดันเรา ฉันกลับว่าเยียนหรานจะเดือดร้อน เลยยังไม่ได้เซ็นสัญญากับเธอน่ะ”
เฟ่ยหยางพยักหน้าอย่างเข้าใจ “อย่างนี้นี่เอง!”
เจียงเยียนหรานแนะนำตัวกับทุกคนด้วยท่าทางประหม่าเล็กน้อย “สวัสดีค่ะทุกคน ฉันชื่อเจียงเยียนหราน หลังจากนี้ก็ฝากตัวด้วยนะคะ!”
“สวัสดีครับๆ วางใจเถอะ ทุกคนเป็นกันเองมาก ไม่ต้องตื่นเต้นนะครับ!” เฟ่ยหยางเอ่ยอย่างเป็นมิตร
“สวัสดีค่ะ ฉันเป็นผู้ช่วยของผู้อำนวยการเยี่ย ชื่อเถาเจียเหวินค่ะ”
“สวัสดีครับ!” ลั่วเฉินพยักหน้าทักทาย
หานเซี่ยนอวี่ยิ้ม “ที่แท้คุณก็คือเยียนหรานที่เยี่ยไป๋เคยพูดถึงบ่อยๆ นี่เอง สวัสดีครับ จูเสินสือไต้ยินดีต้อนรับนะครับ!”
เจียงเยียนหรานแก้มแดงผ่าวทันที “สวัสดีค่ะรุ่นพี่! ฉัน…ฉันเป็นแฟนคลับรุ่นพี่มาตลอดเลย…”
ถึงแม้ว่าตอนนี้…จะเปลี่ยนเมนไปแล้วก็เถอะ…
เจียงเยียนหรานหันไปมองกงซวี่ “สวัสดีค่ะรุ่นพี่กงซวี่!”
ตอนนี้เยี่ยหวันหวั่นนั่งอยู่ตรงกลาง เจียงเยียนหรานกับกงซวี่แยกกันนั่งด้านซ้ายและขวาของเธอ
กงซวี่เอาแต่ปั้นหน้าบึ้งตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว ตอนนี้เจียงเยียนหรานทักทายเขา เขากลับไม่พูดอะไรซักคำ
เยี่ยหวันหวั่นรีบส่งสายตาตักเตือนให้เขาอย่างแนบเนียน
นี่ถมึงตาใส่เขาเหรอ! นึกไม่ถึงเลยว่าจะถมึงตาใส่เขาเพราะคนโปรดคนใหม่!
กงซวี่รู้สึกเหมือนหัวใจตัวเองแหลกสลายเป็นผุยผง เขาเหล่มองเจียงเยียนหรานด้วยหางตา แล้วพูดด้วยน้ำเสียงกระแทกกระทั้นว่า “ในเมื่อรู้ว่าฉันเป็นรุ่นพี่ก็ดี เธอมาช้าที่สุด ฉะนั้นต้องเข้าใจกฎ…”
กงซวี่ตั้งท่าจะวางมาด แต่เยี่ยหวันหวั่นกลับพูดตัดบทเขา “เธอมาเร็วกว่านาย”
“อะไรนะ? เร็วกว่าผม? เป็นไปไม่ได้!” กงซวี่จ้องหน้าเจียงเยียนหรานเขม็ง แล้วถามว่า “เธอติดตามพี่เยี่ยตั้งแต่เมื่อไหร่? จะเร็วกว่าฉันได้ยังไง! ทำไมฉันไม่เห็นรู้เลย?”
……………………………………………………….
[1] จูเสินสือไต้ แปลเป็นไทยมีความหมายว่า ยุคสมัยของบรรดาเทพ