แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 1575 หรือว่าเชื่อผู้หญิงคนนี้จริงๆ บทที่ 1576 ควรเรียกแม่ได้แล้ว
- Home
- แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี
- บทที่ 1575 หรือว่าเชื่อผู้หญิงคนนี้จริงๆ บทที่ 1576 ควรเรียกแม่ได้แล้ว
บทที่ 1575 หรือว่าเชื่อผู้หญิงคนนี้จริงๆ
ได้ยินคุณนายเนี่ยพูดเช่นนี้ เยี่ยหวันหวั่นหันหน้าไปมองคุณนายเนี่ยอย่างน้อยใจมาก
เห็นดังนั้น ‘เนี่ยอู๋โยว’ มีสีหน้าทะมึน ผู้หญิงคนนี้ถึงกับแสดงละครได้ขนาดนี้ต่อหน้าคุณนายเนี่ย!
ที่ทำให้ ‘เนี่ยอู๋โยว’ รับไม่ได้ที่สุดคือ คุณนายเนี่ยเหมือนจะเริ่มหวั่นไหวหน่อยๆ แล้ว หรือว่าเชื่อคำพูดเหลวไหลของผู้หญิงคนนี้จริงๆ เหรอ!
เวลานี้คุณนายเนี่ยมองเยี่ยหวันหวั่น น้ำเสียงอ่อนลงบ้างแล้ว ใช้น้ำเสียงของผู้อาวุโสโดยสมบูรณ์ “ใช่ก็ใช่ ไม่ใช่ก็ไม่ใช่ ป้าก็ไม่ใช่คนใจไม้ไส้ระกำ ตอนที่หนูยั่วยุตระกูลเนี่ยครั้งนั้นก็เพิ่งจะอายุสิบกว่าปี ป้าตอนอายุเท่าหนูยังไม่เหลาะแหละกว่าหนูอีก มีอะไรน่าปกปิดกัน!”
“คุณป้าเนี่ย ฉันสำนึกผิดแล้วค่ะ…” เยี่ยหวันหวั่นถอนหายใจเบาๆ
“สำนึกผิดแล้วจริงๆ? ” คุณนายเนี่ยมองเยี่ยหวันหวั่นพร้อมขมวดหัวคิ้วน้อยๆ
ท่าทางน้อยใจของเด็กสาวตรงหน้านี้กลับทำให้เธอปวดใจอย่างบอกไม่ถูก ความโกรธก่อนหน้านี้กลับสงบลงไม่น้อย
ผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ย แบดเจอร์ของรัฐอิสระผู้นี้มีชื่อเสียงเรี่ยราดในรัฐอิสระ ผู้หญิงที่เหมือนปีศาจนี้ต่อหน้าเธอกลับเหมือนเด็กน้อยที่ทำผิด…
“ไป๋เฟิง พันธมิตรอู๋เว่ยหนูกับตระกูลเนี่ยเมื่ออดีตมีบุญคุณความแค้นกันก็จริง แต่คิดดูดีๆ ก็เป็นเรื่องหลายปีมาแล้ว แล้วเลิกต่อกันเถอะ” ผ่านไปชั่วครู่คุณนายเนี่ยก็เอ่ยปาก
ได้ยินดังนั้นเยี่ยหวันหวั่นมีสีหน้าดีใจเล็กน้อย จากนั้นก็เอ่ยกับคุณนายเนี่ยทันที “คุณป้าเนี่ย…งั้นคุณป้าเนี่ยยังโกรธไหมคะ…”
หลังคุณนายเนี่ยครุ่นคิดชั่วครู่ก็เอ่ย “ครั้งนี้ยกโทษให้หนูแล้ว”
เนี่ยอู๋โยวที่อยู่ด้านข้างมองเยี่ยหวันหวั่น ดวงตาวาบแววเย็นชาไม่ได้เอ่ยปากอะไร
“แม่คะ!”
‘เนี่ยอู๋โยว’ ขึ้นหน้าเดินไปข้างตัวคุณนายเนี่ย “แม่คะ หรือว่าแม่เชื่อผู้หญิงคนนี้จริงๆ …เธอจงใจปกปิดตัวตนของตัวเอง เข้าใกล้ตระกูลเนี่ย เธอต้องมีความลับที่บอกใครไม่ได้แน่!”
คุณนายเนี่ยมอง ‘เนี่ยอู๋โยว’ แล้วเอ่ยปาก “อู๋โยว ไป๋เฟิงก็ไม่นับว่าปกปิดตัวตน ก่อนหน้านี้เธอสูญเสียความทรงจำเท่านั้น อีกอย่าง พี่ใหญ่แกก็รู้ตัวตนของเธอไม่ใช่เหรอ”
“เรื่องนี้…”
คำพูดของคุณนายเนี่ยกลับทำให้ ‘เนี่ยหลิงหลง’ พูดไม่ออก
ก่อนหน้านี้คุณนายเนี่ยยังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ แต่หลังได้ยินผู้หญิงคนนั้นพูดเหลวไหลก็กลับเริ่มช่วยผู้หญิงคนนั้นพูดแล้ว!
ดวงตา ‘เนี่ยอู๋โยว’ วาบประกายเย็นชาน่ากลัว ผู้หญิงคนนั้นคิดว่าแบบนี้จะไม่เป็นไรเหรอ…เธอจะต้องทำให้คุณนายเนี่ยไล่ผู้หญิงคนนั้นออกไปด้วยตัวเองให้ได้!
“ไป๋เฟิง” คุณนายเนี่ยเอ่ยกับเยี่ยหวันหวั่น
“คุณป้าเนี่ยเรียกหนูว่าหวันหวั่นเถอะค่ะ…หนูชินหูกว่า” เยี่ยหวันหวั่นยิ้มน้อยๆ
“ได้ หวันหวั่น…เรื่องที่ป้าบอกครั้งก่อนว่าจะรับหนูเป็นลูกสาวบุญธรรม หนูคิดถึงไหนแล้ว” คุณนายเนี่ยเอ่ยถาม
ได้ยินดังนั้นเยี่ยหวันหวั่นก็ค่อนข้างตกใจ ไม่คิดมาก่อนว่าคุณนายตระกูลเนี่ยเพิ่งจะถูกเธอกล่อมจนหายโกรธก็จะรับเธอเป็นลูกบุญธรรมเดี๋ยวนั้นเลย
แต่เยี่ยหวันหวั่นก็ดูออกได้ไม่ยากว่าคุณนายเนี่ยชอบตัวเธอจริงๆ …
“แม่…ทำไมทำลวกๆ อย่างนี้…เธอเป็นผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ย ตอนนั้นพันธมิตรอู๋เว่ยไม่เป็นมิตรกับตระกูลเนี่ยเรา เธอเป็นผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ย ตอนนี้เข้าใกล้ตระกูลเนี่ยจะต้องไม่มีเจตนาดีแน่นอนเลยนะคะ”
ได้ยินคุณนายเนี่ยจะรับเยี่ยหวันหวั่นเป็นลูกบุญธรรม ‘เนี่ยอู๋โยว’ รีบร้อนเอ่ย
“อู๋โยว” คุณนายเนี่ยมอง ‘เนี่ยอู๋โยว’ และขมวดคิ้วเอ่ย “อะไรของแก แม่ทำอะไรจะไม่รู้หนักเบาเชียวเหรอ”
———————————————————————————-
บทที่ 1576 ควรเรียกแม่ได้แล้ว
‘เนี่ยอู๋โยว’ กำสองมือแน่น อดกลั้นอารมณ์ พยายามใจเย็นสุดชีวิต “แม่ หนูก็แค่เป็นห่วงเท่านั้น”
“คุณน้า ไม่งั้นช่างเถอะค่ะ อย่าทำลายความสัมพันธ์แม่ลูกของคุณป้ากับเนี่ยอู๋โยวเพื่อหนูเลย…ยังไงหนูก็แค่คนนอก…”เสียงของเยี่ยหวันหวั่นแผ่ความน้อยใจที่พูดออกมาไม่ได้
พูดจบเยี่ยหวันหวั่นก็ชำเลืองมอง ‘เนี่ยอู๋โยว’ อย่างไร้สุ้มเสียง
ตัวปลอมนี่มองตัวเองเป็นคุณหนูอู๋โยวตระกูลเนี่ย เป็นแม่แท้ๆ ของถังถังจริงน่ะเหรอ
เธอผู้เชี่ยวชาญในการปลอมตัว จะยังเอาชนะอีกฝ่ายไม่ได้เชียว!?
ในเมื่อเล่นแล้ว งั้นก็อย่าหยุดเสียล่ะ…แบบนี้ถึงจะสนุก ไม่งั้นจะยังน่าสนใจอะไร
เวลานี้คุณนายเนี่ยจนใจอยู่บ้างเล็กน้อย มองหวันหวั่นบ้านคนอื่น แล้วมองเนี่ยอู๋โยวลูกสาวตัวเอง…
เนี่ยอู๋โยวถูกคุณตาพาออกไปจากบ้านตั้งแต่ยังเล็ก ถึงแม้จำนวนครั้งที่เธอกับเนี่ยอู๋โยวเจอหน้ากันจะไม่มาก แต่อู๋โยวที่มีนิสัยซื่อตรงเด็ดเดี่ยวคนนั้นกลับยังคงแจ่มชัดในความทรงจำ แต่หลังจากโตขึ้นมา ในด้านนิสัยกลับค่อยๆ เปลี่ยนไป กลายเป็นไม่เข้าใจเรื่องราวมากขึ้นเรื่อยๆ
แต่ยังไงตัวเธอก็ติดค้างลูกคนรองไว้มากมาย คุณนายก็แข็งใจพูดอะไรไม่ลง
“ยัยโง่” เนี่ยหลิงหลงกวาดมอง ‘เนี่ยอู๋โยว’ อย่างเย็นชา ยิ้มเยาะในใจ ถูกคนจูงจมูกแล้วยังไม่รู้ตัวอีก
“แม่คะ…เมื่อกี้หนูผิดเอง แต่ยังไงเธอก็เป็นผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ย หนูแค่เป็นห่วง ไม่อยากให้ตระกูลเนี่ยถูกคนอื่นคิดร้ายเท่านั้น ก็อาจเป็นหนูที่คิดมากไป แม่อย่าโกรธหนูเลยนะคะ”
‘เนี่ยอู๋โยว’ ค้นพบว่าเรื่องผิดปกติไปจึงรีบเปลี่ยนทิศทางทันที
“อืม ไม่เป็นไร จากนี้ไปแกต้องอยู่กับหวันหวั่นมากหน่อย ตอนนั้นหวันหวั่นช่วยแกเลี้ยงถังถังที่ประเทศจีนช่วงหนึ่ง คนดีต้องรู้จักสำนึกบุญคุณคน” คุณนายเนี่ยเอ่ย
“อืม…แม่พูดถูกค่ะ หนูเข้าใจแล้ว”
หลัง ‘เนี่ยอู๋โยว’ พยักหน้า ก็ชำเลืองมองเยี่ยหวันหวั่นอย่างเย็นชาแวบหนึ่ง
“หวันหวั่น ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นก็ตัดสินใจตามนี้แล้ว ป้าจะให้คนจัดงานพิธี” เนี่ยหลิงหลงยิ้มเอ่ยกับเยี่ยหวันหวั่น
“คุณป้าเนี่ย…หนูเป็นผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ย คุณรับหนูเป็นลูกสาวบุญธรรม หนูกลัวว่า…” เยี่ยหวันหวั่นมีสีหน้าเปี่ยมความกังวล
แต่คุณนายเนี่ยกลับส่ายหน้า “หนูเป็นผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ยผู้ยิ่งใหญ่ ให้หนูเป็นลูกสาวบุญธรรมป้า หรือว่าป้าจะเสียเปรียบหรือ อีกอย่าง หนูใช้ตัวตนเยี่ยหวันหวั่นรับฉันเป็นแม่บุญธรรม ไม่เกี่ยวข้องกับไป๋เฟิง”
“ก็ได้ค่ะ…ขอบคุณค่ะคุณป้า…” ในที่สุดเยี่ยหวันหวั่นก็พยักหน้า
ไม่รู้ทำไม เยี่ยหวันหวั่นไม่มีใจต่อต้านคุณนายเนี่ยแม้แต่น้อยและยังอยากใกล้ชิดคุณนายเนี่ยโดยสัญชาตญาณอีกด้วย
…
ไม่นานพ่อบ้านคฤหาสน์เนี่ยก็เตรียมน้ำชาเสร็จและส่งให้เยี่ยหวันหวั่น
คุณนายเนี่ยนั่งบนที่นั่งสูงสุด พวกเนี่ยหลิงหลงกับเนี่ยอู๋โยวยืนอยู่ด้านข้าง
เยี่ยหวันหวั่นถือน้ำชาและเดินเข้าไปหาคุณนายเนี่ย จากนั้นก็คุกเข่าข้างกายคุณนายเนี่ยแล้วยื่นน้ำชาขึ้นด้วยสองมือ “คุณป้าเนี่ยคะ เชิญดื่มชา…”
“ยังเรียกป้าอีกเหรอ” คุณนายเนี่ยค้อนเยี่ยหวันหวั่นอย่างไม่พอใจ
“คุณหนูหวันหวั่น พิธีรับแม่บุญธรรมเสร็จสิ้นแล้ว ตอนนี้คุณหนูหวันหวั่นควรเรียกคุณนายว่าคุณแม่นะครับ” พ่อบ้านคฤหาสน์เนี่ยมองเยี่ยหวันหวั่นพร้อมหัวเราะๆ เบาเอ่ย
“คุณแม่…” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยปากเสียงเบา
“ดี…” คุณนายเนี่ยดื่มน้ำชาที่เยี่ยหวันหวั่นส่งมาหมดรวดเดียว ก่อนจะหยิบซองอั่งเปาออกมามอบให้เยี่ยหวันหวั่น
เห็นซองอั่งเปา เนี่ยอู๋หมิงตาลุกวาว
“หวันหวั่น จากนี้หนูก็เป็นลูกสาวของตระกูลเนี่ยแล้ว ตระกูลเนี่ยไม่มีกฎอะไร แต่มีเรื่องเดียวที่หนูต้องจำไว้” คุณนายเนี่ยเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง