แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 445 รายงานฟ้องนาย บทที่ 446 หรือว่าจะเป็นดาราสักคน
- Home
- แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี
- บทที่ 445 รายงานฟ้องนาย บทที่ 446 หรือว่าจะเป็นดาราสักคน
บทที่ 445 รายงานฟ้องนาย / บทที่ 446 หรือว่าจะเป็นดาราสักคน?
Ink Stone_Romance
บทที่ 445 รายงานฟ้องนาย
สายจากสวี่อี้อย่างนั้นเหรอ?
รายงานฟ้องนายมารวดเร็วขนาดนี้เชียว…
“นายจัดการตัวเองไปก่อนแป๊บหนึ่ง ฉันขอรับโทรศัพท์หน่อย” เยี่ยหวันหวั่นบอกกับลั่วเฉิน
ลั่วเฉินพยักหน้า จากนั้นหยิบบทไปนั่งบนโซฟาอย่างว่าง่าย
“สวัสดีครับ ผมเยี่ยไป๋” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยขึ้น
สวี่อี้ที่อยู่ปลายสายโทรศัพท์ได้ยินเสียงผู้ชายลอดตามสายมาจึงชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็นึกขึ้นได้ทันทีว่าทางเยี่ยหวันหวั่นคงจะมีคนอื่นอยู่ด้วย ถึงได้ยังใช้ฐานะเยี่ยไป๋อยู่
“แค่ก คุณหนูหวันหวั่น เมื่อกี้คนรับใช้ยกยาเข้ามา แต่ผ่านไปสิบนาทีแล้ว คุณชายเก้ายังไม่ทานเลยครับ” สวี่อี้ฟ้องตามหน้าที่อย่างสุดความสามารถ
“เขากำลังทำอะไรอยู่” เยี่ยหวันหวั่นขมวดคิ้วถาม
“ตั้งแต่คุณออกไป คุณชายเก้าก็เอาแต่อ่านเอกสาร” สวี่อี้ตอบอ้อมแอ้ม
“เหอะๆ” เยี่ยหวันหวั่นแค่นหัวเราะ จากนั้นวางสายโทรศัพท์ไปทันที
สวี่อี้ที่อยู่ปลายสายมองโทรศัพท์ที่ถูกตัดสายไป แล้วกลืนน้ำลายตามสัญชาตญาณ
ทำไมถึงรู้สึกว่าเสียงหัวเราะของคุณหนูหวันหวั่นเมื่อกี้…น่ากลัวอยู่หน่อยๆ?
แต่ว่าฟ้าอยู่สูงกษัตริย์อยู่ไกล คุณหนูหวันหวั่นจะมีวิธีทำให้นายท่านกินยาอย่างว่าง่ายจริงๆ เหรอ
ลั่วเฉินที่อยู่ในห้องรับแขกเหลือบมองผู้จัดการส่วนตัวของตัวเองตามจิตใต้สำนึกเช่นกัน
ไม่รู้ว่าเมื่อกี้เขาคุยโทรศัพท์กับใคร ดูเหมือนท่าทางตอนนี้จะน่ากลัวกว่าตอนเข้าถึงบทบาทเมื่อครู่ซะอีก…
หลังวางสายจากสวี่อี้ เยี่ยหวันหวั่นใส่หูฟังบลูทูธ ก่อนโทรหาซือเยี่ยหาน
เธอโทรแบบวิดีโอคอล
ผ่านไปประมาณหลายสิบวินาที ทางนั้นก็รับสาย
“มีธุระอะไร?”
คล้อยหลังเสียงทุ้มต่ำแหบแห้ง หน้าจอโทรศัพท์ก็พลันปรากฏใบหน้าเรียบเฉยอย่างที่สุด ใบหน้าที่ทำให้สิ่งมีชีวิตทั้งหลายต้องหลงใหล
เยี่ยหวันหวั่นถูกใบหน้านั้นสั่นคลอนจนสติหลุดลอย เกือบหลงใหลจนลืมโกรธเพราะความหล่อ ตั้งสติอยู่แวบหนึ่งถึงได้ดีขึ้น
เยี่ยหวันหวั่นเอียงศีรษะ ยิ้มอย่างเกียจคร้าน “ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่เมื่อกี้เบื่อๆ ไม่มีอะไรทำ เลยดูดวงให้คุณ”
บนหน้าจอโทรศัพท์ ซือเยี่ยหานจ้องใบหน้าเล็กของหญิงสาว คิ้วเลิกสูง เธอยิ้มราวดอกไม้บานอยู่แท้ๆ ทว่าแฝงการข่มขู่อย่างชัดเจน…
ถึงขั้นสามารถทำให้ปีศาจร้ายบางตัวเกิดความรู้สึกประเภทที่ว่า…ละอายใจเป็นครั้งแรก…
เป็นอย่างที่คิด วินาทีถัดมา หญิงสาวเปลี่ยนสีหน้า ยิ้มระรื่นเอ่ยว่า “ฉันเห็นว่ามียาถ้วยหนึ่งวางอยู่ข้างๆ คุณ ผ่านไปสิบนาทีแล้ว คุณยังไม่ยอมกินมันให้หมด!”
ซือเยี่ยหานได้ยินดังนั้น พลันเหลือบมองไปทางประตู
ตรงประตู สวี่อี้ที่หลบอยู่ตรงนั้นตกใจกลัวจนสั่นระริก ลนลานชนเข้ากับขอบประตูจนเกิดเสียงดัง ‘ปัง’
เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยเสียงเย็นช้าๆ ทีละคำ “ตอนนี้ ห่างจากฉันสามก้าว มีผู้หญิงสวยมากอยู่คนหนึ่ง ถ้าคุณยังไม่ยอมกินยา ฉันจะกระโจนเข้าไปคร่อมเขาตอนนี้เลย!”
แกะน้อยลั่วเฉินที่อยู่ห่างจากเยี่ยหวันหวั่นสามก้าวนิ่งอึ้ง
ซือเยี่ยหานในจอโทรศัพท์ก็เงียบฉี่
แววตาของเยี่ยหวันหวั่นไม่สั่นไหวแม้แต่น้อย กำลังบอกกับอีกฝ่ายอย่างชัดเจนว่า หากเขาไม่ยอมทานยา ไม่ว่าอะไรเธอก็ทำได้จริงๆ
สุดท้าย…
แขนของซือเยี่ยหานยื่นออกไปเล็กน้อย ยกถ้วยยาข้างกายขึ้นมา
เยี่ยหวันหวั่นเห็นซือเยี่ยหานทานยาอย่างว่าง่ายแล้ว ถึงค่อยพึงพอใจ “ตอนนี้ไปพักสักครึ่งชั่วโมงค่อยทำงานต่อ! ห้ามวางสายด้วยนะ ฉันจะดูคุณพักผ่อน!”
พูดจบก็ปล่อยให้โทรศัพท์อยู่ในโหมดวิดีโอคอลต่อไป วางไว้ข้างกาย เตรียมจะพูดเรื่องบทกับลั่วเฉินต่อ
หลังจากนั้น เมื่อเยี่ยหวันหวั่นเงยหน้าขึ้นก็เห็นลั่วเฉินก้มหน้างุด และเหมือนหูจะแดงนิดหน่อย
ตอนนี้เองเธอถึงได้นึกขึ้นได้ เฮ้อ ห่างจากเธอไปสามก้าวมีสาวงามคนหนึ่งอยู่จริงๆ ซะด้วย…
………………………………………………………….
บทที่ 446 หรือว่าจะเป็นดาราสักคน?
เยี่ยหวันหวั่นรีบกระแอม อธิบายว่า “อะแฮ่ม สายจากแฟนฉันน่ะ เขาไม่ยอมกินยาดีๆ ฉันก็เลยต้องใช้เทคนิคพิเศษนิดหน่อย!”
ลั่วเฉินผงกหัวเล็กน้อย สื่อความหมายว่าเข้าใจ
แม้ว่าท่าทางของเขาเมื่อครู่จะน่ากลัวมาก แต่ก็ยังฟังออกว่ามีความห่วงใยที่ซ่อนไม่มิดอยู่ในน้ำเสียง
สายโทรศัพท์จากแฟนสาวนี่เอง…
เวลาหลังจากนั้น ปีศาจร้ายบางตัวย่อมไม่สามารถทำงานต่อไปได้อีก แค่จ้องเยี่ยหวันหวั่นกับสาวงามก็ยุ่งมากพอแล้ว…
พ่อบ้านสวี่ซึ่งซ่อนตัวอยู่ตรงประตูทำท่าทางเหมือนสิ่งที่เห็นงดงามที่สุดแล้ว
คุณหนูหวันหวั่นก็สุดยอดไปเลย นายท่านไม่เพียงยอมทานยาแต่โดยดี แม้แต่งานก็หยุดทำด้วย…
ทำได้ยังไงกันแน่?
……
เพราะเหลือเวลาอีกแค่สามวันก็จะเป็นวันทดสอบหน้ากล้องแล้ว เยี่ยหวันหวั่นจึงรีบตักตวงเวลา พูดคุยเรื่องบทกับลั่วเฉินติดต่อกันนานหลายชั่วโมง
ตอนที่คุยกันเสร็จ เยี่ยหวันหวั่นหยิบโทรศัพท์ติดมือมา ผลปรากฏว่าเมื่อหยิบโทรศัพท์ก็ต้องตกใจสะดุ้ง เพราะเธอพบว่าโทรศัพท์ยังอยู่ในโหมดวิดีโอคอล!
“คุณยังไม่วางไปอีกเหรอ?” เยี่ยหวันหวั่นประหลาดใจ
ซือเยี่ยหานตวัดสายตามองเธอผ่านกล้อง สายตานั้น…เหมือนจะแฝงแววตัดพ้อไว้…
อะแฮ่ม…
แต่ก็เหมือนจะช่วยไม่ได้นี่นะ แฟนสาวอยู่กับผู้ชายอื่นตลอดทั้งบ่าย แต่ตัวเองกลับทำได้แค่คุยผ่านวิดีโอคอล
เยี่ยหวันหวั่นรีบเอ่ยเอาใจเสียงหวาน “ที่รัก เป็นเด็กดีนะ ขอแค่คุณรักษาอาการป่วยดีๆ ฟื้นฟูร่างกายดีๆ มีชีวิตอยู่อีกนานๆ ต่อไปพวกเรายังมีเวลาอีกน้านนานให้อยู่ด้วยกัน อยู่จนหัวหงอกไปด้วยกันเลยเนอะ! ใช่ไหม”
แม้จะรู้ว่าคำพูดกล่อมเด็กของเธอพูดไปอย่างนั้นเอง ไม่ได้จริงใจอะไร สีหน้าของซือเยี่ยหานก็ยังละมุมกว่าเดิมไม่น้อย เอ่ยขึ้นเรียบๆ ว่า “คืนนี้กลับมาหรือเปล่า?”
“กลับสิ กลับ! คุณไม่สบายก็ไม่ต้องเดินทางหรอก ฉันจะไปหาคุณเอง วางสายก่อนนะคะ ฉันเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วจะออกไปเลย” เยี่ยหวันหวั่นพูดจบก็วางสาย จากนั้นเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดผู้หญิง
ก่อนจะไปบ้านใหญ่ เยี่ยหวันหวั่นตั้งใจไปที่ร้านขนมหวานก่อน เตรียมจะซื้อขนมหวานและผลไม้แช่อิ่มให้ซือเยี่ยหานสักหน่อย
แม้ว่าเวลาที่เขาทานยาจะไม่แสดงสีหน้าออกมา แต่ยาจีนพวกนั้นแค่ดมก็น่ากลัวมากพอแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าต้องทานยานั่นลงไปด้วยตัวเองเลย
ซื้อผลไม้แช่อิ่มไปให้ เวลาเขาทานยาเสร็จจะได้ทานสักสองสามชิ้น น่าจะดีหน่อย
ร้านขนมหวานร้านนี้ขายดีมาก มีลูกค้าต่อแถวรอยาวเหยียด เยี่ยหวันหวั่นรอคิวอยู่เกือบครึ่งชั่วโมง ในที่สุดก็ถึงคิวตัวเอง
“คุณลูกค้า รับอะไรดีคะ?” พนักงานร้านเอ่ยถาม
เยี่ยหวันหวั่นตั้งใจมาซื้อผลไม้แช่อิ่ม ผลไม้แช่อิ่มสูตรลับทำเองของร้านนี้มีชื่อเสียงโด่งดังมาก
เธอถามถึงสามกระป๋องที่เหลือ “คนหนึ่งซื้อได้มากสุดแค่สามกระป๋องใช่ไหมคะ?”
“ใช่ค่ะ” พนักงานร้านตอบ
“ถ้างั้นเอาหมดเลยค่ะ!” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย
“ได้ค่ะ” พนักงานยิ้มตอบขณะเริ่มใส่ถุงให้
เยี่ยหวันหวั่นเตรียมจะเลือกอย่างอื่นอีก ทว่าพริบตาที่เธอเพิ่งพูดว่า ‘เอาหมดเลย’ เหมือนจะมีเสียงสูดหายใจฟึดฟัดมาจากทางด้านหลัง
เยี่ยหวันหวั่นจึงหันไป พบว่ามีชายหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่ด้านหลังเธอ กุมตำแหน่งหัวใจของตัวเองไว้ด้วยท่าทางเจ็บปวดมาก
ชายหนุ่มสูงประมานร้อยแปดสิบเซนติเมตรนิดๆ สวมเสื้อคลุมโฮโลแกรมแฟชั่นใหม่ล่าสุดที่มีจำนวนจำกัด กางเกงยีนส์ทรงขาด ผมสีน้ำตาลเหลือบเทาย้อมไฮไลท์สีชมพูซากุระอยู่หลายช่อ
กลางค่ำกลางคืน คนคนนี้ไม่เพียงใส่หน้ากากหนาเตอะ ยังสวมแว่นกันแดดอันใหญ่ ปกปิดใบหน้าไว้อย่างมิดชิด
ด้วยลางสังหรณ์อันเฉียบคมของเยี่ยหวันหวั่น คนที่แต่งตัวมิดชิดขนาดนี้ตอนค่ำ แปดสิบเปอร์เซ็นต์คือ…บุคคลสาธารณะ…
หรือว่าจะเป็นดาราสักคน?
……………………………………………………