แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 515 ไม่ใช่ฉันที่เปลี่ยนไป บทที่ 516 เธอน่ากลัวมากเลยเหรอ
- Home
- แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี
- บทที่ 515 ไม่ใช่ฉันที่เปลี่ยนไป บทที่ 516 เธอน่ากลัวมากเลยเหรอ
บทที่ 515 ไม่ใช่ฉันที่เปลี่ยนไป / บทที่ 516 เธอน่ากลัวมากเลยเหรอ
Ink Stone_Romance
บทที่ 515 ไม่ใช่ฉันที่เปลี่ยนไป
ขณะมองเจ้านายของตัวเองกล้ากอดเทพสังหารที่กำลังโกรธสุดขีดไว้ในอ้อมอกตาปริบๆ สวี่อี้ตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ
“คุณ…คุณชายเก้า…”
อันตรายนะครับ!
ทว่า เห็นแต่เยี่ยหวันหวั่นมองใบหน้ากรุ่นโกรธของชายหนุ่ม ราวกลับจากขุมนรกมาสู่โลกมนุษย์ ความบ้าเลือดและจิตสังหารค่อยๆ ถอยออกไปดุจคลื่นน้ำ
“คุณเก้า…” ราวกับรู้ว่าในที่สุดตัวเองก็ปลอดภัยแล้ว หญิงสาวเก็บรังสีน่าหวาดกลัวทั้งหมดรอบตัว ร่างกายที่อยู่ในสภาพพร้อมสู้อ่อนยวบลงทันทีเพราะใช้งานเกินลิมิต
แม้ใบหน้าของซือเยี่ยหานจะเย็นชาอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ทว่าท่าทางที่โอบเอวอุ้มเธอขึ้นมากลับเบามือมาก
“สวี่อี้ ส่งผู้หญิงคนนั้นกลับบ้านด้วย แล้วก็ปิดข่าวทั้งหมดในคืนนี้” ซือเยี่ยหานสั่งประโยคหนึ่ง จากนั้นก้าวเท้ายาวอุ้มเยี่ยหวันหวั่นจากไป
เห็นเยี่ยหวันหวั่นถูกเจ้านายตัวเองอุ้มไปอย่างง่ายดายเหมือนแมวตัวน้อยไร้พิษภัยตัวหนึ่ง กลุ่มคนนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ ผ่านไปครู่หนึ่ง ทุกคนพากันถอนหายใจโล่งอก ทำหน้าราวเพิ่งจะรอดชีวิตจากวิกฤต
ด้วยเพราะตึงเครียดมากเกินไป เบื้องหน้าสืออียังคงพร่าเลือน สีหน้าอึ้งตะลึง เขารอดแล้วเหรอ?
นี่มัน…น่ากลัวเกินไปแล้ว…
ต่อให้เป็นทหารแนวหน้าระดับโลกหรือผู้สืบทอดตระกูลวิชาต่อสู้โบราณเหล่านั้น เขาก็ไม่เคยรู้สึกถึงจิตสังหารน่ากลัวและฝีมือร้ายกาจจนแทบเรียกได้ว่าปีศาจแบบนี้
ดูจากท่าทางของนายท่าน แม้ว่าจะโกรธ แต่สีหน้าไม่มีเค้าลางว่าคาดไม่ถึง
นายท่านรู้แต่แรกแล้วว่าคุณหนูเยี่ยหวันหวั่นมีฝีมือขนาดนี้?
ก่อนหน้านี้ตอนที่เยี่ยหวันหวั่นปลอมตัวเป็นหญิงหม้ายชุดดำ เขาก็รู้สึกได้แล้วว่าเธอไม่ธรรมดา ในการประชุมของตระกูล ตอนเธอใช้มือขวางบอดี้การ์ดซึ่งจะลงโทษสวี่อี้ เขาเดาว่าเธอคงมีฝีมืออยู่บ้าง
จนกระทั่งคืนนี้ ความสามารถที่แท้จริงของเธอเผยออกมาหมดแล้ว…
สวี่อี้ที่ล้มไม่เป็นท่าได้ยินคำสั่งของซือเยี่ยหาน ก็รีบลุกขึ้นมาขานรับ “ครับ!”
แม้ว่าเยี่ยหวันหวั่นเตะเขากระเด็นจะดูรุนแรง แต่เขาเจ็บช่วงอกอยู่บ้างเท่านั้น เทียบกับอาการบาดเจ็บของหลิวอิ่งกับสืออีแล้วดีกว่าพอควรทีเดียว
ขณะที่สวี่อี้มองเจ้านายตัวเองอุ้มหญิงสาวหายไปทางประตู ในหัวก็นึกถึงคำที่ซือเยี่ยหานเคยพูดกับหลิวอิ่ง
นายท่านบอกว่า…ผู้หญิงที่เขาชอบ…เป็นหนึ่งเดียวในโลก…
สวี่อี้ดึงสติกลับมา รีบสั่งการให้ลูกน้องส่งเจียงเยียนหรานกลับไป จากนั้นปิดข่าวทั้งหมดในคืนนี้
ส่วนเฉินซื่อเจี๋ย…
หลังจากผ่านคืนนี้ไป เกรงว่าชื่อของตระกูลเฉินจะหายไปจากเมืองหลวงแล้ว
“คุณ…คุณชายเก้า…?” นายหัวทองที่ขดตัวอยู่ในมุมเมื่อครู่แค่ตกใจ ทว่าตอนนี้อึ้งตาค้างไปแล้ว ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ
ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้…
ผู้หญิงคนนั้นเป็นผู้หญิงของซือเยี่ยหานไปเสียได้?
มิน่าล่ะถึงได้น่ากลัวขนาดนี้!
จบแล้ว…จบสิ้นแล้ว…
สวี่อี้ไม่สนใจคนพวกนั้น เดินผ่านพวกเขาไปด้านหน้าหลิวอิ่งที่หายใจรวยริน
ตอนแรก เขาได้ข่าวมาว่าคุณหนูเยี่ยหวันหวั่นอยู่ที่บาร์ กำลังถูกพวกเฉินซื่อเจี๋ยเกาะแกะไม่ปล่อย
คืนนี้หลิวอิ่งกับซ่งจิ้งเป็นคนไปที่บาร์กับคุณหนูเยี่ยหวันหวั่น ทำไมถึงได้บกพร่องขนาดนี้ได้
เขารู้จักหลิวอิ่งดี จึงเดาเรื่องราวได้ไม่ยาก
สวี่อี้ยืนอยู่ที่เดิม กดสายตาลงมองชายหนุ่มที่นอนอยู่ที่พื้น “หลิวอิ่ง จำคำสาบานที่พวกเราสาบานด้วยกันตอนนั้นได้ไหม?”
หลิวอิ่งเงยหน้าขึ้นช้าๆ สีหน้าตื่นตระหนกเล็กน้อย
สวี่อี้มองเขาด้วยสายตาเรียบนิ่ง เอ่ยช้าๆ ชัดๆ ทีละคำ “หลิวอิ่ง ไม่ใช่ฉันที่เปลี่ยนไป แต่เป็นนายต่างหาก”
คนที่ลืมว่าตัวเองเป็นใคร ลืมว่าตัวเองภักดีต่อใคร ก็ไม่ใช่เขาเหมือนกัน
เท่าที่รู้จักกันมา เขาพูดได้เพียงเท่านี้แล้ว
เมื่อพูดประโยคนี้จบ สวี่อี้ก็ไม่พูดสิ่งใดอีก หันกายจากไปทันที
……………………………………………………..
บทที่ 516 เธอน่ากลัวมากเลยเหรอ
ตกกลางคืน ที่จิ่นหยวน
ซือเยี่ยหานจับจ้องหญิงสาวที่อยู่บนเตียง ภายใต้นัยน์ตานิ่งลึกมีลมฝนพัดกระหน่ำ
ในสมองมีภาพเหตุการณ์ในบาร์เหล้าก่อนหน้านี้วนซ้ำไปมา…
หญิงสาวต่อสู้อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยราวถูกบีบจนถึงทางตัน…
ใบหน้าเล็กเรียบนิ่ง เฉยชา…
รวมทั้งสีหน้าโล่งใจในทันทีที่เห็นเขา…
ทำให้จุดที่บอบบางที่สุดในหัวใจเขาคล้ายมีกรงเล็บแหลมตะปบ เจ็บปวดจนแทบขาดใจ…
ในขณะเดียวกัน บ้านเดี่ยวหลังหนึ่งในเมืองหลวง
ซือเซี่ยนั่งเหม่ออยู่ด้านหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่ส่องแสงสว่าง
บนหน้าจอคือรูปกลุ่มแล้วกลุ่มเล่า
ปืนกับดอกไม้สด…
เค้กสตรอว์เบอร์รีกับเค้กส้ม…
หมู่บ้านที่มีควันจากปล่องไฟกับทะเลดวงดาว…
รูปภาพแสดงบนหน้าจอฉายวนไปมาต่อเนื่องแบบอัตโนมัติ
เวลานี้เอง เสียงแจ้งเตือนพิเศษดังขึ้นมา
ชายหนุ่มเปิดอีเมลอย่างจิตใจไม่อยู่กับตัว เปิดดูข้อมูลโดยไม่คาดหวังเหมือนที่แล้วมา
ในอีเมลนั้นเป็นคลิปสั้นๆ คลิปหนึ่ง ภาพในคลิปสั่นไหว ท่ามกลางแสงไฟสลัวและผู้คนที่โกลาหล ความเร็วของหญิงสาวสูงเสียจนแทบมองเห็นเพียงเงา ทุกการโจมตีของเธอรุนแรง ทุกครั้งล้วนเป็นท่าสังหาร ลูกเตะสุดท้ายเตะเข้าที่หน้าอกของหลิวอิ่ง…
พริบตาที่เห็นคลิปวีดีโอชัดเจน ซือเซี่ยลุกพรวดขึ้น สีหน้าเปลี่ยนไปทันที นัยน์ตาสีเทาอ่อนเปล่งประกาย พึมพำอย่างไม่อย่างจะเชื่อว่า “พี่สาว…”
…
เช้าตรู่วันถัดมา
ดวงอาทิตย์ส่องลอดผ่านกิ่งไม้ใบไม้ สาดแสงทองอาบห้องนอนเป็นเงาพร้อย เงาต้นไม้ขยับไหวเล็กน้อยท่ามกลางลมแผ่วในยามเช้า เกิดเป็นเสียงดังซู่ซ่า
หญิงสาวนอนสงบอยู่บนเตียงนอนสีขาวบริสุทธิ์ ใบหน้าเล็กๆ เกลี้ยงเกลาไร้รอยตำหนิ บริสุทธิ์ไร้ราคี บอบบางราวดอกไม้ราคาแพงในห้องกระจก ไม่อาจทานทนต่อลมฝนได้
เยี่ยหวันหวั่นตื่นขึ้นเพราะอาการปวดศีรษะ
อาการเมาค้างทำให้ศีรษะเธอเหมือนมีขวานผ่าออกเป็นสองซีก ปวดจนแทบร้องขอชีวิต
บ้าจริงๆ…
เกิดอะไรขึ้น?
เธอกลับมาถึงจิ่นหยวนได้ยังไง?
เธอจำเมื่อคืนได้ชัดๆ…
เมื่อคืนเธอไปหาเจียงเยียนหรานที่บาร์เหล้า ต่อมาเหมือนจะเจอคนกลุ่มหนึ่งมาหาเรื่อง…
เหมือนจะถูกกรอกเหล้าไปไม่น้อย…
ต่อมา…ต่อมาเหมือนว่าจะจำไม่ค่อยได้แล้ว…
จริงสิ ซือเยี่ยหานล่ะ?
เยี่ยหวันหวั่นพบว่าข้างกายไม่มีใครอยู่แล้ว จึงนวดขมับที่กำลังปวดตุบๆ พลางลุกลงจากเตียง
เพิ่งจะลุกขึ้นเตรียมลงจากเตียง ผลคือเกือบหงายหลังฟาดพื้น
เฮ้ย!
นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย?
กล้ามเนื้อทั้งตัวเธอปวดเมื่อยอย่างกับไปวิ่งรอบเมืองหลวงมาทั้งคืน ขาทั้งสองไม่ใช่ของตัวเองอีกต่อไป แม้แต่แขนแค่ยกขึ้นนิดหน่อยก็ปวดจนต้องกัดฟัน
บ้าไปแล้ว…
เมื่อคืนนี้เธอไปทำอะไรมากันแน่ ทำไมถึงได้เหมือนโดนซ้อมมาแบบนี้?
เยี่ยหวันหวั่นฉงนสงสัย ได้แต่จับขอบเตียงประคองตัวเองไปนอกห้องนอนทีละนิดอย่างยากลำบาก
กว่าจะเดินมาถึงประตูได้ไม่ง่ายเลย เยี่ยหวันหวั่นค่อยๆ เอื้อมมือผลักเปิดประตูห้อง
เมื่อเธอเปิดประตูออก ด้านนอกประตูมีบอดี้การ์ดสองคนยืนคุยกันอยู่ตรงนั้นพอดี
เยี่ยหวันหวั่นก็เลยรีบเอ่ยถามสองคนนั้นว่าซือเยี่ยหานอยู่ที่ไหน “คือว่า ถามหน่อยสิ เจ้านายของ…”
เธอทางนี้เพิ่งจะเอ่ยปาก พริบตาที่บอดี้การ์ดสองคนนั้นเห็นเธอก็ทำท่าคล้ายเห็นอสูรร้ายในตำนาน ทำสีหน้าหวาดกลัวเป็นที่สุด แม้แต่ผมก็ตั้งชันขึ้นมาแล้ว ทั้งสองส่งเสียง “อ๊ะ” แล้ววิ่งหายไป…
เอ่อ เจ้านายของพวกนาย…อยู่ที่ไหน…
เยี่ยหวันหวั่นไม่มีโอกาสพูดออกไป ได้แต่ยืนนิ่งอยู่ในท่ายื่นมืออกไปสอบถามอยู่ตรงนั้น มุมปากกระตุกครู่หนึ่ง
นี่มันหมายความว่ายังไง?
เธอน่ากลัวมากเลยเหรอ?
…………………………………………………………