แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 1675 พวกนายขึ้นมาด้วยกันเถอะ บทที่ 1676 หยุดการแข่งขันทุกเมื่อ
- Home
- แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี
- บทที่ 1675 พวกนายขึ้นมาด้วยกันเถอะ บทที่ 1676 หยุดการแข่งขันทุกเมื่อ
บทที่ 1675 พวกนายขึ้นมาด้วยกันเถอะ
ช่วงบ่าย ดวงอาทิตย์คล้อยไปทางทิศตะวันตก เหลือทหารรับจ้างแค่สิบคนสุดท้าย
ทหารรับจ้างระดับ S เก้าคน ทหารรับจ้างระดับ D หนึ่งคน
“บ้าไปแล้ว…ทหารรับจ้างระดับ D ชนะ 27 ตารวด!”
“ตอนนั้นสถิติแรกที่รุ่นพี่เนี่ยหลิงหลงสร้าง คือ 28 ตา…”
“แต่ก็จบแล้ว เยี่ยหวันหวั่นนั่นยังไม่เจอทหารรับจ้างระดับ S สักคนเดียว”
“หึ งานครั้งนี้ทหารรับจ้างระดับ S เก่าแก่ที่แข็งแกร่งหลายคนไม่ได้เข้าร่วม เหมือนอย่างรุ่นพี่สื่อเสินตอนงานครั้งนั้นก็ไม่แม้กระทั่งมา…ไม่รู้ว่าเธอเข้ารอบสิบคนแรกได้ยังไง!”
“หมายเลข 8 เยี่ยหวันหวั่น หมายเลข 2 เมิ่งเข่อ!”
ไม่นานกรรมการตัดสินก็ประกาศ
สิ้นเสียงของกรรมการตัดสิน ทั่วทั้งงานก็เงียบกริบชนิดได้ยินแม้แต่เสียงเข็มตก
เมิ่งเข่อมีสีหน้าเรียบนิ่งขณะก้าวเดินช้าๆ ขึ้นเวที
“ศิษย์น้องเมิ่งเข่อ จำไว้ว่าต้องออมมือด้วย” จู่ๆ เมิ่งเทียนบนที่นั่งผู้แข็งแกร่งสิบอันดับก็หัวเราะหยันเอ่ย
“ศิษย์พี่ ฉันจะพยายามให้เต็มที่ค่ะ” เมิ่งเข่อเอ่ยเสียงเรียบ
บนเวที เยี่ยหวันหวั่นจ้องมองเมิ่งเข่อจากนั้นก็หันไปมองเมิ่งเทียนบนที่นั่งสิบผู้แข็งแกร่ง
“ช้าก่อน!”
ทันใดนั้นเยี่ยหวันหวั่นก็เอ่ยขึ้น
ได้ยินคำพูดนี้ คนทั่วทั้งงานก็หันไปมองเยี่ยหวันหวั่น
นี่คือกำลังจะยอมแพ้เหรอ!
แต่ก็เข้าใจได้ ยังไงเยี่ยหวันหวั่นก็เป็นลูกศิษย์ของผู้อาวุโสกง ลูกศิษย์ของผู้อาวุโสเหลยเฮ่อคงจะไม่ออมมือแน่
ผู้อาวุโสกงพยักหน้าอย่างปลื้มใจ สามารถเข้าสิบผู้แข็งแกร่งได้ก็ไม่เลวมากแล้ว เยี่ยหวันหวั่นในตอนนี้ต่อให้เป็นฝ่ามือมหาเมตตาก็ไม่อาจเป็นคู่ต่อสู้ของเมิ่งเข่อ การยอมแพ้และเข้าใจเหตุผลก็เป็นเทคนิคต่อสู้ชนิดหนึ่ง
เวลานั้นเมิ่งเข่อชำเลืองมองเยี่ยหวันหวั่นแวบหนึ่ง
ถ้าเยี่ยหวันหวั่นยอมแพ้ เธอก็ไม่อาจขัดขวาง ผู้หญิงคนนี้กลับฉลาดอยู่บ้าง
บนที่นั่งกิตติมศักดิ์ ผู้นำอาชูร่ามีสีหน้าไร้อารมณ์ ดวงตาค่อยๆ ตกลงบนตัวของเยี่ยหวันหวั่น
“ผู้ประลองหมายเลข 8 เธอมีปัญหาอะไร”
กรรมการตัดสินบนเวทีหันไปถามเยี่ยหวันหวั่นอย่างรวดเร็ว
“หนูคิดว่า การแข่งอย่างนี้ ไม่มีความหมายค่ะ” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยปากกับกรรมการตัดสิน
ไม่มีความหมาย?
สิ้นคำพูดของเยี่ยหวันหวั่น คนทั่วทั้งงานก็มีสีหน้ายากอธิบาย
ไม่มีความหมายมันหมายความว่ายังไง…
“จะยอมแพ้แล้วคงทำใจไม่ได้ ก่อนยอมแพ้เลยโชว์ฝีปากก่อน…นี่ก็ช่วยไม่ได้ แต่รุ่นน้องคนนี้ก็แข็งแกร่งมากนะ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ทหารรับจ้างระดับ D คนแรกของโรงเรียนชื่อเยี่ยนเข้ารอบสิบผู้แข็งแกร่งของงานแลกเปลี่ยนวิทยายุทธ์!”
“ยอมแพ้ก็ฉลาดแล้ว ยังไงเจอเมิ่งเข่อทหารรับจ้างระดับ S เข้า แถมยังเป็นลูกศิษย์ของผู้อาวุโสเหลยเฮ่อ เจอศัตรูบนถนนแคบ เยี่ยหวันหวั่นนี้ ฉันได้ยินว่าเป็นลูกศิษย์ของผู้อาวุโสกง”
…
บนเวที กรรมการตัดสินขมวดคิ้ว “เธอคิดจะทำอะไร”
“นอกจากเมิ่งเข่อ” ดวงตาของเยี่ยหวันหวั่นมองไปยังที่นั่งสิบผู้แข็งแกร่ง แขนขวายกขึ้นน้อยๆ และใช้นิ้วชี้ชี้ไปที่เมิ่งเทียน “หนูยังอยากประลองกับเขาด้วย”
…
“ว่าไงนะ!”
กรรมการตัดสินมีสีหน้าตกใจ นอกจากเมิ่งเข่อยังอยากประลองกับเมิ่งเทียนด้วย!?
“เธอหมายถึง เธอชนะเมิ่งเข่อแน่นอน หลังชนะแล้วก็อยากต่อสู้กับเมิ่งเทียนอีกเหรอ” กรรมการตัดสินถามอย่างไม่แน่ใจ
“หนูหมายถึง…” เยี่ยหวันหวั่นส่ายหน้า “ให้เมิ่งเข่อกับเมิ่งเทียน ขึ้นมาด้วยกัน”
สิ้นคำพูดนี้ของเยี่ยหวันหวั่น ทั่วทั้งงานก็พลันครึกโครม
อย่าว่าแต่คนอื่น แม้แต่ผู้อาวุโสกงบนที่นั่งกิตติมศักดิ์ก็ตกใจ ลูกศิษย์คนนี้ของเขาบ้าไปแล้วเหรอ!?
“เชี่ย…เยี่ยหวันหวั่นนี่เอาความมั่นใจมาจากไหน!”
“บ้าไปแล้วเหรอ!”
“สู้กับเมิ่งเข่อแล้วก็เมิ่งเทียนทหารรับจ้างระดับ S สองคนพร้อมกันงั้นเหรอ! งั้นก็หมายความว่าหนึ่งสู้สอง? ”
“ล้อเล่นรึไง พลังต่อสู้ของเมิ่งทียนนั่นยังมากกว่าเมิ่งเข่อหนึ่งขั้นอีกตกลงไหม แต่เธอจะหนึ่งสู้สองเนี่ยนะ!”
——————————————————————————————-
บทที่ 1676 หยุดการแข่งขันทุกเมื่อ
หลังภูเขา คนทั่วทั้งงานพากันมองเยี่ยหวันหวั่นบนเวที สีหน้าตื่นตกใจกระทั่งบางคนยังไม่อยากเชื่อ
จำต้องพูดว่า เยี่ยหวันหวั่นเป็นทหารรับจ้างระดับ D เข้าร่วมงานแลกเปลี่ยนวิทยายุทธ์ครั้งนี้ อีกทั้งยังสามารถเดินมาถึงตอนนี้ได้ ชนะติดต่อกัน 27 ตาก็น่าเหลือเชื่อแล้ว กระทั่งทหารรับจ้างระดับ A มากมายก็ยังพ่ายแพ้แก่หญิงสาว แทบจะน่ามหัศจรรย์
พลังต่อสู้ของเยี่ยหวันหวั่นนี้ คนอื่นๆ มองว่าน่าจะบรรลุถึงขั้นทหารรับจ้างระดับ A ขั้นกลางได้แล้ว แต่ถ้าเจอพวกทหารรับจ้างระดับ A ขั้นสูงก็คงไม่อาจเอาชนะ
เมื่อเยี่ยหวันหวั่นเจอเมิ่งเข่อลูกศิษย์ของผู้อาวุโสเหลยเฮ่อ ตัวเลือกที่ฉลากที่สุดก็ควรเป็นการยอมแพ้ทันที
ถึงแม้ยอมแพ้ก็ไม่มีใครคิดว่าไม่เหมาะสมอะไร แต่เยี่ยหวันหวั่นกลับไร้เหตุผลอย่างเหนือความคาดหมายยังคิดจะทำการสู้ต่อ ถึงขั้นว่าทำพฤติกรรมที่คนทั้งงานไม่อาจเข้าใจ นอกจากเมิ่งเข่อก็ยังจะประลองกับลูกศิษย์คนรองของผู้อาวุโสเหลยเฮ่อ จะสู้หนึ่งต่อสอง ในงานแลกเปลี่ยนวิทยายุทธ์ของโรงเรียนชื่อเยี่ยนนี้ยังไม่เคยมีเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นมาก่อน
เวลานี้บนที่นั่งกิตติมศักดิ์ ผู้อาวุโสกงขมวดคิ้วแน่น เขาไม่อาจเข้าใจพฤติกรรมของเยี่ยหวันหวั่น อย่าบอกนะว่า เยี่ยหวันหวั่นอยากล้างแค้นให้ศิษย์พี่รองเจี้ยนหู่ของเธอ?
แต่แม่จะอยากล้างแค้น ก็ยังต้องดูพละกำลังด้วย ถ้าทำโดยไม่รู้จักประมาณตน ก็ดูเหมือนจะโง่เขลาไปหน่อย
อีกทั้งเมิ่งเข่อก็มีจิตศัตรูเต็มที่ต่อเยี่ยหวันหวั่น ไม่มีทางลงมือปรานีแน่
“หวันหวั่น อย่าเหลวไหล!”
เวลานั้นผู้อาวุโสกงยืนขึ้นตะโกนใส่เยี่ยหวันหวั่นที่อยู่บนเวที
ถึงแม้จะขายหน้า แต่ผู้อาวุโสกงก็ไม่อยากเห็นลูกศิษย์ของตัวเองเกิดเรื่องไม่คาดฝันอะไรบนเวที
จี้หวงจ้องเยี่ยหวันหวั่นอย่างดูครุ่นคิด
ด้วยพลังของเยี่ยหวันหวั่น การพลิกแพลงไปตามสถานการณ์คือจุดแข็งของเธอ เจอทหารรับจ้างระดับ A ธรรมไป ก็ใช้ฝ่ามือมหาเมตตาเอาชนะอย่างชาญฉลาด แต่…เจอกับทหารรับจ้างระดับ S พวกนั้น แถมยังจะสู้หนึ่งต่อสู้…
ตามความเข้าใจต่อเยี่ยหวันหวั่นของเขา เยี่ยหวันหวั่นไม่ใช่คนมุทะลุแม้แต่น้อย ถ้าไม่มีหลักประกันก็คงไม่ทำเรื่องอย่างนี้ออกมา
ไม่ไกลนัก ผู้นำอาชูร่ามองเจียงเหยียน
เจียงเหยียนเดินมาข้างตัวผู้นำอาชูร่าอย่างเข้าใจ
ผู้นำอาชูร่าเอ่ยกับเจียงเหยียนเสียงเบาทันที
“อะไรนะครับ…”
ได้ยินดังนั้น เจียงเหยียนมีสีหน้าตกใจกระทั่งว่าอยากเชื่อ
ผู้นำบ้านเขาถึงกับให้เขาเตรียมแทรกแซงการแข่งขันนี้ทุกเมื่อ…
นี่หมายความว่ายังไง
แต่ในเมื่อผู้นำเอ่ยสั่งแล้ว เจียงเหยียนก็ไม่สะดวกพูดอะไรมากได้แต่พยักหน้ารับคำสั่ง
จนถึงเวลานี้เอง เนี่ยหลิงหลงที่หลับตาฝึกจิตมาโดยตลอดจึงค่อยลืมตาขึ้นช้าๆ พิจารณาเยี่ยหวันหวั่นบนเวทีอย่างเรียบนิ่ง
…
บนเวที เยี่ยหวันหวั่นไม่สนใจคำโน้มน้าวของผู้อาวุโสกง สายตาตกลงบนตัวเมิ่งเทียนบนที่นั่งสิบผู้แข็งแกรงอย่างเรียบๆ
“ฮ่าๆๆ …” เมิ่งเทียนเสมือนได้ฟังเรื่องตลกที่น่าขำที่สุดเรื่องหนึ่งไม่ปาน “เธอไม่มีคุณสมบัติท้าฉัน”
แต่เยี่ยหวันหวั่นกลับหันไปหากรรมการตัดสิน “สิบผู้แข็งแกร่งเดิมทีก็ให้คนมาท้าประลอง กรรมการตัดสินคะ เมิ่งเทียนปฏิเสธได้เหรอ”
ได้ยินดังนั้นกรรมการตัดสินนิ่งเงียบชั่วครู่ จากนั้นจึงส่ายหน้าแล้วเอ่ย “ตามกติกาการแข่งขัน เมิ่งเทียนไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ แต่ผู้ประลองหมายเลข 8 เยี่ยหวันหวั่น ฉันต้องเตือนเธอว่าเมิ่งเทียนอยู่อันดับห้าของสิบผู้แข็งแกร่ง เมิ่งเข่ออยู่อันดับแปด และเธออยู่อันดับสิบ แต่ถึงเธอจะประลองกับเมิ่งเข่อและเมิ่งเทียนพร้อมกันและชนะ อย่างมากเธอก็ได้แค่แทนที่เมิ่งเทียน กลายเป็นสิบผู้แข็งแกร่งห้าอันดับแรกเท่านั้น”
“เพียงพอแล้ว” เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้าน้อยๆ กับอันดับอะไรนั่นเธอไม่สนใจแม้แต่น้อย