แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 655 คุณมานี่สิ ผมจะบอกให้ บทที่ 656 น้องสาว เธอชนะแล้ว
- Home
- แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี
- บทที่ 655 คุณมานี่สิ ผมจะบอกให้ บทที่ 656 น้องสาว เธอชนะแล้ว
บทที่ 655 คุณมานี่สิ ผมจะบอกให้
ดวงอาทิตย์ค่อยๆ ลดต่ำลง สีท้องฟ้ายิ่งมืดลง
ในพริบตาเวลาผ่านไปสองชั่วโมงกว่าแล้ว รอบๆ ด้านมืดมิด
สถานที่น่ากลัวนี่ไม่มีหมู่บ้านหรือร้านค้าเลย บนภูเขายังเป็นสุสานอีก ป่ามืดทึบ เย็นยะเยือก
เหอจวิ้นเฉิงถูๆ แขน สาปแช่งเสียงเบา โทรไปไม่รู้กี่สายแล้ว “คุณชายเยี่ย นายเรียกรถได้หรือยัง ไม่ใช่ว่าเสียกลางถนนอีกนะ หรือไม่อย่างนั้นฉันไปรับนายดีกว่า!”
“ใกล้แล้วๆ อีกห้านาทีได้!”
เมื่อกี้เขาก็บอกว่าห้านาที! ไอ้เด็กนี่เห็นได้ชัดว่าจงใจ!
เหอจวิ้นเฉิงโมโหจนเกือบจะด่าแม่แล้ว “รถฉันอยู่ตรงหน้าป้ายสัญลักษณ์ นายมาตรงนี้เลย!”
“ได้ รู้แล้ว!”
เยี่ยมู่ฝานวางสายไป ดื่มไวน์แดงไปครึ่งค่อนขวดแล้ว นิตยสารกับเอกสารเป็นกองก็อ่านจบ ในที่สุดถึงลุกขึ้นยืนช้าๆ เตรียมตัวออกไปข้างนอก
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป ในที่สุดเยี่ยมู่ฝานก็นั่งรถแท็กซี่มา มาสายมาก
เหอจวิ้นเฉิงรอเยี่ยมู่ฝานมาสี่ชั่วโมงเต็ม ทั้งตัวเขาแทบจะระเบิดแล้ว
ปรากฏว่าตอนที่เห็นเยี่ยมู่ฝานก็ยังยิ้มตาหยี “โอ้ย คุณชายเยี่ย ในที่สุดนายก็มาแล้ว! วันนี้โชคไม่ดีเลย เกิดเรื่องตลอดทาง แต่ไม่เป็นไร เรื่องดีๆ ย่อมมีอุปสรรค เรื่องดีๆ ย่อมมีอุปสรรค!”
รู้อยู่แก่ใจว่าเยี่ยมู่ฝานจงใจ แต่เขาก็ยังพูดอะไรไม่ได้
บ้าชิบ รอเขาจัดการเรื่องสำคัญก่อน ดูซิว่าเขาจะเล่นงานมันยังไง!
“แต่ว่าคุณชายเยี่ย ทำไมนายถึงนัดเจอที่สถานที่แบบนี้ เปลี่ยนที่ดีไหม จะได้นั่งคุยแล้วดื่มอะไรไปพลาง?” เหอจวิ้นเฉิงรู้สึกว่าที่นี่น่ากลัวเกินไป
เยี่ยมู่ฝานจุดบุหรี่มวนหนึ่ง ค่อยๆ สูบ พ่นควันเป็นวงกลมออกมา “นี่ที่ดีออก เงียบสงบ ไม่มีคน”
“ได้ๆๆ ถ้านายชอบก็ได้ งั้นพวกเราคุยธุระกันเถอะ ขอแค่นายยอมทำงานให้ฉันต่อ ทุกเดือนฉันจะให้นายหนึ่งหมื่นหยวน ว่าไง พอใจไหม” เหอจวิ้นเฉิงรีบบอกจุดประสงค์ของตัวเอง
เยี่ยมู่ฝานสูบควันบุหรี่เข้าไป ปากบ่นพึมพำว่า “หนึ่งหมื่นเหรอ…”
เห็นเยี่ยมู่ฝานลังเล เหอจวิ้นเฉิงจึงพูดอย่างใจป้ำ “เอางี้ ฉันให้นายสองหมื่น! พนักงานบริษัทก็ราคานี้แล้ว!”
เยี่ยมู่ฝานได้ยินก็หัวเราะเสียงต่ำ
“งั้น…สามหมื่น? สามหมื่นนี่เกือบจะเท่าเงินเดือนฉันแล้วนะ!” เหอจวิ้นเฉิงพูดด้วยน้ำเสียงมีเมตตา
หึ เงินเดือนเขาสามหมื่น แต่รายได้ที่มาจากชื่อเสียงเขามากกว่าตัวเลขนี้เป็นร้อยเท่า นี่ดูถูกกันอยู่นะ…
เหอจวิ้นเฉิงพูดอย่างหนักแน่น “คุณชายเยี่ย ฉันรู้ว่าชีวิตนายตอนนี้ไม่ง่ายเลย ตัวนายเองก็รู้สถานการณ์ตัวเองดี อารองในตระกูลนายนั่นไม่ใช่คนที่ต่อกรด้วยง่ายๆ ไม่มีทางให้นายออกหน้าหรอก
พูดตามตรง นายไปที่ไหนก็ไม่ได้ราคานี้แล้ว ถึงขั้นอาจจะไม่ได้เข้าแม้แต่ประตูบริษัทด้วยซ้ำ พ่อนายก็ติดหนี้เป็นก้อน อยู่กับฉันอย่างน้อยนายก็ไม่ต้องกังวลเรื่องความเป็นอยู่ไม่ใช่เหรอ”
เยี่ยมู่ฝานเลิกคิ้ว “พูดจามีเหตุผล…”
พอเห็นมีหวัง เหอจวิ้นเฉิงมีสีหน้าดีใจทันที “นายยังต้องการอะไร พูดมาได้เลย!”
เยี่ยมู่ฝานยิ้มอ่อน ลากเสียงพูดว่า “ผมอยากได้อะไร… คุณมานี่สิ ผมจะบอกให้!”
เหอจวิ้นเฉิงรีบโน้มตัวเข้าไปอย่างกระตือรือร้น
เยี่ยมู่ฝานทิ้งบุหรี่ในมือ ใช้ฝ่าเท้าขยี้จนดับ จากนั้นยิ้มมุมปาก มองไปทางเหอจวิ้นเฉิง
วินาทีต่อมา ช่วงเวลาที่เหอจวิ้นเฉิงเดินมาตรงหน้าเขา มีเสียง ‘ผัวะ’ ดังมากขึ้นมา
“โอ้ย…” เหอจวิ้นเฉิงที่เพิ่งโน้มเข้ามาร้องโอดครวญน่าสมเพช โดนหมัดชกเข้าจนร่วงไปที่พื้น
…………………………………………………………….
บทที่ 656 น้องสาว เธอชนะแล้ว
เหอจวิ้นเฉิงโดนซัดจนตาลายไปหมด นานมากกว่าจะได้สติกลับมา กุมจมูกที่เลือดเริ่มไหลพลางตะคอกเสียงดัง “เยี่ยมู่ฝาน นายเป็นบ้าไปแล้ว!”
เยี่ยมู่ฝานเดินทีละก้าวเข้าไปใกล้ด้วยบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความคุกรุ่น “ยังมีบ้ามากกว่านี้ได้อีก อยากลองดูไหม”
เหอจวิ้นเฉิงเผยสีหน้าหวาดผวาให้เห็น “นาย… นายคิดจะทำอะไร อย่าทำบ้าๆ นะ! โอ๊ย… นายทำอะไรวะ!”
เหอจวิ้นเฉิงเป็นคนขี้ขลาดตาขาว ส่วนเยี่ยมู่ฝานมีเรื่องทะเลาะมาตั้งแต่เด็กจนโต เหอจวิ้นเฉิงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาเลย ไม่กี่ทีก็โดนเขาใช้กำลังคุมไว้ได้ โดนมัดแน่นด้วยเชือกที่ไม่รู้ไปเอามาจากไหน
“เยี่ยมู่ฝาน! ปล่อยฉัน นายคิดถึงผลที่ตามมาให้ดี!”
เยี่ยมู่ฝานไม่สนใจเสียงตะโกนเรียกร้องของเหอจวิ้นเฉิง ล้วงมือถือจากตัวเขาโยนทิ้งไป จากนั้นลากขึ้นเขาไปเหมือนอุ้มลูกไก่ตลอดทาง
สุดท้าย เยี่ยมู่ฝานโยนเหอจวิ้นเฉิงลงไปตรงกลางสุสานเหมือนถุงกระสอบ “ผู้อำนวยการใหญ่เหอ สนุกกับค่ำคืนนี้ไปเถอะ!”
เหอจวิ้นเฉิงกวาดตามองไปรอบๆ หลุมฝังศพที่วางเรียงราย ขนลุกชันขึ้นมา ตกใจจนร้องเสียงแหบว่า “แม่งเอ๊ย! ปล่อยฉัน! ปล่อยฉัน! เยี่ยมู่ฝาน! แม่แกตาย”
ตอนนี้เขารู้แล้วว่าทำไมเยี่ยมู่ฝานถึงนัดเจอเขาในสถานที่แบบนี้ แต่ว่าก็สายไปเสียแล้ว
เยี่ยมู่ฝานประสานมือไว้หลังศีรษะ มองแสงจันทร์อยู่เหนือขึ้นไป ฟังเสียงร้องโวยวายของเหอจวิ้นเฉิงพลางเดินลงเขาไปอย่างสบายใจ
“เยี่ยมู่ฝาน! แกมันไอ้ชาติชั่ว!”
“ช่วยด้วย… ช่วยด้วย…มีใครอยู่ไหม…”
“รีบมาช่วยหน่อย!”
เหอจวิ้นเฉิงตะโกนร้องแบบนี้อยู่ทั้งคืน แต่ว่ากลางดึก ในสุสานนี้ ถ้ามีผีสิถึงไม่แปลก จะมีคนได้ยังไง
…….
หลังจากกลับมา เยี่ยมู่ฝานนอนหลับจนตื่นขึ้นมาเอง ผิวพรรณเนียนนุ่มเปล่งปลั่ง มาถึงบริษัทอย่างอารมณ์ดี
เพิ่งมาถึงห้องทำงานก็ได้ยินเสียงเพื่อนร่วมงานซุบซิบนินทาอะไรกันอยู่
“ถามจริง! ล้อเล่นหรือเปล่า เหอจวิ้นเฉิงจริงเหรอ เหอจวิ้นเฉิงที่เป็นผู้อำนวยการฝ่ายสไตล์ลิสต์ของจวี๋ซิงเอ็นเตอร์เทนเมนต์คนนั้นน่ะนะ”
“ถ่ายเห็นหน้าชัดมาก เป็นเขาไม่ผิดแน่!”
“เขาไปทำให้ใครโกรธเข้า ถึงกับโดนคนมัดเอาไปโยนทิ้งในสุสาน!”
……
“คุยอะไรกันอยู่” เยี่ยมู่ฝานเหมือนได้ยินชื่อเหอจวิ้นเฉิงแว่วๆ จึงเดินเข้าไป
“ผู้อำนวยการเฟลิกซ์!”
“อรุณสวัสดิ์ครับผู้อำนวยการ!”
“พวกเรากำลังคุยกันเรื่องโพสต์ประเด็นร้อนในเวยป๋อเช้านี้กันอยู่ มีคนไปกวาดสุสานตอนเช้าตรู่ที่ภูเขาหลงเชียน เจอผู้ชายคนหนึ่งถูกมัดโยนไว้ในหลุมฝังศพ คนที่เจอตกใจจนเกือบนึกว่าเจอผี และถ่ายรูปมาลงอินเทอร์เน็ต ปรากฏว่ามีชาวเน็ตเจอว่าผู้ชายคนนั้นคือเหอจวิ้นเฉิงแห่งจวี๋ซิงเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คุณว่าประหลาดไหมล่ะ”
เยี่ยมู่ฝานเลิกคิ้วเล็กน้อย พูดโดยที่สีหน้าไม่เปลี่ยน “อืม ประหลาดมาก”
เวลานี้ มือถือเยี่ยมู่ฝานดังขึ้นมา โชว์ว่าเยี่ยหวันหวั่นโทรมาหา
สีหน้าสบายใจเฉิบของเยี่ยมู่ฝานเปลี่ยนเป็นตื่นเต้นทันที เขารีบเดินไปที่ห้องน้ำ จากนั้นรับสายด้วยความระมัดระวัง “ฮัลโหล หวันหวั่นเหรอ…”
น้ำเสียงเยี่ยหวันหวั่นไม่ค่อยดีอย่างที่คิดไว้ เธอพูดอย่างไม่อ้อมค้อม “เรื่องเหอจวิ้นเฉิง พี่ทำใช่ไหม”
แย่แล้ว! ถูกจับได้แล้วจริงด้วย
เยี่ยมู่ฝานร้อนตัว พูดจาตะกุกตะกัก “คือว่านั่น น้องสาวฉัน แก… แกอย่าเพิ่งโกรธ อีกหน่อยฉันจะไม่วู่วามแล้ว และจะไม่ทำ…”
“ทำไมไม่ถอดเสื้อผ้าเขาให้หมดแล้วค่อยมัด อีกอย่าง พี่ไม่คิดว่าเอาไปโยนไว้หน้าประตูสำนักงานใหญ่สมาคมการจัดการแฟชั่นที่เมืองหลวงจะดีกว่าเหรอ?” อีกฟากของมือถือ น้ำเสียงเยี่ยหวันหวั่นดูไม่ค่อยพอใจนัก
“เอ่อ…” คำพูดของเยี่ยมู่ฝานหลังจากนี้ถูกกลืนกลับเข้าไปทันใด
น้องสาว เธอชนะแล้ว…
………………………………………………………..