แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 1629 คิดจะทำให้ฉันขำตายแล้วฮุบมรดกฉันไปใช่ไหม บทที่ 1630 คุณแม่ไม่ใช่คนอื่น
- Home
- แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี
- บทที่ 1629 คิดจะทำให้ฉันขำตายแล้วฮุบมรดกฉันไปใช่ไหม บทที่ 1630 คุณแม่ไม่ใช่คนอื่น
บทที่ 1629 คิดจะทำให้ฉันขำตายแล้วฮุบมรดกฉันไปใช่ไหม
จี้ซิวหร่านกล่าว “อะไรนะ?”
‘เนี่ยอู๋โยว’รีบกล่าวต่อด้วยความรู้สึกยินดีในความโชคร้ายของคนอื่น “ไป๋เฟิ่งบอกว่าวันนี้เธอมากับพี่ซิวหร่านแล้วก็คุณชายเสิ่น ยังมี…นายแห่งอาชูร่าด้วย! น่าตลกใช่ไหมล่ะคะ?”
จี้ซิวหร่านหันไปมองเยี่ยหวันหวั่น กระตุกมุมปากเล็กน้อย
ผ่านไปครู่หนึ่ง จี้ซิวหร่านกล่าว “วันนี้หัวหน้าไป๋มากับพวกฉันจริงๆ”
‘เนี่ยอู๋โยว’ทำหน้าเหมือนไม่อยากเชื่อ “นี่มัน…เป็นไปได้ยังไง?”
เสิ่นเทียนเฉินโผล่พรวดมาจากข้างหลัง “ทำไมจะเป็นไปไม่ได้? หัวหน้าไป๋พาเด็กน้อยคนหนึ่งมาแล้วก็อยู่กับพวกผมทั้งวันเลย พวกเราสนุกกันจะตาย! ทำไมพริบตาเดียวพวกผมก็กลายเป็นโจรลักพาตัวไปแล้วล่ะ?
ลักพาตัวเหรอ? ขอร้องทีเถอะ! เด็กน้อยอยู่กับพวกผมจะเจอเรื่องอย่างงั้นได้ยังไง! ใครหน้าไหนกล้าทำเรื่องอย่างงั้น ผมนี่จะใช้เงินฟาดหัวมันให้!”
สุดท้าย…ก็เหลือแค่นายแห่งอาชูร่าคนเดียวแล้ว…
จี้ซิวหร่านกับเสิ่นเทียนเฉินให้ความร่วมมือกับเยี่ยหวันหวั่น แต่ว่า…นายแห่งอาชูร่า…
เยี่ยหวันหวั่นแอบส่งยิ้มและส่งสายตาอ้อนวอนให้ชายหนุ่ม
นายท่าน ขอร้องล่ะช่วยให้ความร่วมมือที!
พอเห็นรอยยิ้มของหญิงสาว สายตาของชายหนุ่มไหวระริกเล็กน้อย แต่ไม่นานก็รีบหลบสายตามองไปทางอื่น
เยี่ยหวันหวั่นเก็บสายตากลับมา เห็นเพียงชายหนุ่มหันหน้าหนี ใบหน้าไม่บ่งบอกอารมณ์ ปิดปากเงียบไม่พูดอะไร ไม่ได้เปิดโปงเธอ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ถือว่ายอมรับเรื่องที่จี้ซิวหร่านกับเสิ่นเทียนเฉินแต่งขึ้นมามั่วๆ
แน่นอนว่านั่นก็อาจจะเป็นเพราะเขาไม่อยากยื่นมือเข้ามายุ่งเรื่องนี้ ขี้คร้านจะพูดคุยกับพวกเขา…
คนของตระกูลเนี่ยนึกไม่ถึงว่าคนระดับจี้ซิวหร่าน เสิ่นเทียนเฉิน กับนายแห่งอาชูร่าจะปรากฏตัวพร้อมกันอย่างนี้ พวกเขาแทบตั้งสติไม่ได้
เนี่ยหลิงหลงขมวดคิ้ว
‘เนี่ยอู๋โยว’ทำหน้าไม่อยากเชื่อ “เป็นไปได้ยังไง เห็นๆ อยู่ว่าเธอคิดจะลักพาตัวถังถัง…”
“นี่มัน…” นายหญิงกับผู้นำตระกูลเนี่ยเหมือนนึกไม่ถึงว่าเหตุการณ์จะเป็นอย่างนี้ พวกเขาเองก็คาดเดาไม่ถูกเหมือนกัน
เนี่ยอู๋หมิงพึมพำ “พูดสิ! พูดต่อไปสิ! พูดว่าน้องสาวฉันลักพาตัวถังถังไปสิ! ใช่สิ น้องสาวฉันกับจี้หวงแห่งรัฐอิสระ เสิ่นเทียนเฉินผู้สืบทอดของหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ กับนายแห่งอาชูร่าร่วมมือกันลักพาตัวถังถัง! แม่เอ็งเถอะ อยากจะหัวเราะให้ฟันร่วง! นี่เธอคิดจะทำให้ฉันขำตายแล้วฮุบมรดกฉันไปใช่ไหม?”
‘เนี่ยอู๋โยว’ได้ยินคำพูดของเนี่ยอู๋หมิงก็หน้าซีดเผือดทันที
คนระดับจี้ซิวหร่านกับเสิ่นเทียนเฉินคงไม่ต้องพูดถึงแล้ว ถึงนายแห่งอาชูร่าจะไม่ใช่ของแท้ ไม่ได้เป็นที่ยอมรับของสมาคมสหพันธ์วิทยายุทธ แต่ยังไงคนอื่นเขาก็ไม่มีทางทำเรื่องอย่างการลักพาตัวเด็กอยู่แล้ว
พูดอย่างนี้ไม่เท่ากับต้องการดูถูกนายของอาชูร่าต่อหน้าทุกคนเหรอ?
‘เนี่ยอู๋โยว’สับสนและสงสัย “แต่ว่า พี่ซิวหร่าน คุณชายเสิ่น แล้วก็นายแห่งอาชูร่า…พวกคุณ…ทำไมถึงมาอยู่ด้วยกัน?”
เวลานี้ นายแห่งอาชูร่าที่ยืนเงียบไม่พูดไม่จามาตั้งแต่ต้นกล่าวว่า “ผมอยู่กับใคร ต้องบอกคุณด้วยเหรอ?”
“เอ่อ…” ‘เนี่ยอู๋โยว’พูดไม่ออก ขณะเดียวกัน สายตาเย็นชาน่ากลัวของชายหนุ่มก็ทำให้เธอรู้สึกเหมือนตัวเองตัวเล็กเท่ามด และเย็นสันหลังวาบ
สมกับที่เป็นนายแห่งอาชูร่าที่ร่ำลือกันจริงๆ…
ผู้ชายคนนี้ แค่เอ่ยปากพูดก็น่ากลัวแล้ว
เสิ่นเทียนเฉินรู้สึกว่านายแห่งอาชูร่าพูดจาเท่ห์มาก เลยพยักหน้าถี่ๆ “ใช่ๆๆ นายแห่งอาชูร่าพูดถูก!”
จี้ซิวหร่านกลับกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบๆ “หัวหน้าไป๋พาถังถังมาหาผม ระหว่างทางบังเอิญเจอคุณชายเสิ่นกับนายแห่งอาชูร่า ก็เลยอยู่ด้วยกันอย่างที่เห็น”
เสิ่นเทียนเฉินหันไปมองจี้ซิวหร่าน รู้สึกว่าจี้หวงพูดมีเหตุผล “อืมๆๆ จี้หวงพูดถูกแล้ว!”
เยี่ยหวันหวั่นเหลือบมองเสิ่นเทียนเฉินด้วยควมเอือมระอา
การไม่มีความรู้เป็นเรื่องน่ากลัวจริงๆ…
โชคดีที่อีกสองคนช่วยเธอได้…
————————————————————————————-
บทที่ 1630 คุณแม่ไม่ใช่คนอื่น
เรื่องดำเนินมาถึงขั้นนี้ก็พอจะคาดเดาตอนจบได้แล้ว
ถ้าแค่คนเดียวอาจยังน่าสงสัย แต่จี้ซิวหร่าน เสิ่นเทียนเฉินกับนายแห่งอาชูร่ากลับพูดเป็นเสียงเดียวกันอย่างนี้ ไป๋เฟิ่งไม่มีทางโกหกอยู่แล้ว
หรือพวกเขาคิดว่าสามผู้ยิ่งใหญ่นี่จะเป็นพยานให้ไป๋เฟิ่งงั้นเหรอ?
เป็นเรื่องตลกเกินไปแล้ว!
ฉะนั้น ‘เนี่ยอู๋โยว’รวมถึงพ่อบ้านและพวกบอดี้การ์ดที่เมื่อกี้ยังมั่นอกมั่นใจ พอถึงตอนนี้กลับพูดอะไรไม่ออกซักคำ
ดวงตาที่หรี่เล็กของเนี่ยหลิงหลงมีประกายเย็นชาพาดผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่ไม่นานก็รีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติ แล้วยิ้มคลี่คลายบรรยากาศ “ที่แท้ก็เป็นเรื่องเข้าใจผิดกันนี่เอง ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว หัวหน้าไป๋ อู๋โยวก็แค่เป็นห่วงถังถังมากไปหน่อย บวกกับข่าวลือเรื่องคุณมันก็ชวนให้คิดจริงๆ…หวังว่าคุณจะไม่ถือสานะคะ?”
เยี่ยหวันหวั่นกระตุกมุมปากยิ้มหยัน หึ เนี่ยหลิงหลงคนนี้ ไม่น่าล่ะถึงซ่อนตัวตนได้นานขนาดนี้ แค่คำพูดไม่กี่คำเธอก็เปลี่ยนเรื่องร้ายให้กลายเป็นดีได้แล้ว
“เวรเอ๊ย! หวันหวั่นอุตส่าห์หวังดีพาถังถังออกไปเที่ยว แต่กลับโดนใส่ร้ายขนาดนั้น แค่แกบอกว่าเข้าใจผิดทุกอย่างก็จบแล้วงั้นเหรอ?” เนี่ยอู๋หมิงเดือดดาล
แววตาของเยี่ยหวันหวั่นซาบซึ้ง
เนี่ยอู๋หมิงกล่าว “อย่างน้อยก็น่าจะเอาอย่างคุณชายเสิ่น แสดงน้ำใจในรูปแบบของเงินก็ยังดี”
เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก
ซาบซึ้งบ้าบออะไรนั่นก็แค่ภาพลวงตาทั้งนั้นแหละ…
นายหญิงตระกูลเนี่ยตำหนิลูกชาย “แกหุบปากไปเลย!”
พูดจบ นายหญิงตระกูลเนี่ยก็หันไปหาเยี่ยหวันหวั่น เอ่ยด้วยสีหน้าละอายใจ “เสี่ยวเฟิ่ง ต้องขอโทษด้วย…”
ตอนแรกเยี่ยหวันหวั่นยังคิดจะแสดงละครอีกหน่อย เพราะถ้าพูดถึงเรื่องการแสดง เธอไม่ยอมแพ้ใครแน่นอน แต่พอจะอ้าปากพูดเข้าจริง กลับอดรู้สึกปวดใจไม่ได้ “แม่บุญธรรม ไม่เป็นไรค่ะ ทุกคนก็แค่เป็นห่วงถังถังแหละค่ะ…”
นายหญิงตระกูลเนี่ยเห็นแววหม่นหมองในดวงตาที่หลุบต่ำของหญิงสาว ไม่รู้ทำไมลึกๆ ข้างในถึงได้รู้สึกปวดใจนัก
‘เนี่ยอู๋โยว’ที่ยืนอยู่ด้านหนึ่งไม่คิดว่าเรื่องจะมาถึงขั้นนี้ ได้แต่กำหมัดแน่น
ผ่านไปครู่หนึ่ง ใบหน้าบิดเบี้ยวของ‘เนี่ยอู๋โยว’ก็เปลี่ยนเป็นน้อยเนื้อต่ำใจ “เป็นความผิดของหนูเอง…ถ้าไม่ใช่ว่าหนูไม่ได้ทำหน้าที่ของแม่ให้ดี…เรื่องอย่างวันนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น…หนูกลับมานานขนาดนี้แล้ว…แต่…ถังถังก็ยังยอมรับในตัวหนูไม่ได้…”
พ่อบ้านที่ยืนอยู่ด้านหนึ่งจ้องหน้าเยี่ยหวันหวั่น แล้วพูดเหยียดหยัน “เรื่องนี้จะโทษคุณหนูอู๋โยวได้ยังไง คุณหนูอู๋โยวเป็นแม่แท้ๆ ของคุณชายน้อยถังถัง ใครที่ไหนก็ไม่รู้จู่ๆ ก็มาอยู่กับคุณชายน้อยอย่างสนิทสนมทั้งวันอย่างนี้ วางแผนอะไรอยู่กันแน่?
ไม่นึกมาก่อนเลยนะว่าแบดเจอร์หัวหน้าพันธมิตรอู๋เว่ยจะเป็นคนใจดีมีเมตตา แล้วก็รักเด็กอย่างนี้?”
นายหญิงตระกูลเนี่ยถอนหายใจ พวกเขารักและเอ็นดูลูกสาวคนนี้มาก พอเห็นลูกสาวเป็นทุกข์เพราะเข้ากับหลานชายไม่ได้ พวกเขาย่อมรู้สึกปวดใจ
เนี่ยหลิงหลงพอใจกับการกระทำของพ่อบ้านมาก เธอหันไปพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนกับถังถังว่า “ถังถัง พี่รองเป็นแม่แท้ๆ ของหลาน หลานกลับสนิทสนมกับคนอื่นมากกว่าสนิทสนมกับแม่แท้ๆ ของตัวเอง แม่ของหลานจะปวดใจแค่ไหนกัน?”
คำพูดของเนี่ยหลิงหลงอาจฟังดูเหมือนกำลังพูดในฐานะผู้ใหญ่คนหนึ่งของถังถัง แต่แท้จริงกลับต้องการจะสื่อว่าถังถังเห็นคนอื่นดีกว่าคนในครอบครัว
ถังถังได้ยินประโยคนั้นแล้วหน้าบึ้งตึงทันที นัยน์ตาที่สว่างสดใสและน่ารักเสมอเมื่ออยู่ต่อหน้าเยี่ยหวันหวั่นยามนี้กลับไม่เหลือความอ่อนโยนซักนิด รอบกายเต็มไปด้วยไอเย็น เขาแหงนหน้า แล้วเอ่ยทีละคำอย่างชัดเจน “เรื่องในตระกูลเนี่ยของเรา ไม่จำเป็นต้องให้คนนอกอย่างคุณมายุ่ง”
คุณแม่ไม่ใช่คนอื่นซักหน่อย!!!