แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 555 ผมชอบสไตล์ดุดันบ้าอำนาจ บทที่ 556 ไฟหิ่งห้อย
- Home
- แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี
- บทที่ 555 ผมชอบสไตล์ดุดันบ้าอำนาจ บทที่ 556 ไฟหิ่งห้อย
บทที่ 555 ผมชอบสไตล์ดุดันบ้าอำนาจ
“เอ้อ จริงสิ เยี่ยไป๋ นายก็ดูดวงให้ฉันหน่อยสิ หอที่อยู่ใกล้น้ำ ได้รับแสงจันทร์ก่อน[1] ฉันรู้จักนายมาตั้งนานขนาดนี้แต่กลับไม่เคยให้นายดูดวงให้เลย รู้สึกขาดทุนจัง!” จู่ๆ หานเซี่ยนอวี่ก็นึกขึ้นมาได้
เยี่ยหวันหวั่นมองหานเซี่ยนอวี่ด้วยสีหน้าจนปัญญา “อนาคตของนายสวยงามราวกับผ้าไหมดิ้นอยู่แล้ว มีอะไรต้องดูอีก!”
“ช่วยฉันดูเรื่องเนื้อคู่หน่อยสิ! ยกตัวอย่างเช่นฉันจะมีดวงด้านความรักเมื่อไหร่?”
เยี่ยหวันหวั่นได้ยินดังนั้น พลางย้อนนึกขึ้นมา “เนื้อคู่งั้นเหรอ…?”
“เป็นไง?” สีหน้าหานเซี่ยนอวี่เผยความตื่นเต้น
เยี่ยหวันหวั่นลูบคาง นิ่งอยู่นานก่อนเอ่ยขึ้นว่า “คงจะไม่มีละมั้ง…”
หานเซี่ยนอวี่นิ่งอึ้ง “อะไรนะ? ไม่มีงั้นเหรอ! หรือว่าฉันจะต้องเป็นโสดชั่วชีวิต?”
เยี่ยหวันหวั่นรีบเอ่ยขึ้นว่า “เฮ้อ ไม่ใช่ๆ…ความหมายของฉันคือ…โทษที เรื่องนี้ฉันคงดูให้ไม่ได้…”
ศิลปินที่มือชื่อเสียงในวงการหรือการเปลี่ยนแปลงเส้นทางชีวิตที่สำคัญของดาราบางคนเธอยังพอรู้บ้างนิดหน่อย แต่ปัญหาคือชีวิตในชาตินี้ของหานเซี่ยนอวี่ถูกเธอเปลี่ยนไปแล้วน่ะสิ!
ดังนั้น หานเซี่ยนอวี่ในอนาคตจะเป็นอย่างไร เธอย่อมไม่มีทางรู้อยู่แล้ว
“ทำไมถึงดูไม่ได้?” หานเซี่ยนอวี่ขมวดคิ้ว
เยี่ยหวันหวั่นเองก็อธิบายไม่ได้ ทำได้เพียงพูดไปว่า “เฮ้อ เรื่องนี้น่ะนะ เป็นเรื่องลึกลับ พูดไปนายก็ไม่เข้าใจ สรุปแล้วก็คือบางคนจะค่อนข้างพิเศษ ฉันดูดวงให้ไม่ได้!”
หานเซี่ยนอวี่ทำท่าเหมือนจะเข้าใจแต่ก็ไม่เข้าใจ “พิเศษ…”
เฉียวเข่อซินก็รีบถามทะลุปล้องขึ้นมา “แล้วฉันล่ะๆ?”
“ดวงความรักพี่ซินรุนแรงขนาดนี้ ยิ่งไม่ต้องให้ผมดูแล้วล่ะมั้ง?” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยขึ้น
“เรื่องนี้มัน…” เฉียวเข่อซินพูดพลางมอง “ดอกรัก” ตรงหน้าที่ไม่ทันบานก็ดันตายเสียก่อนแล้ว
คิดไม่ถึงว่ากว่าจะได้เจอกับน้องชายที่ตรงสเปคมากๆ ครั้งนี้ ฝ่ายตรงข้ามก็มามีแฟนเสียแล้ว อย่างไรเธอก็ยังเสียดายมากอยู่ดี
“จริงสิ คืนนี้ฉันขอเป็นเจ้ามือฉลองเอง เสี่ยวไป๋ นายไปด้วยกันไหม?” เฉียวเข่อซินเอ่ยถาม
“พี่ซินเชิญทั้งที ผมก็ต้องไปอยู่แล้ว เพียงแต่ ผมต้องโทรรายงานแฟนนิดนึงก่อน” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย
เฉียวเข่อซินได้ยินดังนั้นพลันเลิกคิ้วขึ้น “ก็แค่ไปร่วมงานเลี้ยงเอง ต้องรายงานด้วยเหรอ?”
หานเซี่ยนอวี่ที่อยู่ด้านข้างรีบช่วยอธิบาย “พี่ซิน คือว่า แฟนของเสี่ยวไป๋ ค่อนข้างดุน่ะ…”
ใบหน้าเฉียวเข่อซินเผยความประหลาดใจ เหมือนว่าจะนึกไม่ถึง “มองไม่ออกเลยว่า เสี่ยวไป๋จะกลัวแฟนด้วย…”
ในเมื่อคืนนั้นเขาสนุกสนานถึงขั้นโปรสเสน่ห์ให้ทั้งหญิงทั้งชาย
หานเซี่ยนอวี่หัวเราะขึ้นเบาๆ อย่างขบขัน “ที่จริงครั้งแรกที่ผมรู้ก็ตกใจมากเหมือนกัน”
เยี่ยหวันหวั่นคิดในใจว่าเธอไม่ได้ทำอะไรผิดนี่นา เธอจะกลัวแฟนไม่ได้หรือไง?
เฉียวเข่อซินพึมพำ “ฉันหลงคิดว่านายน่าจะชอบสไตล์ขี้อ้อนชอบพึ่งพาซะอีก!”
เยี่ยหวันหวั่นหัวเราะแห้ง “เปล่า ผมชอบสไตล์ดุดันบ้าอำนาจต่างหาก…”
…
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว
เรื่องราวของฉีเหม่ยหลินหลุดออกมาเรื่อยๆ สุดท้ายหวงเทียนทำได้แค่ทิ้งหมากตัวนี้ไป ประกาศแบน
ทางด้านเฉียวเข่อซิน คำขอบคุณของเธอในงานประกาศรางวัลจินหลาน ทำให้ห้องตั๋ว ‘ตำนานจิ้งซู’ คึกคักขึ้นมาอีกครั้ง ทำลายสถิติอีกหลายรายการ บวกกับภายใต้การเปรียบเทียบกับฉีเหม่ยหลิน เฉียวเข่อซินถูกเอาเปรียบมานานหลายปี คำวิพากษ์วิจารณ์เริ่มพัฒนาไปในทางยุติธรรม
ส่วนเยี่ยหวันหวั่นเอง ตารางงานของเธอแน่นเอียดแทบทุกวัน นอกจากเรียนและทำงานแล้ว เวลาส่วนใหญ่ก็คือช่วยฝึกพวกสืออี ในเมื่อการแข่งขันคัดเลือกหัวหน้าเหลืออีกไม่กีวันแล้ว ความกดดันของเธอที่มาเป็นอาจารย์อย่างงงๆ นั้นสูงใหญ่เท่าภูเขาเลยทีเดียว…
……………………………………………………………………
บทที่ 556 ไฟหิ่งห้อย
ตระกูลซือ ห้องประชุมบอดี้การ์ดลับ
หลิวอิ่งสวมชุดสีดำคล่องตัว นั่งอยู่บนที่นั่งประธานด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
ด้านในห้องประชุมมีคนนั่งอยู่สิบกว่าคน ซึ่งก็คือหัวหน้าบอดี้การ์ดลับทีมย่อยของตระกูลซือนั่นเอง
“หัวหน้าหลิวอิ่ง การประลองครั้งนี้อีกไม่กี่วันจะเริ่มขึ้นแล้ว หัวหน้าจะต้องสั่งสอนไอ้สืออี คนไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงนั่นให้สำนึกเสียบ้าง!” หัวหน้าบอดี้การ์ดลับทีมย่อยรูปร่างบึกบึนคนหนึ่งเอ่ยขึ้น
“เฮอะ…”
หลิวอิ่งปรับเปลี่ยนร่างกายให้อยู่ในท่าที่สบาย หรี่ตาเอ่ยว่า “ไอ้สาม เรียกฉันว่าหลิวอิ่งก็พอ ตอนนี้หัวหน้าใหญ่คือสืออี”
“หัวหน้า หัวหน้าพูดอะไร ขนาดตำแหน่งหัวหน้าทีมย่อย 1 สืออียังได้มาอย่างไม่โปร่งใส อย่างเขาน่ะเหรอ จะคิดแย่งตำแหน่งหัวหน้าใหญ่กับหัวหน้า?” หัวหน้าทีมย่อย 3 ที่ถูกเรียกว่าไอ้สาม ส่งเสียงเฮอะ
ด้านข้างมีคนเอ่ยขึ้นว่า “ผมได้ยินมาว่า ช่วงนี้สืออีฝึกฝนอย่างหนักในห้องซ้อม ไม่ค่อยออกมาเจอผู้คน น่าจะกำลังเตรียมตัวชิงตำแหน่งครั้งนี้”
อีกคนหนึ่งได้ยินก็เอ่ยขึ้นทันที “ไม่ว่าเขาจะซ้อมหนักขนาดไหน ก็เป็นแค่แมลงตัวเล็กๆ ในสายตาหัวหน้าเท่านั้น จะไปทำอะไรได้?”
“ใช่แล้ว…จะบอกข่าวหนึ่งกับทุกคน” หัวหน้าทีมย่อย 3 หัวเราะพลางพูดว่า “มีข่าวว่า สืออีคำนับเยี่ยหวันหวั่นเป็นอาจารย์ ให้เยี่ยหวันหวั่นสอนเทคนิคการต่อสู้กับเขา พวกนายกลับไหมล่ะ?”
เมื่อเหล่าซานพูดจบ เสียงหัวเราะครืนก็ดังขึ้นในห้องประชุมทันที
“สืออีมันโง่จริงๆ ถ้าหากไม่ใช่เพราะหัวหน้าหลิวอิ่งเห็นแก่นายท่าน เยี่ยหวันหวั่นคงโดนหัวหน้าชกตายไปแล้ว แล้วจะมีที่ให้เธอเต้นแร้งเต้นกาในบาร์งั้นเหรอ?”
เมื่อพูดถึงเรื่องที่บาร์วันนั้น ดวงตาของหลิวอิ่งพลันเผยความมืดมนออกมา
ผู้หญิงคนนั้นก็แค่แรงเยอะ ทั้งดาษดื่นและธรรมดา เขาไม่เข้าใจเลยว่านายท่านที่ฉลาดปราดเปรื่องเสมอมา ทำไมถึงได้หลงใหลแจกันประดับใบนี้จนเสียสติไปได้!
ผู้หญิงแบบนี้ จะเอามาเทียบกับคุณหนูรั่วซีได้อย่างไร?!
“หัวหน้าหลิวอิ่ง สืออีคงไม่ได้คิดจะประจบเยี่ยหวันหวั่น ให้เยี่ยหวันหวั่นกระซิบข้างหมอนนายท่านหรอกใช่ไหม…ถึงเวลา ถ้านายท่านใจอ่อนขึ้นมา…ให้สืออีเป็น…” หัวหน้าทีมย่อยคนหนึ่งขมวดคิ้ว
พวกเขาบอดี้การ์ดลับของตระกูลซือ จะปล่อยให้ผู้หญิงคนหนึ่งมาทำให้เสียการได้ยังไง!
“ฮึ…” หลิวอิ่งยกมุมปากขึ้น จนเป็นรอยยิ้มเย็นชา ดวงตาเยียบเย็นอย่างน่าตกใจ “เยี่ยหวันหวั่นเป็นแค่ของเล่นของนายท่านเท่านั้น ข้างกายนายท่านมีคุณหนูรั่วซีอยู่ก็เพียงพอแล้ว เยี่ยหวันหวั่นก็แค่ไฟหิ่งห้อย จะไปชิงดีชิงเด่นกับแสงจันทร์ได้ยังไง”
เขาไม่เชื่อว่านายท่านจะแทรกแซงการแข่งขันชิงตำแหน่งหัวหน้าบอดี้การ์ดเพื่อผู้หญิงแบบนี้
“ก็ใช่ งั้นเรื่องที่สืออีคำนับเยี่ยหวันหวั่นเป็นอาจารย์ คงคิดว่าเยี่ยหวันหวั่นเป็นฟางช่วยชีวิต หลงคิดว่าเยี่ยหวันหวั่นมีฝีมือการต่อสู้อะไร เลยจะเรียนจากเธอ มาแข่งกับหัวหน้า” หัวหน้าทีมย่อย 3 พูดพลางหัวเราะ
หลิวอิ่งยิ้มเย็น จะสืออีก็ดี เยี่ยหวันหวั่นก็ช่าง เขาไม่เคยเห็นอยู่ในสายตา
หัวหน้าหลงผู้หญิงคนหนึ่งจนแทบเสียสติ แต่ว่าเยี่ยหวันหวั่นนั่นมีคุณสมบัติอะไรที่จะเข้าตระกูลซือ เป็นนายหญิงของตระกูลซือ?
“อนาคตของเขา เป็นถึงนายหญิงตระกูลซือ พวกเราน่ะนะ ระวังตัวไว้บ้างก็ดี” หัวหน้าทีมย่อยคนหนึ่งพูดขึ้น
หลิวอิ่งปรับเปลี่ยนท่านั่ง กวาดสายตามองทุกคนในห้อง “นายหญิงของตระกูลซือในอนาคต มีแค่คุณหนูฉินรั่วซีเท่านั้น”
“หัวหน้าหลิวอิ่งพูดถูกแล้ว เยี่ยหวันหวั่นนั่นเป็นใคร จะเทียบกับคุณหนูฉินรั่วซีได้ยังไง”
“คุณหนูฉินรั่วซี ไม่ว่าจะเป็นฐานะที่บ้าน หรือความสามารถส่วนตัว ไม่ใช่อะไรที่ผู้หญิงอย่างเยี่ยหวันหวั่นจะเทียบด้วยได้แน่นอน”
…………………………………………………………
[1] หอที่อยู่ใกล้น้ำ ได้รับแสงจันทร์ก่อน เป็นสำนวนจีน หมายถึงอาศัยความใกล้ชิดหรือความสนิทเพื่อให้ได้รับประโยชน์ก่อนผู้อื่น