แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 1831 เก็บแหวนกลับมา บทที่ 1832 ภัยร้ายรุนแรง
บทที่ 1831 เก็บแหวนกลับมา
ไม่นานนักเยี่ยหวันหวั่นก็ออกไป และกลับมาถึงสาขาของซิงเฉินเอ็นเตอร์เทนเมนต์
หลังจากทักทายพวกโจวเทาแล้ว เยี่ยหวันหวั่นก็นั่งอยู่ในห้องทำงาน พินิจดูแหวนวงนี้ที่ซือเยี่ยหานให้ตัวเองมา
เยี่ยหวันหวั่นเล่นแหวนในมือ ไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบหรือวิธีการทำก็ล้วนพิเศษมากภายในของแหวนสลักลายวัชพืชที่ไม่เตะตาดอกหนึ่ง
ตามที่ซือเยี่ยหานบอก เดิมทีแหวนวงนี้ก็เป็นของเธอ และประโยคนี้ไม่น่าจะพูดโกหก ซือเยี่ยหานไม่จำเป็นต้องหยิบแหวนหนึ่งวงมาหลอกเธอแม้แต่น้อย
สำหรับแหวนวงนี้ ซือเยี่ยหานรู้แต่เพียงว่ามันเป็นของเธอ แต่มันจะมีไว้ใช้เป็นสัญลักษณ์อะไรหรือเปล่า กลับไม่รู้อะไรทั้งสิ้น
หลังจากผ่านไปนาน เยี่ยหวันหวั่นก็สวมแหวนวงนี้ลงบนนิ้วมือ
บางทีนี่อาจเป็นแค่แหวนธรรมดาวงหนึ่งที่เธอสวมก่อนที่จะสูญเสียความทรงจำ ไม่ได้มีคุณค่าให้สืบค้นอะไร เยี่ยหวันหวั่นก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก
ในเวลานี้ ณ สถานที่แห่งหนึ่งของเมืองหลวง
ชายวัยกลางคนคนหนึ่งกำลังกดโทรออก
“ค้นพบที่อยู่ของแหวนแล้วครับ” ชายวัยกลางคนเอ่ยกับโทรศัพท์
ไม่นานเสียงอันเย็นชาก็ดังออกมาจากปลายสาย “งั้นเหรอ…”
“นึกไม่ถึงว่าแหวนวงนั้นจะอยู่ในมือของนายแห่งอาชูร่ามาตลอด…แต่นายแห่งอาชูร่าก็คืนแหวนให้เธอแล้ว ดูจากสถานการณ์ตอนนี้ นายแห่งอาชูร่ากับเธอยังไม่รู้ถึงประโยชน์ของแหวนครับ”
เมื่อพูดจบปลายสายก็เงียบไปนานก่อนจะเอ่ยว่า “เก็บแหวนกลับมาเถอะ”
“รับทราบครับ”
หลังจากชายวัยกลางคนได้รับคำสั่งแล้วจึงวางสาย
…….
อีกด้านหนึ่งบ้านตระกูลซือ
ฉินรั่วซีมองข่าวที่สะเทือนฟ้าสะเทือนดินบนอินเทอร์เน็ตสีหน้าทะมึนเล็กน้อย
เดิมทีคิดว่าซือเยี่ยหานตายไปแล้ว…ไม่คิดเลยว่าอยู่ดีๆ อีกฝ่ายจะปรากฏตัวที่ประเทศจีนอีก…
ซือเยี่ยหานหายตัวไปนานขนาดนั้น ตระกูลซือในตอนนี้อยู่ภายใต้การควบคุมของเธอฉินรั่วซีมานานแล้ว ซือเยี่ยหานคนนั้นทำไมถึงต้องกลับมาในเวลานี้! แต่ถึงแม้ซือเยี่ยหานจะกลับมาแล้วก็อย่าได้คิดว่าจะเข้ามาควบคุมตระกูลซือได้อีกครั้ง!
แต่ถ้าซือเยี่ยหานอยากกลับมายังตระกูลซือ และควบคุมอำนาจของตระกูลซืออีกครั้งจริงๆ เกรงว่าคงจะทำได้ไม่ง่ายนัก
“จับตัวผู้หญิงคนนี้กลับมา”
ผ่านไปครู่หนึ่ง ฉินรั่วซีก็หันไปมองหัวหน้าบอดี้การ์ดลับที่อยู่ด้านข้างและเอ่ยขึ้น
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของฉินรั่วซี ชายวัยกลางคนก็พยักหน้าน้อยๆ ก่อนที่จะหันกายจากไป
ขณะเดียวกัน ซือเยี่ยหานกับหลินเชวียทั้งสองคนก็กำลังดื่มกาแฟที่เพิ่งขึ้นโต๊ะภายในห้องส่วนตัวของร้านกาแฟซึ่งมีความเป็นส่วนตัวสูงมากแห่งหนึ่ง
“ผมจะบอกให้นะพี่เก้า ยัยตัวประหลาดนั่น…เอ่อแฟนพี่เก้า จะเชื่อคำพูดของเธอได้เหรอ…” หลินเชวียดื่มกาแฟหนึ่งอึก ก่อนที่จะมองซือเยี่ยหานที่มีสีหน้าไร้อารมณ์และเอ่ยขึ้น
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ซือเยี่ยหานก็เหล่ตามองหลินเชวีย ในดวงตานั้นลึกล้ำและสงบนิ่งไร้คลื่นลมแม้แต่น้อย “ไม่รู้”
“อะ…” หลินเชวียเกือบพ่นกาแฟออกมา คิดหาข้ออ้างตั้งนานขนาดนั้น แต่ผลก็คือจะหลอกเยี่ยหวันหวั่นได้หรือเปล่านั้นซือเยี่ยหานกลับไม่แน่ใจโดยสิ้นเชิง…
“ไม่น่ามีปัญหา” น้ำเสียงของซือเยี่ยหานแสดงความไม่แยแส
หลินเชวียครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงพยักหน้าพลางเอ่ยว่า “แต่…ก็ถูก…คำพูดพวกนั้นที่พี่เก้าพูดแทบจะสมบูรณ์แบบแล้ว หาช่องโหว่ไม่เจอ ตอนนี้ยัยตัวประหลาดนั่น…ไม่สิแฟนพี่เก้าต้องคิดว่าพี่กับนายแห่งอาชูร่าคือคนละคนกัน พอเป็นแบบนี้แฟนพี่เก้าก็ต้องรอพี่อยู่ที่ประเทศจีนไม่ไปที่รัฐอิสระอีกแน่นอน”
ดวงตาของซือเยี่ยหานเผยแววที่ยากจะอธิบาย ถ้าเยี่ยหวันหวั่นอยู่ที่รัฐอิสระ เขาก็จะดูแลเธอได้ตลอดเวลา
———————————————————–
บทที่ 1832 ภัยร้ายรุนแรง
แต่รัฐอิสระนั้นอันตรายเกินไปจริงๆ
ยิ่งไปกว่านั้นเธอก็เติบโตที่รัฐอิสระ ถึงแม้ความทรงจำจะถูกปิดทับแต่หากอยู่ในรัฐอิสระเป็นเวลานาน ทั้งผู้คนและเรื่องราวที่ได้สัมผัสก็ยากที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้เธอจำอะไรได้ เขาต้องห้ามไม่ให้เธอย้อนนึกถึงอดีตอีก…ประสบการณ์ความทรงจำที่ทำให้เธอมีชีวิตอยู่ไม่สู้ตายนั้นมันโหดร้ายเกินไปจริงๆ สำหรับเธอ
“แต่ พี่เก้า ก่อนหน้านี้ที่พี่แสดงตัวในที่สาธารณะ แถมยังใช้ตัวตนซือเยี่ยหานปรากฏตัวรับรองว่าจะต้องทำให้ตระกูลซือตกใจแน่” ผ่านไปนานหลินเชวียก็มองซือเยี่ยหาน
“อืม” ซือเยี่ยหานตอบรับ
“ผมเลยกำลังคิดว่า หลังจากระดับสูงพวกนั้นของตระกูลซือเห็นพี่กลับมา ก็คงคิดว่าพี่หวังจะยึดอำนาจของตระกูลซืออีกครั้งหรือเปล่า…พวกเขาอาจไม่กล้าลงมือกับพี่ แต่ผมคิดว่าพวกเขาอาจลักพาตัวแฟนของพี่ แล้วใช้แฟนของพี่มาข่มขู่พี่นะ” หลินเชวียครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนที่จะเอ่ยความเป็นไปได้นี้สูงเกินไป ถ้าเป็นเขา เขาก็จะทำแบบนี้ ยังไงเสียซือเยี่ยหานก็เอาแต่พูดว่าเยี่ยหวันหวั่นคือผู้หญิงที่เขารักที่สุด ถ้าใช้ผู้หญิงที่ซือเยี่ยหานรักที่สุดมาข่มขู่กระทั่งใช้ควบคุมซือเยี่ยหาน ก็เป็นวิธีที่ฉลาดที่สุด
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของหลินเชวีย ซือเยี่ยหานก็เอ่ยด้วยเสียงเย็นชา “ก่อนจะไปฉันได้เหลือคนไว้จับตาดูตระกูลซือแล้ว”
แม้ซือเยี่ยหานจะไม่มีความผูกพันใดๆ กับตระกูลซือ แต่ยังไงคุณย่าก็ยังอยู่
แต่ซือเยี่ยหานก็ไม่คิดลงมือกับตระกูลซือ ดังนั้นก่อนที่จะจากไปเขาจึงสั่งให้พวกหัวกะทิของอาชูร่าบางส่วนคอยเฝ้าดูอยู่ใกล้ๆ เพื่อดูแลความปลอดภัยของคุณย่า
ถ้าเบื้องบนพวกนั้นของตระกูลซือมีใจคิดไม่ดีกับคุณย่า จะต้องเจอภัยร้ายที่รุนแรงแน่
“ก็ได้…พี่เก้าคิดไว้ละเอียดถี่ถ้วนแล้วถ้างั้นการที่พวกเขาอยากลงมือกับแฟนพี่เก้า ดูท่าก็ไม่น่าจะเป็นไปได้…แต่ว่า…พอพูดถึงเรื่องนี้แล้วแฟนพี่เก้าก็เป็นผู้นำของพันธมิตรอู๋เว่ยนะ ถ้าพวกโง่ของตระกูลซือกล้าทำอะไรกับแฟนพี่เก้าก็คงไม่ถึงมือหัวกะทิพวกนั้นของอาชูร่าหรอก คนของแฟนพี่เก้าก็คงกำจัดตระกูลซือได้แล้ว ฮ่าๆ หวังว่าพวกโง่ตระกูลซือนั่นคงไม่ทำอะไรโง่ๆ นะ”
…
เวลานี้เยี่ยหวันหวั่นกับเป่ยโต่วและชีซิงรวมถึงพวกผู้อาวุโสใหญ่กับผู้อาวุโสสามก็ออกจากซิงเฉินเอ็นเตอร์เทนเมนต์เตรียมขับรถกลับไปยังคฤหาสน์ทะเลทองคำ
“พี่เฟิง เมื่อกี้เจ้าเด็กฟู่หมิงซีนั่นจะแขวนคอฆ่าตัวตาย บอกว่าจะยอมตายเพื่อพี่ แต่ผมขวางไว้แล้ว เรื่องนี้จะทำยังไงดีครับ” ภายในรถเป่ยโต่วจ้องเยี่ยหวันหวั่นพลางเอ่ยขึ้น
เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก แขวนคอฆ่าตัวตาย…
“จริงสิ ฟู่หมิงซียังประกาศว่าจะกวาดล้างตระกูลซือ…ใครอยากแย่งพี่ไปจากเขาเขาก็จะจัดการคนนั้น…เฮ้อ เกินเยียวยาแล้วจริงๆ” เป่ยโต่วถอนหายใจ
หลานคนนี้ของผู้อาวุโสรองเป็นยอดฝีมือจริงๆ ไม่เพียงจิตใจเปราะบางแต่ยังไร้ยางอายอีกต่างหาก แม้แต่เป่ยโต่วก็ยังรู้สึกกลัวเขาแล้ว
“ดูท่าฟู่หมิงซีจะสืบทอดประเพณีอันดีงาม ความไร้ยางอายของปู่เขามา” ผู้อาวุโสใหญ่ที่นั่งอยู่ข้างคนขับพลันเอ่ยปากหัวเราะเยาะ
ความสัมพันธ์ของเหล่าผู้อาวุโสในพันธมิตรอู๋เว่ยต่างก็เป็นแบบนี้ ถ้ามีโอกาสก็ได้ทีขี่แพะไล่กันทั้งนั้น เยี่ยหวันหวั่นชินชากับเรื่องนี้มานานแล้ว
ยังไม่รอให้เยี่ยหวันหวั่นพูดอะไร ผู้อาวุโสสามบนที่นั่งคนขับก็เหยียบเบรกอย่างกะทันหัน เป่ยโต่วที่นั่งอยู่ขวาสุดทั้งร่างเสียสมดุลจนเกือบปลิวออกไปจากตัวรถแต่โชคยังดีที่ประตูรถแข็งแรงพอ
“ขับรถยังไงวะ นี่แกจบจากโรงเรียนสอนขับรถที่ไหนมา ไปขับรถแม่แกไป เชื่อไหมว่าฉันจะเหยียบคันเร่งชนแก!” ผู้อาวุโสสามลดกระจกลงมองรถบรรทุกขนาดเล็กที่ขวางอยู่เบื้องหน้า พลางต่อว่าด้วยความโมโห
……………………………………….