แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 791 ศพกระตุก บทที่ 792 เหตุการณ์ชนโถ
บทที่ 791 ศพกระตุก?
ทันใดนั้น ร่างของเยี่ยหวันหวั่นสั่นเทาเล็กน้อย ดวงตาฉายแววแตกตื่นหวาดกลัว ในหัวอดคิดถึงภาพที่น่าสะพรึงซึ่งตนเคยเห็นมาก่อนไม่ได้
หรรือว่า…เธอจะเจอผีแล้ว?
‘คงไม่ใช่ศพกระตุกหรอกมั้ง?!’
เยี่ยหวันหวั่นรู้สึกแค่ว่ามีลมเย็นๆ พัดอยู่ที่ด้านหลัง ทำเอาต้องหนาวสั่น
จากนั้นเยี่ยหวันหวั่นก็เปิดประตูรถเข้าไปนั่งด้านในด้วยความเร็วสี่คูณร้อย
หลังจากสงบสติอารมณ์แล้ว เยี่ยหวันหวั่นหยิบโทรศัพท์ออกมา ตอนแรกจะโทรหาซือเยี่ยหาน แต่ก็กลัวเขาจะเป็นห่วงอีก…
ดังนั้นจึงเปลี่ยนใจ โทรเรียกตำรวจมาจัดการดีกว่า
“เบอร์ตำรวจคืออะไรนะ…” เยี่ยหวันหวั่นเงยหน้าขึ้นพึมพำ
“เบอร์โทรหาตำรวจน่าจะเป็นหนึ่งหนึ่งศูนย์ละมั้ง” ทันใดนั้น มีเสียงที่ไพเราะเสนาะหูดังมาจากในรถ
“หนึ่งหนึ่งศูนย์เป็นแผนกรักษาความปลอดภัย…จำได้ว่าถ้าจะโทรหาตำรวจต้องเป็น…”
เยี่ยหวันหวั่นยังไม่ทันพูดจบ ม่านตาก็หดตัว ถ้าเกิดว่าด้านในรถมีพื้นที่พอ เธอคงกระโดดขึ้นมาแต่แรกแล้ว
เหงื่อเย็นเยียบผุดพรายออกมาจากหน้าผากของเธอ หญิงสาวมองผ่านกระจกหลังของรถ แล้วพบว่าเบาะนั่งด้านหลังไม่รู้ว่ามีชายหนุ่มคนหนึ่งขึ้นมานั่งตั้งแต่เมื่อไร
ชายหนุ่มไว้ผมขาวยาวถึงเอว เครื่องหน้างดงามละเอียดอ่อน ใต้วงคิ้วเป็นดวงตาทรงเสน่ห์ที่เหมือนกระชากวิญญาณได้ ใบหน้าหล่อเหลา ดวงตาราวกับดาวจรัสฟ้า แค่นั่งนิ่งๆ แต่กลับแสดงความสง่างามออกมาได้หมดจด
ดวงตาที่สงบสง่างามคู่นั้น เมื่อจับอยู่บนร่างของเยี่ยหวันหวั่น มุมปากก็ยกเป็นรอยยิ้มที่คล้ายมีคล้ายไม่มี
ผู้ชายคนนี้เหมือนเดินออกมาจากในภาพวาด บนตัวแฝงกลิ่นอายลึกลับ เพียงมองแวบเดียวก็ทำให้คนหลงใหลจนไม่อาจถอนตัวได้
ทว่าเยี่ยหวันหวั่นกลับไม่มีความคิดชื่นชมใดๆ มองผู้ชายบนเบาะหลังราวกับเห็นผี
“คุณผู้หญิง…คุณ…เมื่อครู่คุณชนผมน่ะ” เหมือนอยากจะทำลายความเงียบในตอนนี้ ชายหนุ่มใช้ดวงตาที่กระชากวิญญาณได้คู่นั้นมองเยี่ยหวันหวั่น แล้วลดเสียงพูดกลั้วหัวเราะเบาๆ
พูดจบ เขาก็เอียงตัวเข้าใกล้เยี่ยหวันหวั่น
ทว่าในพริบตานั้น เยี่ยหวันหวั่นใช้แรงทั้งหมดต่อยใส่ใบหน้าที่สมบูรณ์แบบไร้รอยตำหนิของชายหนุ่มตามสัญชาตญาณ
ขณะนั้น ในห้วงความคิดของเยี่ยหวันหวั่นสับสนอยู่บ้าง ตอนที่ตนขับรถเมื่อครู่ คล้ายจะชนใส่คนคนนี้ด้วยความเร็วสูงสุด
ตามหลักเหตุผลแล้ว ด้วยแรงชนจากรถก่อนหน้านี้ ต่อให้เป็นร่างของผู้ใหญ่ ขอแค่เป็นคนธรรมดาก็เกรงว่าจะแหลกในชั่วพริบตา ผู้ชายคนนี้กลับไม่เป็นอะไรเลยเหรอ?!
ในหัวของเยี่ยหวันหวั่นปรากฏคำว่า ‘ศพกระตุก’
แทบในชั่วพริบตา เยี่ยหวันหวั่นทำท่าจะเปิดประตูรถหนีไป แต่ผู้ชายคนนั้นกลับใช้แขนข้างหนึ่งดึงเธอกลับมา
“พี่ชาย…เมื่อกี้ฉันไม่ได้ตั้งใจชนคุณนะ!” สีหน้าเยี่ยหวันหวั่นหวาดกลัวอยู่บ้าง
“อ้อ ไม่เป็นไร ถึงยังไงก็ไม่เจ็บไม่คันอยู่แล้ว” ชายหนุ่มอมยิ้ม อ่อนโยนสง่างาม
“ไม่…ไม่เป็นไรเหรอ?” ตอนนี้เยี่ยหวันหวั่นกล้าสำรวจชายหนุ่มอย่างละเอียดแล้ว พอมองดูก็เห็นว่าไม่เป็นไรจริงๆ
ทว่าก็เป็นเพราะไม่เป็นไรนี่แหละ เธอถึงได้กลัว!
คนปกติคงถูกชนตายไปแล้ว ถ้าไม่ตายอย่างน้อยก็ต้องเจ็บหนัก คนคนนี้กลับไม่เป็นอะไรเลย?!
“ครั้งหน้าขับรถก็ระวังหน่อย ครั้งนี้โชคดีที่ชนใส่ผม ต่อจากนี้ถ้าชนคนอื่นเข้าจะเป็นยังไง” ชายหนุ่มพูดด้วยท่าทางอย่างผู้ใหญ่
“ค่ะๆๆ…พี่ชายพูดถูกแล้ว…พี่ชาย ตกลงแล้วเป็นคนหรือเป็นผีคะเนี่ย?” เยี่ยหวันหวั่นถามอย่างระมัดระวัง
ได้ยินคำพูดนี้ของเยี่ยหวันหวั่น ชายหนุ่มมีสีหน้างงงวย “คุณ…คิดว่าผมถูกคุณชนตายเหรอ?”
เยี่ยหวั่นหวั่นขมวดคิ้ว ก็ไม่ใช่นึกว่าเขาถูกตัวเองชนตายหรือไง?
—————————————————————
บทที่ 792 เหตุการณ์ชนโถ
ชายหนุ่มที่ไว้ผมสีขาวยาวถึงเอวคล้ายจะไม่เหมือนกับที่ตนคิดไว้…
สถานการณ์เมื่อครู่ทำให้เยี่ยหวันหวั่นลนลานไปบ้าง
“ผมเป็นคน ไม่ใช่ผี” ชายหนุ่มกล่าวเสียงอ่อนโยน
ในตอนนี้เยี่ยหวันหวั่นมีสีหน้าประหลาดใจ “เมื่อกี้ฉันได้ชนคุณจริงๆ หรือเปล่า?”
เยี่ยหวันหวั่นมองผู้ชายผมขาวตรงหน้า ท่าทางสงสัยกว่าเดิม รถชนจนบุบแบบนี้ แต่เขากลับไม่ตาย?
“ชนผมนั่นแหละ เจ็บอยู่นิดหน่อย” ชายผมขาวครุ่นคิดเล็กน้อย จากนั้นก็พยักหน้าด้วยสีหน้าแน่ใจ
“คุณ…ไม่เป็นไรจริงๆ เหรอ ให้ฉันไปส่งที่โรงพยาบาลไหม” เยี่ยหวันหวั่นขมวดคิ้วถาม
“ไม่เป็นไร ไม่ต้องห่วง” ชายหนุ่มผมขาวยิ้มตอบ
“งั้นก็ดี” เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้า ก่อนกล่าวว่า “ชดใช้เงินมาเถอะ”
พอได้ยินเยี่ยหวันหวั่น ชายหนุ่มผมขาวงงงันเล็กน้อย “คุณชนผม แต่ตอนนี้ผมต้องชดใช้เงินให้คุณเหรอ?”
“ถึงจะพูดแบบนั้น แต่ต่อให้ฉันเป็นคนชนคุณก็จริง คุณก็ไม่เป็นอะไร แต่รถฉัน…มันเป็นไง!” เยี่ยหวันหวั่นเปิดประตูรถ ลากชายผมขาวลงมา ชี้ไปที่หน้ารถของตัวเองพลางพูด “คุณดูสิ รถฉันถูกคุณชนจนกลายเป็นแบบนี้ ถ้าคุณไม่ชดใช้เงิน วันนี้ก็อย่าคิดไปไหนเลย”
“คุณผู้หญิง เงินทองเป็นของนอกกาย ตายไปก็เอาไปด้วยไม่ได้ อย่าโลภขนาดนั้นเลย ยิ่งไปกว่านั้นผมก็ไม่มีเงินด้วย” ชายผมขาวส่ายหน้า
“ฉันไม่สน คุณชนรถฉันจนมีสภาพแบบนี้ ไม่จ่ายไม่ได้” เยี่ยหวันหวั่นว่า
“คุณไปเอานิสัยหน้าไม่อายแบบนี้มาจากไหนกันเนี่ย” ชายผมขาวอึ้งอยู่กับที่ มองเยี่ยหวันหวั่นอย่างประหลาดใจ
ไม่รอให้เยี่ยหวันหวั่นพูดต่อ ชายผมขาวก็พลันนอนลงข้างเท้าเยี่ยหวันหวั่น “คุณ…คุณทำร้ายผม คุณต้องจ่ายค่ารักษาให้ผม…”
“ฉันไปทำร้ายคุณตอนไหน?” เยี่ยหวันหวั่นอึ้งงัน
“ในรถเมื่อกี้ไง…คุณต่อยใส่ผมหมัดหนึ่ง…รีบจ่ายค่ารักษามาสิ ผมไม่ไหวแล้ว…” ชายผมขาวปั้นสีหน้าเจ็บปวด
เยี่ยหวันหวั่นอับจนคำพูด
เมื่อครู่ตอนอยู่ในรถ เธอต่อยเขาไปหมัดหนึ่งจริงๆ เพราะความตกใจ แต่ว่าผ่านไปตั้งนานแล้ว ชายผมขาวคนนี้ถึงค่อยร้องโอดโอย ปฏิกิริยาตอบสนอง…จะช้าเกินไปแล้วมั้ง!
“พอๆ เลิกเสแสร้งได้แล้ว ไม่ใช่เรื่องใหญ่ คุณไม่ต้องจ่ายค่ารถก็ได้” เยี่ยหวันหวั่นถอนใจ
“อยู่ๆ ผมก็รู้สึกว่าหมัดของคุณเมื่อกี้ไม่ได้หนักอะไรมาก รู้สึกดีขึ้นเยอะเลย” ชายผมขาวค่อยๆ ลุกขึ้นยืน
“เหอะๆ…” เยี่ยหวันหวั่นหัวเราะ “คุณแกล้งทำจริงๆ ด้วย ค่ารถยังต้องจ่ายชดเชย”
“เฮ้อ…ไม่ไหวแล้ว ผมรู้สึกว่าหมัดของคุณหนักไปหน่อย…รีบจ่ายค่ารักษาให้ผมเร็ว…” ชายผมขาวทำหน้าเจ็บปวด นอนลงกับพื้นอีกครั้ง
เยี่ยหวันหวั่นเหลือจะทน เมื่อกี้ทำไมถึงไม่ชนหมอนี่ให้ตายไปเลย…
สุดท้ายเยี่ยหวันหวั่นกับชายผมขาวปรึกษากัน ในที่สุดทั้งสองคนก็นับว่าหายกันไป ต่างฝ่ายต่างโทษกันไม่ได้
หลังจากชายผมขาวเห็นด้วยถึงค่อยลุกขึ้นมาจากพื้น
“ไม่มีอะไรแล้วงั้นฉันไปก่อนละ” เยี่ยหวันหวั่นทำท่าจะขึ้นรถ
เห็นดังนั้น ชายผมขาวจึงเอาแขนขวางเยี่ยหวันหวั่นไว้ “คุณต้องชดใช้เงินให้ผม!”
“อะไรนะ?” เยี่ยหวันหวั่นงงงัน พวกเธอสองคนไม่ใช่ว่าตกลงกันแล้วเหรอ ทำไมถึงต้องให้ตนจ่ายเงินอีก
“เรื่องหมัดนั่นจบแล้ว แต่เรื่องที่คุณขับรถชนผมจนมีสภาพนี้ คุณต้องชดใช้เงิน” ชายหนุ่มยืนกราน
“คุณไม่เป็นไรไม่ใช่เหรอ” เยี่ยหวันหวั่นมุมปากกระตุกเบาๆ
“โอ๊ย…ผมไม่ไหวแล้ว เกือบจะถูกคุณชนตาย…วันนี้คุณต้องชดใช้เงินให้ผม…” ชายหนุ่มปั้นหน้าเจ็บปวด จากนั้นนอนลงกับพื้นเป็นครั้งที่สาม
………………………………..