แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 1445 จะเปิดศึกก็เอาเลย บทที่ 1446 พวกนายลุยสิ
- Home
- แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี
- บทที่ 1445 จะเปิดศึกก็เอาเลย บทที่ 1446 พวกนายลุยสิ
บทที่ 1445 จะเปิดศึกก็เอาเลย
คำสั่งของเยี่ยหวันหวั่นทำให้ทุกคนถอนหายใจด้วยความโล่งอก วิชากู่เป็นเรื่องลึกลับ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสิ่งที่ไม่รู้ ไม่ว่าใครก็ต้องกลัวทั้งนั้น
ไม่นาน เยี่ยหวันหวั่นก็พาทุกคนถอยออกไปสิบกว่าลี้ ซึ่งก็คือสาขาย่อยของพันธมิตรอู๋เว่ยที่โดนตระกูลหยวนทำลาย
สาขาย่อยแห่งนี้เป็นของตระกูลอู๋ พวกเขาอาศัยบารมีของพันธมิตรอู๋เว่ยมาเจ็ดแปดปีแล้ว มีอำนาจในโซนเหนืออยู่บ้าง แต่เพราะเกิดเหตุขัดแย้งกับตระกูลหยวนเรื่องผลประโยชน์ สุดท้ายตระกูลหยวนอาศัยว่ามีอาชูร่าคอยหนุนหลัง เลยทำลายตระกูลอู๋จนย่อยยับ
ด้านหน้าเป็นลานบ้านสภาพผุพัง
ผู้นำตระกูลของตระกูลอู๋อายุประมาณห้าสิบปี ประตูบ้านที่เคยสง่างามกลับเปลี่ยนไปจนไม่เหลือเค้าเดิม
คนของตระกูลอู๋หนึ่งร้อยกว่าชีวิตบ้างก็บาดเจ็บบ้างก็ล้มตาย แม้แต่ลูกชายคนโตของตระกูลอู๋ก็ตายระหว่างการต่อสู้
นาทีนี้ ผู้นำตระกูลอู๋นั่งอยู่ในห้องโถงใหญ่ เส้นผมหงอกขาว นัยน์ตาเต็มไปด้วยความเศร้าโศก
“ท่านผู้นำตระกูล พวกเราไปเถอะครับ…ไม่งั้นถ้าตระกูลหยวนโจมตีเข้ามาอีกครั้งล่ะก็…” ชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างผู้นำตระกูลพยายามเกลี้ยกล่อม
“ฉันอยู่ที่นี่มากี่สิบปีแล้ว ฉันไม่มีทางทิ้งที่นี่ไปเด็ดขาด” ผู้นำตระกูลอู๋กล่าว
ได้ยินอย่างนั้น ชายหนุ่มก็ถอนหายใจเบาๆ เดิมทีเขายังหวังว่าพันธมิตรอู๋เว่ยจะออกหน้าช่วยตระกูลอู๋ของพวกเขาได้บ้าง แต่ดูจากตอนนี้คงเป็นไปไม่ได้แล้ว
สำนักงานใหญ่ของพันธมิตรอู๋เว่ยอยู่ไกลจากที่นี่ อีกอย่างตระกูลหยวนก็มีอาชูร่าคอยหนุนหลัง พันธมิตรอู๋เว่ยมีเหรอจะยอมออกหน้าช่วยตระกูลอู๋ของพวกเขา
“ท่านผู้นำ…ยังคิดว่าพันธมิตรอู๋เว่ยจะมาอยู่อีกเหรอครับ…” ชายหนุ่มถอนหายใจ
ผู้นำตระกูลอู๋ยังไม่ทันพูดอะไร เสียงด่าทอก็ดังมาจากข้างนอก
ชายหนุ่มหน้าเปลี่ยนสี รีบชะเง้อคอมองข้างนอกทันที
“ท่านผู้นำ ผู้อาวุโสของตระกูลหยวนพาคนมาบุกแล้วครับ!” ชายหนุ่มท่าทางลนลานเล็กน้อย
ตอนนี้ตระกูลอู๋แทบไม่เหลือกำลังสู้แล้ว ยังมีคนบาดเจ็บอีกสองร้อยกว่าคนที่กำลังรักษา…คราวนี้…
ผู้นำตระกูลอู๋แค่นเสียงขึ้นจมูก หยิบมีดยาวเล่มหนึ่งขึ้นมาแล้วสาวเท้ายาวๆ เดินออกไปข้างนอก
ข้างนอก ผู้อาวุโสตระกูลหยวนนำทีมยอดนักสู้ของตระกูลหยวนมา พอเห็นผู้นำตระกูลอู๋เดินออกมาตัวคนเดียว ก็อดหัวเราะเสียงดังลั่นไม่ได้ “ไอ้แก่ นี่แกยังไม่หนีไปอีกเหรอ…ถือว่ามีศักดิ์ศรีไม่น้อย คงไม่กลัวตายเลยสินะ”
ผู้นำตระกูลอู๋หน้าเครียด “จะเปิดศึกก็เอาเลย ไม่ต้องเสียเวลาพูดมาก!!”
“ฮ่าๆๆ ไอ้แก่ นี่แกคงไม่ได้เพ้อฝันว่าพันธมิตรอู๋เว่ยจะมาช่วยพวกแกหรอกนะ ตื่นได้แล้ว” ผู้อาวุโสตระกูลหยวนหัวเราะเย็นชา จากนั้นก็หันไปส่งสายตาให้ลูกน้องตัวเอง “ฆ่าให้หมด อย่าให้เหลือ!”
สิ้นเสียงคำสั่ง ชายหลายสิบคนพุ่งตัวไปทางผู้นำตระกูลอู๋
ทว่าผู้นำตระกูลอู๋ยกมีดยาวขึ้นมา เขาไม่ถอยกลับประชันหน้าเข้ามา นัยน์ตาไร้ซึ่งความกลัว
มีดยาวเหวี่ยงไปถึงจุดไหน ที่นั่นต้องมีชีวิตของคนจากตระกูลหยวนถูกคร่าไป
แต่ทว่าสองหมัดยากต้านทานสี่มือ เป็นอย่างนั้นเสมอตั้งแต่โบราณมา ยิ่งไปกว่านั้น ผู้นำตระกูลอู๋ก็อายุมากแล้ว
ผ่านไปครู่หนึ่ง ผู้นำตระกูลอู๋เริ่มเหนื่อยหอบ ร่างกายบนตัวเริ่มมีมากขึ้น
“พลั่ก!”
ผู้อาวุโสตระกูลหยวนเตะผู้นำตระกูลอู๋ปลิวออกไปกระแทกพื้น
“ฮ่าๆ ไอ้แก่ ยอมแพ้ซะเถอะ พันธมิตรอู๋เว่ยไม่เห็นตัวตลกอย่างพวกแกอยู่ในสายตาหรอก!” ผู้อาวุโสตระกูลหยวนพูดด้วยสีหน้าหยิ่งทะนง “ถึงพันธมิตรอู๋เว่ยจะมาจริง พวกฉันก็จะทำให้พวกนั้นตายไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด!”
แต่เมื่อสิ้นเสียงของผู้อาวุโสหยวน เสียงหัวเราะเย็นชาเสียดลึกถึงกระดูกก็ดังมาจากข้างหลัง “ตระกูลหยวนนี่ปากเก่งจริงๆ นะ บอกว่าจะทำให้พวกฉันมาแล้วไม่ได้กลับ งั้นเหรอ?”
สิ้นเสียง คนของพันธมิตรอู๋เว่ยหลายสิบคนก็วิ่งเข้ามาในลานบ้าน
————————————————————————————-
บทที่ 1446 พวกนายลุยสิ
พอเห็นชีซิงกับเป่ยโต่วที่นำหน้ามา ผู้นำตระกูลหยวนก็ชะงักไปเล็กน้อย ขณะที่ผู้นำตระกูลอู๋เบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ
“คุณชายเจ็ด…คุณชายเป่ย!” ผู้นำตระกูลอู๋ทำหน้าประหลาดใจ พันธมิตรอู๋เว่ย…มาแล้วจริงๆ?!
เขารู้อยู่แล้วว่าพันธมิตรอู๋เว่ยไม่มีทางทิ้งตระกูลอู๋แน่นอน!
“เป่ยโต่ว ชีซิง?!” ผู้อาวุโสตระกูลหยวนจ้องเป่ยโต่วกับชีซิง เขาขมวดคิ้วแน่น สองคนนี้ไม่ใช่คนที่จะรับมือได้ง่ายๆ…
อีกอย่าง ผู้นำตระกูลหยวนไม่เคยคิดว่าพันธมิตรอู๋เว่ยจะมาช่วยตระกูลอู๋ถึงโซนเหนือจริงๆ
แต่ชีซิงกับเป่ยโต่วไม่พูดอะไร เพียงแค่ถอยออกไปยืนด้านข้าง ข้างหลังพวกเขาสองคน มีหญิงสาวใส่ชุดสีดำทั้งตัวคนหนึ่งยืนอยู่
หญิงสาวหน้าตาสวยสะดุดตา มุมปากหยักยิ้มเล็กน้อยราวกับไม่แยแสต่อสิ่งใด
ผู้อาวุโสตระกูลหยวนมองหญิงสาวด้วยความสงสัย ดูจากสีหน้าของชีซิงกับเป่ยโต่ว หรือว่าผู้หญิงคนนี้จะมีตำแหน่งในพันธมิตรอู๋เว่ยสูงกว่าพวกเขาสองคน?
อย่าว่าแต่ผู้อาวุโสตระกูลหยวนเลย ขนาดผู้นำตระกูลอู๋ก็ยังทำหน้าสงสัย แค่เป่ยโต่วกับชีซิงมาช่วยตระกูลอู๋ถึงที่นี่เขาก็คาดไม่ถึงแล้ว หรือว่าตำแหน่งของผู้หญิงคนนี้ในพันธมิตรอู๋เว่ยจะสูงกว่าเป่ยโต่วกับชีซิงอีกงั้นเหรอ เป็นไปได้ยังไง…
“ไม่ทราบว่าตำแหน่งของคุณในพันธมิตรอู๋เว่ย…อยู่ขั้นไหนหรือ…” ผู้นำตระกูลอู๋มองเยี่ยหวันหวั่น แล้วถามด้วยความระมัดระวัง
คำถามของผู้นำตระกูลอู๋ทำให้เป่ยโต่วที่ยืนอยู่ข้างหนึ่งหันมามองหน้าเขา แล้วกล่าวว่า “ขั้นพิเศษ”
ขั้นพิเศษ?!
สิ้นเสียงของเป่ยโต่ว ผู้นำตระกูลอู๋กับผู้อาวุโสตระกูลหยวนก็อึ้งงัน
ขั้นพิเศษในพันธมิตรอู๋เว่ย…ถือว่ายิ่งใหญ่ที่สุดแล้ว…ถ้าจะมีใครที่อยู่ขั้นพิเศษในพันธมิตรอู๋เว่ย ก็คงมีแค่…
แบดเจอร์แห่งพันธมิตรอู๋เว่ย?!
คิดมาถึงตรงนี้ ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างผู้นำตระกูลอู๋ก็ตัวสั่น เขามองเยี่ยหวันหวั่นอย่างไม่อยากเชื่อ
“หะ…หะ…หัวหน้า…พันธมิตรอู๋เว่ย!!!”
ชายหนุ่มที่ยืนข้างผู้นำตระกูลอู๋ทำหน้าตกตะลึง
“เป็นไปได้ยังไง…คุณก็คือ…หัวหน้าไป๋?!” ผู้นำตระกูลอู๋ทำหน้าตกตะลึง
“อยู่ต่อหน้าหัวหน้าพันธมิตรเอะอะโวยวาย ไม่มีมารยาท!” เป่ยโต่วตะโกนเสียงดัง
พอได้ยินเป่ยโต่วพูดเองกับปากว่าผู้หญิงชุดดำที่ยืนอยู่ตรงหน้าคือแบดเจอร์แห่งพันธมิตรอู๋เว่ย ผู้นำตระกูลอู๋อึ้งค้างไปทันที
แต่ผู้อาวุโสตระกูลหยวนกับพวกชายหนุ่มตระกูลหยวนไม่อยากเชื่อ เป็นไปได้ยังไง! เพื่อตระกูลอู๋เล็กๆ ตระกูลหนึ่ง แบดเจอร์แห่งพันธมิตรอู๋เว่ยถึงกับออกหน้าด้วยตัวเองเลยเหรอ?!
“หัวหน้า…ตระกูลหยวน…รังแกคนของตระกูลอู๋เรา!” ผู้นำตระกูลอู่รีบคุกเข่าต่อหน้าเยี่ยหวันหวั่น แล้วชี้ไปทางพวกผู้อาวุโสตระกูลหยวน
เยี่ยหวันหวั่นตวัดสายตาไปที่พวกผู้อาวุโสตระกูลหยวน แล้วออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า “หนี้เลือดต้องชำระด้วยเลือด”
สิ้นเสียงของเยี่ยหวันหวั่น ชีซิงกับเป่ยโต่วพุ่งตัวไปทางผู้อาวุโสตระกูลหยวน ขณะเดียวกัน สมาชิกยอดนักสู้ที่เหลือของพันธมิตรอู๋เว่ยเองก็ทยอยโจมตีคนของตระกูลหยวนด้วย
ถึงผู้อาวุโสของตระกูลหยวนจะเก่งกาจ แต่เทียบกับชีซิงและเป่ยโต่วแล้วยังห่างชั้นมาก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าเมื่อเป่ยโต่วกับชีซิงร่วมมือกัน
ผ่านไปหลายอึดใจ สถานที่แห่งนี้โกลาหลวุ่นวาย เสียงตะโกนเข่นฆ่าดังเซ็งแซ่ แม้แต่ผู้นำตระกูลอู๋ก็ยกดาบขึ้นมาแล้ววิ่งเข้าไปร่วมสู้ด้วย
“พวกนายก็ลุยด้วยสิ!” เยี่ยหวันหวั่นหันไปมองนักพรตใจบริสุทธิ์กับเสี่ยวเถียนเถียนที่ยืนอยู่ข้างตัวเองแล้วทำท่าเหมือนพระโพธิสัตว์ เยี่ยหวันหวั่นทำหน้างง ไอ้สองคนนี้มาทำอะไรที่นี่กันแน่?