แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 1195 ช่วยเขาไว้อีกครั้งแล้ว บทที่ 1196 มาได้จังหวะเหมาะเหม็ง
- Home
- แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี
- บทที่ 1195 ช่วยเขาไว้อีกครั้งแล้ว บทที่ 1196 มาได้จังหวะเหมาะเหม็ง
บทที่ 1195 ช่วยเขาไว้อีกครั้งแล้ว
กงซวี่หลบเลี่ยงสายตา แต่ก็ถอดใจไม่ได้แอบเหลือบมองหญิงสาวตลอดเวลา ยิ่งมองก็ยิ่งสิ้นหวัง
ถึงแม้เขาอยากเห็นพี่เยี่ยแต่งหญิงโดยเฉพาะ กระทั่งว่าอยากเห็นยิ่งกว่าเสี่ยวมี่เจี้ยนมาก แต่ตีให้ตายเขาก็นึกไม่ถึงว่าจะมาด้วยวิธีอย่างนี้…
“พี่เยี่ย! พี่…พี่ทำแบบนี้ได้ยังไง!”
“ทำไมเหรอ”
“ทำไมพี่หลอกลวงผม!”
“ถ้าไม่ใช่เพราะตอนนั้นนายวางโต รังแกคนของฉัน ฉันก็ไม่คิดจะใช้วิธีพิเศษหรอก” เยี่ยหวันหวั่นมีสีหน้าจนใจ
ตอนนั้นเธอยังอยู่ฝั่งตรงข้ามกับกงซวี่ เด็กนี่นิสัยเลวเกินไป เธอก็แค่เข็นเรือไปตามน้ำ
ลั่วเฉินที่อยู่ด้านข้างได้ยินคำนี้ก็ชะงักก่อนเล็กน้อย จากนั้นสีหน้าพลันอ่อนลง
ตอนแรกกงซวี่ยังเป็นพวกเดียวกับโจวเหวินปิน พึ่งพาอำนาจ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าต้องการแย่งบทพระรองเรื่อง ‘มังกรผงาด 2’ ที่เขาลำบากลำบนกว่าจะได้มา เขานึกว่าตัวเองจะจบสิ้นแล้ว ถึงขั้นเตรียมไปหาโจวเหวินปินอย่างยอมรับชะตากรรม…
แต่นึกไม่ถึงว่าพี่เยี่ยจะช่วยเขาไว้อีกครั้ง…
เทียบกับลั่วเฉินที่ย้อนนึกอย่างตื้นตันใจ กงซวี่ที่ได้ยินประโยคนี้เหมือนหัวใจถูกแทงจนกลวงเป็นรังผึ้ง “พี่…พี่ก็รู้นี่ว่าลั่วเฉินเป็นคนของพี่! ถ้างั้นผมไม่ใช่เหรอ?”
ฮือ! เขาโกรธจะตายอยู่แล้ว!
เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยว่า “ตอนนั้นความจริงยังไม่ใช่ แต่ตอนนี้ใช่แล้ว ฉันเลยปฏิบัติกับนายแบบตรงไปตรงมาไม่ใช่เหรอ”
เมื่อฟังถึงประโยค ‘ตอนนี้ใช่แล้ว’ เสียงคร่ำครวญของกงซวี่พลันหยุดชะงัก “ถ้า…ถ้าตอนนั้น…ผมไม่เกเรขนาดนั้น…ไม่ได้รังแกลั่วเฉิน…พี่ก็จะไม่หลอกผมหรือเปล่า?”
เยี่ยหวันหวั่นตอบ “ถ้าตอนนั้นนายไม่เกเรขนาดนั้น ฉันว่าพวกเราก็อาจไม่รู้จักกันละมั้ง”
กงซวี่คิดเล็กน้อย เหมือนจะเป็นอย่างนั้น ถ้าเรื่องพัฒนาไปอีกแบบ เขาก็จะไม่ได้แยกจากโจวเหวินปินมาติดตามเยี่ยไป๋
“ยังมีอะไรอยากพูดอีกไหม” เยี่ยหวันหวั่นตัดสินใจพูดให้จบในคราวเดียว ไม่อย่างนั้นด้วยนิสัยของเจ้าหมอนี่ ไม่รู้ว่าจะพองขนอีกนานเท่าไร
กงซวี่เอ่ยทันที “มี! ผม…ผมมีอะไรอยากบอกพี่…ไม่สิ…ผมมีอะไรอยากบอกเสี่ยวมี่เจี้ยน! ต้องพูดตอนนี้เดี๋ยวนี้ทันทีเท่านั้น! วินาทีเดียวก็รอไม่ไหวแล้ว!”
คำพูดพวกนั้นที่อยากบอกเสี่ยวมี่เจี้ยน…เขารอมานานมากแล้ว…
เยี่ยมู่ฝานที่อยู่ด้านข้างสุดจะทนแล้ว “มีอะไรน่าพูดอีก!”
กงซวี่น้อยใจจนน้ำตาเกือบจะไหลออกมา “ผู้หญิงที่ผมชอบมาตั้งนานตามหามาตั้งนานกลับกลายเป็นว่าอยู่ใต้จมูกผมนี่เอง ผมยังล่วงเกินพี่ชายภรรยาจนพรุนหมดด้วย ผมอนาถขนาดนี้ ยังพูดกับเสี่ยวมี่เจี้ยนสักสองสามประโยคไม่ได้เหรอ?”
เยี่ยมู่ฝานกล่าว “เฮ้ย! ใครเป็นพี่เมียแก!”
เยี่ยหวันหวั่นชำเลืองมองเยี่ยมู่ฝาน สื่อให้เขาอย่ายั่วยุกงซวี่
พูดตามตรง…กงซวี่เจ้าเด็กนี่…ครั้งนี้ก็น่าอนาถอยู่จริงๆ …
เยี่ยมู่ฝานจ้องกงซวี่อย่างระแวงไปพลาง กระซิบข้างหูเยี่ยหวันหวั่นไปพลาง “หวันหวั่น แกฟังมันพูดเหลวไหลอะไรไม่รู้! เจ้าเด็กนี่เจตนาไม่ดีกับแก มันอยากตกแกนะ!”
เยี่ยหวันหวั่นเหลือบตามองเยี่ยมู่ฝาน “แล้วพี่จะกังวลอะไร จากระดับความหน้าตาดีผู้ชายของฉัน ฉันดูเหมือนตกง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ”
เยี่ยมู่ฝานสำลักแล้ว
กงซวี่เห็นเยี่ยมู่ฝานพูดข้างหูเยี่ยหวันหวั่น ก็เริ่มปวดใจอีกหน พี่ภรรยาต้องกำลังทำเขาตกที่นั่งลำบากอีกแน่นอน
ทำไมเขาต้องปากพล่อย ทำไมอยู่ดีไม่ว่าดีก็ต้องปะทะกับเยี่ยมู่ฝานตลอดด้วย!
ดูหานเซี่ยนอวี่เขาสิ ความสัมพันธ์ตามปกติกับเยี่ยมู่ฝานดีตั้งขนาดไหน…
เยี่ยหวันหวั่นจัดการเยี่ยมู่ฝานเสร็จก็มองกงซวี่อีกครั้ง “เอาละ พูดมาสิ”
กงซวี่สูดหายใจเข้าลึก ผลลัพธ์คือเพิ่งอ้าปากก็เหี่ยวเฉาอีกแล้ว เขาจ้องหน้าเยี่ยหวันหวั่น จากนั้นขอร้องด้วยสีหน้ากลัดกลุ้ม “พี่เยี่ย พี่ช่วย…ช่วยอ่อนโยนหน่อยได้หรือเปล่า…เห็นพี่เป็นแบบนี้ ผมแทนที่พี่กับเสี่ยวมี่เจี้ยนไม่ลงจริงๆ…”
เยี่ยหวันหวั่นตอบ “อ่อนโยนไม่ลง นายยอมรับเถอะ”
กงซวี่พูดไม่ออกแล้ว
——————————————————————-
บทที่ 1196 มาได้จังหวะเหมาะเหม็ง
กงซวี่คิดจริงจังครู่หนึ่ง เหมือนการทำให้พี่เยี่ยเปลี่ยนเป็นน้องสาวผู้อ่อนโยนจะฝืนใจกันไปหน่อย
อีกทั้ง…เขาค้นพบว่า…ตัวเองเหมือนจะชอบเสี่ยวมี่เจี้ยนแบบนี้มากกว่า…
ดังนั้นกงซวี่จึงได้แต่น้ำตาพรากอย่างเงียบๆ หลังจากสงบอารมณ์อย่างโศกเศร้าแล้ว เขาก็เริ่มการสารภาพรัก “พี่เยี่ย…พี่ก็รู้…ผมชอบเสี่ยวมี่เจี้ยน…ชอบตั้งแต่ตอนที่ได้เห็นเธอครั้งแรก…”
เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้า “ฉันก็บอกนายผ่านเยี่ยไป๋ตั้งแต่แรกแล้วว่า นายไม่ใช่สเปคของเสี่ยวมี่เจี้ยน”
เยี่ยหวันหวั่นเพิ่งพูดหนึ่งประโยค กงซวี่ก็ทำท่าทางเหมือนมีลูกศรปักหัวใจแล้ว
เขาไม่ใช่สเปคของเสี่ยวมี่เจี้ยน แสดงว่าเขาไม่ใช่สเปคที่พี่เยี่ยชอบ!
เยี่ยหวันหวั่นเว้นวรรคเล็กน้อย ก่อนจะพูดต่อ “อีกอย่าง กงซวี่ นายก็น่าจะรู้ว่าฉันมีแฟนแล้ว”
กงซวี่เพิ่งเริ่มเตรียมสารภาพรักก็ถูกเยี่ยหวันหวั่นใช้ค้อนฟาดลงมาดัง ‘ปัง’ อีกรอบ ทั้งร่างยืนเหม่ออยู่ตรงนั้น
จริงด้วย…
เยี่ยไป๋มีแฟนหนุ่มอยู่…
นี่หมายความว่า…เสี่ยวมี่เจี้ยนก็มีเหมือนกัน!
ถึงเยี่ยไป๋เคยบอกแล้วว่าเสี่ยวมี่เจี้ยนเป็นดอกไม้ที่มีเจ้าของ แต่ที่ผ่านๆ มาเขานึกว่าเยี่ยไป๋ตอบเขาแบบขอไปที แต่ตอนนี้ เขาเคยเห็นแฟนหนุ่มของเยี่ยไป๋กับตามาแล้ว!
ประเด็นสำคัญคือ แฟนหนุ่มคนนั้นของเยี่ยไป๋หล่อโคตรๆๆ!
แต่ว่าเขาอุตส่าห์ลำบากกว่าจะหาเสี่ยวมี่เจี้ยนเจอ จะยอมแพ้ง่ายๆ แบบนี้ได้ยังไงกัน
กงซวี่กัดฟัน “ต่อให้เป็นดอกไม้ที่มีเจ้าของแล้วยังไง! คุณชายก็จะยังย้ายดอกเชื่อมต้นใหม่[1]! ไม่มีดอกไม้ดอกไหนที่คุณชายย้ายไปไม่ได้!”
เยี่ยหวันหวั่นเห็นดังนั้นก็ถอนหายใจอย่างปวดหัวเล็กน้อย ก็รู้อยู่แล้วว่าเจ้าเด็กนี่ไม่ได้หยุดง่ายขนาดนั้น
ความจริงเรื่องนี้ของกงซวี่จัดการยากมาก อย่างไรจากนี้พวกเขาสองคนก็ยังต้องร่วมงานกัน ถ้าจัดการไม่ดี รับรองว่าต้องกระทบความสัมพันธ์หลังจากนี้แน่
มีวิธีไหนบ้างที่สามารถตัดความคิดของกงซวี่ได้เด็ดขาด ทั้งยังรับประกันได้ว่าหลังจากนี้จะจุดไม่ติดอีกแม้แต่สะเก็ดไฟ…
ในเวลานี้เอง ด้านหลังพลันมีเสียงฝีเท้าตึกๆๆ ดังขึ้นมา
เยี่ยหวันหวั่นหันไปมองตามเสียงโดยจิตใต้สำนึก เห็นแค่ว่าที่มุมเลี้ยว มีเด็กน้อยผู้งดงามราวหยกแกะสลัก เหมือนนกน้อยที่ถูกปล่อยบิน กำลังวิ่งโผมาทางเธออย่างรวดเร็ว…
“คุณแม่!”
“ถังถัง…” เมื่อเห็นถังถัง ดวงตาของเยี่ยหวันหวั่นฉายแววยินดีทันที
เยี่ยหวันหวั่นถูกเด็กน้อยโผเข้าสู่อ้อมกอดในพริบตา “ลูกรัก ทำไมมาอยู่นี่ได้ล่ะ”
ดวงหน้าเล็กๆ ของเด็กน้อยแดงระเรื่อด้วยความตื่นเต้น “คุณแม่ ผมมารับคุณแม่!”
เยี่ยหวันหวั่นร่วมงานสังสรรค์มาตลอดทั้งคืน เวลานี้ได้กอดเด็กน้อยตัวนุ่มนิ่มก็ฟื้นฟูพลังกลับมาในพริบตา “ลูกเป็นเด็กดีจริงๆ!”
เมื่อก่อนถังถังถูกกำชับว่า ถ้าเธออยู่ในสถานการณ์ที่แต่งชุดผู้ชายห้ามเรียกเธอว่าคุณแม่ แต่ตอนนี้เยี่ยหวันหวั่นแต่งชุดผู้หญิง ดังนั้นถังถังจึงเรียกอย่างวางใจ กลับไม่รู้ว่าคำว่า ‘คุณแม่’ จะสร้างผลกระทบใหญ่หลวงแค่ไหนกับคนบางคน
ทางด้านหลัง กงซวี่มองเด็กน้อยคนนั้นอย่างตาโตอ้าปากค้าง “พะ…พี่..พี่เรียกเขาว่าอะไรนะ เขาคือลูกชายของพี่เหรอ”
พี่เยี่ยเคยพาเด็กคนนี้มาครั้งก่อน เขาไม่ใช่ลูกของเพื่อนหรอกเหรอ?
ขณะได้ยินเด็กน้อยเรียกพี่เยี่ยว่าคุณแม่ ความรู้สึกนี้มันลวงตาเกินไปแล้ว…
ดวงตาสีดำขลับของถังถังหันมอง ‘ลูกเจี๊ยบเหลือง’ อย่างระแวงและไม่พอใจ ลูกเจี๊ยบเหลืองนี่จ้องอยากจะได้คุณแม่ของเขา แถมยังสงสัยว่าเขาไม่ใช่ลูกรักของคุณแม่
เยี่ยหวันหวั่นสังเกคเห็นความไม่พอใจของเด็กน้อย จึงรีบลูบศีรษะเล็กอย่างปลอบประโลม จากนั้นเธอก็พลันเกิดความคิดดีๆ หันไปบอกกับกงซวี่ว่า “เขาเป็นลูกชายฉันจริงๆ”
ถังถังมาได้จังหวะเหมาะเหม็งเลย!
……………………